[K Project] Spoil : K - Memory of Red 13 วิญญาณในคืนฤดูร้อน

[[[Update ข่าว : เมื่อวันอาทิตย์ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา K anime ประกาศทำภาคต่อเป็นมูฟวี่ ฉายปี 2014 แล้วนะคะ]]]




วันที่ 25 กรกฎา 12:50 นาฬิกา โฮมุระพากันมาเที่ยวทะเล
คุซานางิบ่นเสียดายที่กล้องวิดีโอของทตสึกะพังไปแล้ว(ใน chapter 12)
แต่ทตสึกะบอกว่าไม่เป็นไรหรอก ฉันจะบันทึกภาพทุกอย่างด้วยหัวใจของฉันเอง



จิโตเสะ : เย้ ทะเล!!
ทตสึกะ : แบบนี้ทุกคนก็เห็นพวกเราเปลือยอกกันหมดเลยสิเนี่ย
คุซานางิ : ก็นะ...ผูัชายมากันเป็นฝูงแถมยังมีรอยสักอีก...ต้องมีคนเอาพวกเราไปนินทาแหงๆ

จิโตเสะหลั่นล้าเป็นอย่างมากที่จะได้มาจีบสาวๆริมทะเล จนโดนแซวว่า นายก็คิดได้แต่เรื่องแบบนี้อ่ะนะ

จิโตเสะ : ก็มันช่วยไม่ได้นี่! หน้าร้อนปีที่แล้วเราพังป่นปี้เพราะไอ้บ้าคามาโมโตะนั่น(chapter 9) ปีนี้ขอหน่อยเถอะ!

จิโตเสะ : คุซานางิซัง ไปเหล่สาวด้วยกันเถอะครับ
คุซานางิ : อา..ขอผ่านล่ะ ฉันว่าฉันแก่เกินจะทำเรื่องแบบนี้แล้วล่ะ ฮ่าๆ (*คุซานางิซังอายุ 25 เองนะค๊าา)
จิโตเสะ : งั้น ทตสึกะซัง..
ทตสึกะ : ชีวิตนี้ฉันมอบให้เธอคนนี้แล้วล่ะ [จับมือแอนนา]

จิโตเสะหันไปถามเดวะ แต่ก็โดนเมิน สุดท้ายแล้วเลยไปชวนบันโดแทน



จิโตเสะ : สัญลักษณ์โฮมุระของนายอยู่ในที่ๆเซ็กซี่สุดๆไปเลยนะเนี่ย
บันโด : ฮ่าๆ ตั้งแต่มิโคโตะซังมอบสัญลักษณ์ให้ตรงนี้ ฉันก็ไม่เคยปวดท้องอีกเลยล่ะ

- กรี๊ดดดด -

สาว 1 : ท่านคามะกำลังผัดยากิโซบะล่ะ!!
สาว 2 : เท่มากเลยค่าาา!!!

สองหนุ่มเริ่มเขม่นที่คามาโมโตะมีสาวๆมารุมกรี๊ดอีกแล้ว จิโตเสะบอกว่า ปีนี้ฉันไม่ยอมแพ้นายแน่
ทันใดนั้น สาวๆอีกกลุ่มก็เริ่มเอ่ยชมว่า "ดูนั่นสิเธอ เด็กคนนั้นเท่จังเลยล่ะ"



สาว 3 : เข้าไปชวนคุยดีมั๊ยน้าา

จิโตเสะที่เห็นว่า ขนาดยาตะยังมีสาวมาปลื้ม ก็ยอมแพ้ไม่ได้ ชวนบันโดไปรุกสาวๆเองกันดีกว่า



หลังจากนั้นหนุ่มๆ ก็เริ่มแยกย้ายกันไปเล่นน้ำ หนุ่มผมทองเอริคใส่ห่วงยางมาลงเล่นน้ำด้วย
เดวะเลยถามว่า นี่นายว่ายน้ำไม่เป็นเรอะ โชเฮย์ปลอบใจว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันช่วยสอนนายว่ายน้ำให้แล้วกัน

คุซานางิ : หนุ่มๆนี่ร่าเริงกันดีนะ
ทตสึกะ : สมกับเป็นคำพูดของคุณลุงคุซานางิเลยนะ ฮ่ะๆ

แอนนาขอโทษทตสึกะที่ทำกล้องวิดีโอพัง ทั้งๆที่วันนี้เป็นโอกาสดีที่จะได้ถ่ายรูปทุกๆคนแท้ๆ
(*อันที่จริงคนทำพังมันไอ้คุณมิโคโตะนะคะ)
ทตสึกะเลยชวนแอนนาว่า งั้นคราวหน้าเราไปซื้อกล้องวิดิโออันใหม่ด้วยกันนะ ซื้อให้เหมือนกล้องอันเดิมเลย



