มีคนเคยถามครอบครัวผมบ่อยๆ ว่า ทำไม เกลียด ทักษิณ ชัง ยิ่งลักษณ์ นักหนา ... จริงๆ แล้วมันมีหลายสาเหตุ เพราะครอบครัวผมไล่ตั้งแต่ เตี่ย ม๊ะ น้องสาว อาเจ็ก อาโก และญาติๆ ส่วนใหญ่ จะต่อต้านและเกลียดคนคนนี้กับพรรคพวกของมันอย่างมากสุดจะบรรยาย เพราะอะไรนะหรือครับ เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง หวังว่าคงมีหลายคนที่รู้สึกเหมือนผม
คนแรก เตี่ย หรือ ป๊ะ ที่ผมเรียก แกจะจงเกลียดจงชัง ทักษิณ มากที่สุด เคยเข้าไปร่วมกับชุมนุมพันธะมิตรบ่อยๆ ที่บ้านก็มีเสื้อสีเหลืองสีชมพู ผ้าพันคอสีฟ้า ผ้าโพกหัวเหลือง มือตบครบครัน ป๊ะ พูดเสมอว่า ทักษิณ มันชั่วมันโกง มันทำให้การทำมาค้าขายของครอบครัวเราลำบากอย่างแสนสาหัส ตอนมันเป็นนายกฯ รายได้หลักของที่บ้านมาจาก "การค้าตัวเลข" ที่จะคึกคักมากๆ ทุกๆ 15 วัน แม้การค้านี้จะต้องหลบๆซ่อนๆ ซ้ำยังต้องจ่ายให้ตำรวจบ้าง แต่ก็ทำรายได้ให้ ป๊ะ เดือนนึงหลายล้านบาท ... กรรมเวรจริงๆ ที่ ทักษิณ มันดันมาทำแข่ง แถมไม่ต้องจ่ายตำรวจ ชาวบ้านมันก็ได้รับโควต้าเดินขายกันอย่างเปิดเผย รางวัลก็ให้เยอะไม่มีเบี้ยว ถูกเต็มจ่ายเต็ม ลูกค้าประจำเตี่ยหายหน้าไปเกือบหมด รายได้หดหายจนเกือบทำให้ครอบครัวล่มสลาย ... มันสมควรจะแค้นใจไหมละครับอย่างนี้
คนที่สองก็ ม๊ะ ที่เป็นคนไทย พี่ชายคนโตของม๊ะ(ลุง) เป็นนักการเมืองสังกัดพรรคสุดที่รักของครอบครัวเราคือ ประชาธิปัตย์ แกเล่นการเมืองมานานหลายปี ตั้งแต่ระดับท้องถิ่น(สท. อบต. อบจ. สจ.)จนตอนนี้ระดับประเทศ(สส.) จริงๆ แล้ว ม๊ะ เกลียดทักษิณ ก็เพราะมันทำให้ลุงของผมกลายเป็น สส.สอบตกมาเป็นสมัยที่ 4 จากที่แกเคยมีบ้านหลังใหญ่ มีที่ดินเยอะแยะ เงินในธนาคารก็ไม่น้อย แต่เดี๋ยวนี้เหมือนกับคนหมดเนื้อหมดตัว เพราะการเลือกตั้งแต่ละครั้งมันใช้เงินเยอะจริงๆ เลือกตั้งทีก็ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านที่ต้องจ่าย ... กะว่าจะได้เป็น สส. แล้วจะสามารถหารายได้มาคืนทุน ก็ปิ๋วมาหลายครั้ง ตอนนี้ก็เริ่มถอดใจ เพราะจะย้ายพรรคก็ย้ายไม่ได้ ด้วยไป "กู้" เงินจากพรรคที่สังกัดมาเยอะ ต้องทำงานรับใช้กันต่อไป
ต่อมาก็เป็นตัวผม ที่เรียนจบเป็นหมอจากมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ของประเทศ ... ความภาคภูมิใจของครอบครัวที่ตอนนี้ โดนทักษิณ ทำลายความเชื่อมั่นลงไปไม่น้อย ... ตอนจบมาใหม่ๆ ได้รู้จักนโยบาย 30 บาท ซึ่งยังไม่ประกาศใช้ แต่ก็หวั่นใจว่า ตัวเราจะโดนกระทบแน่ๆ ... พอจบเฉพาะทางมาสักพักก็ขอเงินเตี่ยเปิดคลีนิคที่ห้องแถวของป๊ะที่อยู่ในเมือง ลูกค้าล้นหลามเลยทีเดียวด้วยผมได้แนะนำชาวบ้านตอนไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ว่าหากจะให้สะก็ให้มาที่คลีนิก(อาจจะเพราะผมรักษาเก่งด้วยมั๊ง