เราไปหาหมอที่โรงพยาบาลนึงมาค่ะ  หมอเป็นอาจารย์หมอ (แม่เราแนะนำมา เพราะแม่ก็ตรวจกับอาจารย์หมอคนนี้เหมือนกัน)  เราไปตรวจเกี่ยวกับไมเกรนค่ะ  เป็นมาหลายปีแล้ว  และหนักขึ้นเรื่อยๆ (หมายถึงไวต่อสิ่งเร้ามากขึ้น  ทำให้ปวดหัวได้ง่ายมากขึ้น) เลยตัดสินใจหาหมอแบบจริงจัง  อันนี้คือเล่าประวัติคร่าวๆนะคะ ไม่รู้ว่าเกี่ยวกะคำถามที่จะมั๊ย เผื่อประกอบข้อมูลได้ ทีนี้ ปัญหาของเราคือ  ทุกครั้งคุณหมอเหมือนจะตรวจการตอบสนองของร่างกาย เอาไฟฉายส่องตา เอาอุปกรณ์มาเคาะตามข้อมือ ข้อเข่า หรือการออกแรงยื้อเวลาหมอดึงแขน หรือขา (เรียกไม่ถูกค่ะ ประมาณนี้)  และทุกครั้ง (ครั้งนี้ครั้ง 4 ที่ไป) คุณหมอจะใช้อุปกรณ์ที่ฟังเสียงหัวใจเป็นอย่างสุดท้าย ซึ่ง คุณหมอก็จะดึงคอเสื้อเราลงมาเพื่อเอาอุปกรณ์ไปฟังเสียงหัวใจ ก็เท่ากับตรวจในเสื้อ (แต่คุณหมอขออนุญาตินะคะ ไม่ใช่อยู่ๆก็ล้วงเลย) ทีนี้ปัญหาของเราที่ข้องใจคือ คุณหมอเอามือเข้าไปในเสื้อในเราด้วยค่ะ คือล้วงเข้าไปเลย โดนเต็มๆ เมื่อวานแบบ..ล้วงจับเต็มๆทั้งเต้าอ่ะคะ ทั้ง 2 ข้าง คือเราอยากรู้ว่ามันต้องถึงขั้นนี้เลยเหรอคะ  ถึงจะได้ยินเสียงหัวใจ  เราคิดมากไปเองหรือว่าเพื่อให้ได้ยินชัดเจนเลยต้องล้วงไป  แต่คิดอีกที ฟังด้วยที่ตรวจด้วย จับด้วย  มันจะให้ผลต่างกับตรวจข้างนอกเสื้อธรรมดาเหรอคะ  ไม่กล้าถามคุณหมอค่ะ อายมาก  แล้วก็รู้สึกไม่ดีมากๆ เล่าให้แม่ฟัง แม่บอกว่าให้ถามคุณหมอเลย  แต่อย่างที่บอกค่ะว่าไม่กล้าถาม  ตอนคุณหมอล้วงเราต้องหลับตาอ่ะค่ะ อยากจะกรี๊ดมากๆ ข่มใจไว้ว่าเฮ้ย..หมอคงไม่ได้อะไรมั้ง รบกวนถามผู้รู้ด้วยนะคะ แล้วคราวหน้าเราควรถามออกไปเลยมั๊ยคะ

เพิ่มเติมเกี่ยวกับยาค่ะ (ไม่รู้เกี่ยวรึเปล่า เผื่อเกี่ยวตามที่ Dr OG คาดไว้ค่ะ)
AMITRIPTYLINE ครั้งละ 3 เม็ดก่อนนอน
PROPRANOLOL ครั้งละ 2 เม็ด เช้า กลางวัน เย็น
ERGOTAMINE (X)+CAFFEINE ครั้งละ 1 เม็ดเวลาปวด
IBUPROFEN ครั้งละ 1 เม็ดเวลาปวด
Metoclopramide ครั้งละ 1 เม็ดเวลาคลื่นไส้อาเจียน
Betahistine ครั้งละ 1-2 เม็ดเวลาเวียนหัว