แอนนาดีใจที่ทตสึกะไม่โกรธอะไร เลยกระโดดกอดจนอีกฝ่ายล้มลง

ทตสึกะ : ฮ่ะๆ กระทันหันไปหน่อยนะ ตั้งตัวไม่ทันเลย

ทตสึกะเลยถอดเสื้อคลุมที่เปียกออก เผยให้เห็นสัญลักษณ์โฮมุระที่สะบักหลังด้านซ้าย
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็เล่นน้ำด้วยกัน เอริคฝึกว่ายน้ำ ส่วนมิโคโตะเอาแต่หลับปุ๋ยอย่างเดียว



ยาตะที่ว่ายน้ำออกมาคนเดียวว่ายออกไปจนเจอถ้ำริมทะเลแห่งนึง
กำลังตื่นเต้นดีใจว่าเจอถ้ำลับซะแล้วสิ ทันใดนั้นก็เห็นอะไรบางอย่างที่ปลายเท้า



ยาตะ : ดอกไม้?
ลุงหนวด : ออกมาแล้ว...
ยาตะ : กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ลุงหนวด : ออกให้ห่างจากที่นี่ดีกว่านะ หนุ่มน้อย
          ที่นี่เคยมีเด็กผู้ชายจมน้ำเสียชีวิตน่ะ เค้าลือกันว่าวิญญาณยังวนเวียนอยู่แถวนี้เลยนะ
ยาตะ : แต่ว่า..
ลุงหนวด : นี่ไม่ใช่ที่ๆจะมาเล่นสนุกกันหรอกนะ ไอ้หนุ่มเอ๊ย

เมื่อคุณลุงเดินจากไป ภายในถ้ำก็เหลือแค่ยาตะกับความมืด
ยาตะที่เริ่มรู้สึกเสียวสันหลังปลอบใจตัวเองว่า เมื่อกี้ลุงแค่ล้อเล่นละมั้ง พลางรีบจ้ำออกจากถ้ำ
โดยไม่ได้สังเกตว่า มีเงาดำแอบมองอยู่จากด้านหลัง

ตกเย็น โฮมุระทำบาร์บีคิวกันริมหาด จิโตเสะกับบันโดที่หลีสาวไม่ติดซักคนนั่งหงอยซดเบียร์อยู่
ยาตะมัวแต่กังวลเรื่องถ้ำที่เจอเมื่อกี้จนคามาโมโตะเอ่ยถามขึ้น



คามาโมโตะ : ยาตะซัง แทบไม่แตะอาหารเลยนะ
ยาตะ : ไม่อยากได้ยินคำนั้นจากนายเวอร์ชั่นหน้าร้อนเลยฟ่ะ
คามาโมโตะ : จะว่าไป..ผมนึกอะไรออกอย่างนึง
                   แถวนี่มีวิญญาณด้วยล่ะครับ
ยาตะ : !!!!!!!!!!!!! [พ่นน้ำพรวด]
คามาโมโตะ : ได้ยินมาว่า เคยมีเด็กผู้ชายจมน้ำแถวๆนี้
                   เด็กคนนั้นออกไปสำรวจถ้ำกับเพื่อนสนิท แต่เมื่อน้ำทะเลเริ่มขึ้นเอ่อท่วมในถ้ำ เพื่อนสนิทได้เตือนให้เด็กชายคนนั้นรีบหนีออกมา
                   แต่เด็กชายไม่ฟังคำเตือนของเพื่อน กลับเดินลึกเข้าไปในถ้ำและก็หายตัวไป
                   เค้าเล่ากันว่า จนป่านนี้ก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของเด็กคนนั้น มีเพียงเสียงร้องโหยหวนออกมาจากถ้ำจนถึงทุกวันนี้



คามาโมโตะ : และเมื่อก้าวเท้าเข้าไปข้างในถ้ำ ก็จะได้ยินเสียงฝีเท้าและเสียงหัวเราะของเด็กผู้ชายด้วย

'งั้นวิญญาณของเด็กนั่นก็ยังอยู่ที่ถ้ำนั่นนะสิ' ยาตะคิดในใจ ทันใดก็โดนมือปริศนาเอื้อมมาจับไหล่

ยาตะ : ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
          อ....อ แอนนา!!
คามาโมโตะ : ฮ่ะๆๆ ยาตะซัง ผมก็อยู่นี่ด้วย ไม่ต้องกลัวหรอกน่า
ยาตะ : หุบปาก! ฉันไม่ได้กลัวซักหน่อย!!
แอนนา : วิญญาณเหรอ?
คามาโมโตะ : ใช่ครับ และถ้าใช้ความสามารถพิเศษของแอนนา เราน่าจะหาวิญญาณเจอได้ไม่ยากเลยนะเนี่ย
ทตสึกะ : งั้นเดี๋ยวไปลองหากันมั๊ยล่ะ?