ฮา) ... เหมือนหวยล็อคตอน ป๊ะ เจอแล้วหงายผึ่ง โครงการนี้ทำให้ผมแทบล้มทั้งยืน จากงานที่ว่าหนักอยู่แล้วในโรงพยาบาล พอเอามาบังคับใช้ โหยยย คนป่วยเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว เหนื่อยกันหมดไล่ตั้งแต่ภารโรงยันหมอใหญ่ อลหม่านกันน่าดู ... เคยแว่บกลับไปคลีนิคช่วงพักเที่ยงได้ง่ายๆ แต่ตอนนั้นมันรัดตัวจนแทบไม่มีเวลากินข้าวเที่ยง ... ลูกค้าที่คลีนิกก็ลดน้อยลงเสียรายได้ไปมากโข ... โดยเฉพาะตอนจะสั่งยา ดันมีเรื่องเปลี่ยนมาให้สั่งจากส่วนกลาง พวกหมอๆ ไม่สามารถคุยกับพวกเซลล์ขายยาได้เหมือนแต่ก่อน เซ็งเป็ดครับท่าน ... แค้นนี่ไม่มีวันลืม
น้าคนรองจาก ม๊ะ รายนี้เกลียดถึงกับลั่นวาจาว่าอยากจะฆ่า ทักษิณ ให้ตายเลยทีเดียว ... ก็ไม่รู้ว่าแกแค้นอะไรหนักหนา เห็นว่าแกเคยไปทำธุรกิจแถวชายแดนอยู่บ่อยๆ นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ(พม่า,ลาว)หรืออะไรสักอย่าง ช่วงก่อนหน้านั้นหลายปี แกรวยมากกกกกกกก มีรถเบ๊นซ์รถบีเอ็มเกือบครึ่งโหล(มีเมียเยอะด้วย ม๊ะ บ่น) มีบ้านหลายหลัง ที่ดินทรัพย์สินอีกเยอะมาก นานๆ แกจะกลับมาเยี่ยมม๊ะ ลูกน้องแกก็เยอะล้อมหน้าล้อมหลัง กลับบ้านทีรถสี่ห้าคันขับตามกันมา ดูยิ่งใหญ่และมีอำนาจมากน้าเรา ... แต่อนิจจา หลังทักษิณ เป็นนายกได้ไม่นาน จากคนที่เคยดูว่ามีบารมีและเงินทอง แกต้องมายืมตังค์ม๊ะไปต่างประเทศ ก็ไม่รู้เหตุผลกลใด ผมได้ยินแต่ว่าแกโดนตำรวจกลั่นแกล้งใส่ร้ายอะไรสักอย่าง บ้านช่องและทรัพย์สินโดนยึดไปหมด... ครอบครัวของม๊ะต้องแตกแยกลำบาก เพราะไอ้ ทักษิณ คนนี้คนเดียวจริงๆ
น้องสาวคนเดียวของผม เพิ่งเรียนจบ ยังไม่หางานทำเป็นชิ้นเป็นอันเพราะไม่ค่อยสนใจอะไรมากมาย แต่จัดว่าเป็นคนสวย(ตามสเป๊กชายไทย)คนหนึ่ง ขาวสวยหน้าหมวยและชอบใส่สายเดี่ยว เที่ยวกับเพื่อนจน ม๊ะ กับ ป๊ะ ด่าประจำ วันๆ ก็หมกตัวแต่ในห้องนั่งเล่นเน็ทแชทบ้าง คุยโทรศัพท์บ้าง ไม่หิวก็นัดเพื่อนไปเที่ยวถึงจะได้ออกจากห้อง ... แต่สิ่งหนึ่งที่คุยกันรู้เรื่องในบ้านเราก็คือ ด่ายิ่งลักษณ์ กับ ทักษิณ เพราะน้องสาวจะมีเวลาเข้าโซเชียลเน็ทเวิร์ก มีการแท็ป แชร์ข้อความที่ด่าและต่อต้านตระกูลชินวัตร เธอก็จะเอามาเล่าให้ฟัง พวกเราก็จะนั่งวิเคราะห์(และด่า)กันให้สะใจ ... รีบๆ ล่มจม
ซะไอ้พวกทักษิณ ชั่วนัก
นี่เป็นตัวอย่างเล็กๆน้อยๆ ที่ผมอยากระบาย เป็นตัวแทนของคนไทยอีกหลายล้านคนที่อาจจะเจอเรื่องราวร้ายๆ อย่างครอบครัวผม ... ชาตินี้ ไม่มีทางญาติดีกับคนชื่อ ทักษิณ และพรรคพวกของมันแน่ๆ
จาก... คน เกลียดนักทักษิณ
..........................................................................................................
เกลียดนัก ทักษิณ
คนแรก เตี่ย หรือ ป๊ะ ที่ผมเรียก แกจะจงเกลียดจงชัง ทักษิณ มากที่สุด เคยเข้าไปร่วมกับชุมนุมพันธะมิตรบ่อยๆ ที่บ้านก็มีเสื้อสีเหลืองสีชมพู ผ้าพันคอสีฟ้า ผ้าโพกหัวเหลือง มือตบครบครัน ป๊ะ พูดเสมอว่า ทักษิณ มันชั่วมันโกง มันทำให้การทำมาค้าขายของครอบครัวเราลำบากอย่างแสนสาหัส ตอนมันเป็นนายกฯ รายได้หลักของที่บ้านมาจาก "การค้าตัวเลข" ที่จะคึกคักมากๆ ทุกๆ 15 วัน แม้การค้านี้จะต้องหลบๆซ่อนๆ ซ้ำยังต้องจ่ายให้ตำรวจบ้าง แต่ก็ทำรายได้ให้ ป๊ะ เดือนนึงหลายล้านบาท ... กรรมเวรจริงๆ ที่ ทักษิณ มันดันมาทำแข่ง แถมไม่ต้องจ่ายตำรวจ ชาวบ้านมันก็ได้รับโควต้าเดินขายกันอย่างเปิดเผย รางวัลก็ให้เยอะไม่มีเบี้ยว ถูกเต็มจ่ายเต็ม ลูกค้าประจำเตี่ยหายหน้าไปเกือบหมด รายได้หดหายจนเกือบทำให้ครอบครัวล่มสลาย ... มันสมควรจะแค้นใจไหมละครับอย่างนี้
คนที่สองก็ ม๊ะ ที่เป็นคนไทย พี่ชายคนโตของม๊ะ(ลุง) เป็นนักการเมืองสังกัดพรรคสุดที่รักของครอบครัวเราคือ ประชาธิปัตย์ แกเล่นการเมืองมานานหลายปี ตั้งแต่ระดับท้องถิ่น(สท. อบต. อบจ. สจ.)จนตอนนี้ระดับประเทศ(สส.) จริงๆ แล้ว ม๊ะ เกลียดทักษิณ ก็เพราะมันทำให้ลุงของผมกลายเป็น สส.สอบตกมาเป็นสมัยที่ 4 จากที่แกเคยมีบ้านหลังใหญ่ มีที่ดินเยอะแยะ เงินในธนาคารก็ไม่น้อย แต่เดี๋ยวนี้เหมือนกับคนหมดเนื้อหมดตัว เพราะการเลือกตั้งแต่ละครั้งมันใช้เงินเยอะจริงๆ เลือกตั้งทีก็ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านที่ต้องจ่าย ... กะว่าจะได้เป็น สส. แล้วจะสามารถหารายได้มาคืนทุน ก็ปิ๋วมาหลายครั้ง ตอนนี้ก็เริ่มถอดใจ เพราะจะย้ายพรรคก็ย้ายไม่ได้ ด้วยไป "กู้" เงินจากพรรคที่สังกัดมาเยอะ ต้องทำงานรับใช้กันต่อไป
ต่อมาก็เป็นตัวผม ที่เรียนจบเป็นหมอจากมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ของประเทศ ... ความภาคภูมิใจของครอบครัวที่ตอนนี้ โดนทักษิณ ทำลายความเชื่อมั่นลงไปไม่น้อย ... ตอนจบมาใหม่ๆ ได้รู้จักนโยบาย 30 บาท ซึ่งยังไม่ประกาศใช้ แต่ก็หวั่นใจว่า ตัวเราจะโดนกระทบแน่ๆ ... พอจบเฉพาะทางมาสักพักก็ขอเงินเตี่ยเปิดคลีนิคที่ห้องแถวของป๊ะที่อยู่ในเมือง ลูกค้าล้นหลามเลยทีเดียวด้วยผมได้แนะนำชาวบ้านตอนไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ว่าหากจะให้สะก็ให้มาที่คลีนิก(อาจจะเพราะผมรักษาเก่งด้วยมั๊ง ฮา) ... เหมือนหวยล็อคตอน ป๊ะ เจอแล้วหงายผึ่ง โครงการนี้ทำให้ผมแทบล้มทั้งยืน จากงานที่ว่าหนักอยู่แล้วในโรงพยาบาล พอเอามาบังคับใช้ โหยยย คนป่วยเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว เหนื่อยกันหมดไล่ตั้งแต่ภารโรงยันหมอใหญ่ อลหม่านกันน่าดู ... เคยแว่บกลับไปคลีนิคช่วงพักเที่ยงได้ง่ายๆ แต่ตอนนั้นมันรัดตัวจนแทบไม่มีเวลากินข้าวเที่ยง ... ลูกค้าที่คลีนิกก็ลดน้อยลงเสียรายได้ไปมากโข ... โดยเฉพาะตอนจะสั่งยา ดันมีเรื่องเปลี่ยนมาให้สั่งจากส่วนกลาง พวกหมอๆ ไม่สามารถคุยกับพวกเซลล์ขายยาได้เหมือนแต่ก่อน เซ็งเป็ดครับท่าน ... แค้นนี่ไม่มีวันลืม
น้าคนรองจาก ม๊ะ รายนี้เกลียดถึงกับลั่นวาจาว่าอยากจะฆ่า ทักษิณ ให้ตายเลยทีเดียว ... ก็ไม่รู้ว่าแกแค้นอะไรหนักหนา เห็นว่าแกเคยไปทำธุรกิจแถวชายแดนอยู่บ่อยๆ นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ(พม่า,ลาว)หรืออะไรสักอย่าง ช่วงก่อนหน้านั้นหลายปี แกรวยมากกกกกกกก มีรถเบ๊นซ์รถบีเอ็มเกือบครึ่งโหล(มีเมียเยอะด้วย ม๊ะ บ่น) มีบ้านหลายหลัง ที่ดินทรัพย์สินอีกเยอะมาก นานๆ แกจะกลับมาเยี่ยมม๊ะ ลูกน้องแกก็เยอะล้อมหน้าล้อมหลัง กลับบ้านทีรถสี่ห้าคันขับตามกันมา ดูยิ่งใหญ่และมีอำนาจมากน้าเรา ... แต่อนิจจา หลังทักษิณ เป็นนายกได้ไม่นาน จากคนที่เคยดูว่ามีบารมีและเงินทอง แกต้องมายืมตังค์ม๊ะไปต่างประเทศ ก็ไม่รู้เหตุผลกลใด ผมได้ยินแต่ว่าแกโดนตำรวจกลั่นแกล้งใส่ร้ายอะไรสักอย่าง บ้านช่องและทรัพย์สินโดนยึดไปหมด... ครอบครัวของม๊ะต้องแตกแยกลำบาก เพราะไอ้ ทักษิณ คนนี้คนเดียวจริงๆ
น้องสาวคนเดียวของผม เพิ่งเรียนจบ ยังไม่หางานทำเป็นชิ้นเป็นอันเพราะไม่ค่อยสนใจอะไรมากมาย แต่จัดว่าเป็นคนสวย(ตามสเป๊กชายไทย)คนหนึ่ง ขาวสวยหน้าหมวยและชอบใส่สายเดี่ยว เที่ยวกับเพื่อนจน ม๊ะ กับ ป๊ะ ด่าประจำ วันๆ ก็หมกตัวแต่ในห้องนั่งเล่นเน็ทแชทบ้าง คุยโทรศัพท์บ้าง ไม่หิวก็นัดเพื่อนไปเที่ยวถึงจะได้ออกจากห้อง ... แต่สิ่งหนึ่งที่คุยกันรู้เรื่องในบ้านเราก็คือ ด่ายิ่งลักษณ์ กับ ทักษิณ เพราะน้องสาวจะมีเวลาเข้าโซเชียลเน็ทเวิร์ก มีการแท็ป แชร์ข้อความที่ด่าและต่อต้านตระกูลชินวัตร เธอก็จะเอามาเล่าให้ฟัง พวกเราก็จะนั่งวิเคราะห์(และด่า)กันให้สะใจ ... รีบๆ ล่มจม ซะไอ้พวกทักษิณ ชั่วนัก
นี่เป็นตัวอย่างเล็กๆน้อยๆ ที่ผมอยากระบาย เป็นตัวแทนของคนไทยอีกหลายล้านคนที่อาจจะเจอเรื่องราวร้ายๆ อย่างครอบครัวผม ... ชาตินี้ ไม่มีทางญาติดีกับคนชื่อ ทักษิณ และพรรคพวกของมันแน่ๆ
จาก... คน เกลียดนักทักษิณ
..........................................................................................................