มิโคโตะ : ทดสอบความกล้า? ก็ไม่เลวนะ..
คุซานางิ : พวกนายบ้าไปแล้วรึไง
ทตสึกะ : แต่ถ้ามีวิญญาณอยู่แถวๆนี้จริง วิญญาณนั่นน่าจะเหงาน่าดูเลยน้า
ยาตะ : ต..แต่ว่า ถ้ามันเกลียดโลกนี้และเป็นวิญญาณที่ดุร้ายล่ะ?
ทตสึกะ : ฮ่าๆ งั้นเราก็ชวนมาเค้าคุยให้เค้ารู้สึกดีขึ้นดีกว่าเนอะ
ยาตะ : ทำไมนายมองโลกในแง่ดีนักนะ...
ทตสึกะ : คิง มากับพวกเราเถอะ ถือซะว่าเดินเล่นหลังอาหารก็แล้วกันนะ

หลังจากนั้นทุกคนก็พากันเดินเลาะชายหาดไปยังถ้ำริมทะเลที่เค้าลือกัน
คามาโมโตะชมว่า ทะเลกลางคืนสวยออกขนาดนี้ ยาตะซังไม่เห็นต้องกลัวขนาดนั้นเลย
ยาตะตะคอกกลับเสียงดัง นายว่าใครกลัวฟะ?!!!



ทตสึกะ : อ๊ะ ปูนี่นา กินได้รึเปล่าเนี่ย?
คุซานางิ : ปล่อยมันไปเถอะน่า

ขณะที่ทุกคนทำตัวสบายๆ ยาตะที่เกร็งอยู่คนเดียวเหลือบมองไปยังถ้ำติดหน้าผา ปรากฎเป็นเงารางๆของคนและหายวับไป

ยาตะ : [ชกไปที่คามาโมโตะอย่างแรง]
คามาโมโตะ : อ๊อคคคคคค!! ทำอะไรครับ ยาตะซัง???



ยาตะ : ม ม ม ม เมื่อกี้ ฉันเห็น......
คามาโมโตะ : เอ๋ ยาตะซัง เห็นอะไรเหรอครับ?

โฮมุระพากันเดินเข้ามาภายในถ้ำที่มืดสนิท

ยาตะ : ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร! มันต้องไม่มีอะไร!!!
คามาโมโตะ : ว้าวว บรรยากาศดีนะเนี่ย



ยาตะจับมือทตสึกะกับแอนนาแน่น บอกกับทั้งสองคนว่า

ยาตะ : นี่ทั้งสองคนน่ะ พวกนายน่ะอ่อนแอ เพราะฉะนั้นห้ามห่างจากฉันนะเฟ้ย! ห้ามออกห่างจากฉันนะ!!
แอนนา : มิซากิ...มือเธอชื้นจังเลยนะ
ยาตะ : นายเข้าไปก่อนเลย คามาโมโตะ!!!! [กระโดดเตะ]
คามาโมโตะ : อุ๊ก!!
                   ปกติเวลาแบบนี้เค้าต้องเป่ายิ้งฉุบกันก่อนไม่ใช่เหรอ?

- ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก-

คามาโมโตะ : เสียงฝีเท้า?
คุซานางิ : อ้าว ออกมาจนได้สินะ?

??? : นายยย.. นายอยู่ไหน.............
เสียงลึกลับดังออกมาจากด้านในถ้ำ



ยาตะได้ยินเสียงของวิญญาณก็กลัวจนสติหลุด

ทตสึกะ : อ้ะ มีเสียงด้วยล่ะ

มิโคโตะที่เดินตามมาตลอด จุดไฟขึ้นในมือ ยาตะหันไปถามอย่างมีความหวัง

ยาตะ : มิโคโตะซัง คุณจะเผาวิญญาณเหรอฮะ?
คามาโมโตะ : แต่มันไม่มีทั้งเลือดเนื้อ กระดูก แล้วก็เถ้า ให้เผาแล้วนะครับ??
มิโคโตะ : เอาน่า..

มิโคโตะจุดไฟเข้ากับวัชพืชที่ขึ้นแถวๆนั้นแทนคบเพลิง แสงไฟส่องสว่างทำให้เห็นร่างของเด็กชายคนหนึ่งในความมืด



ยาตะ : ออกมาแล้ววววววววววววววววว!!!!!

แอนนาที่เห็นร่างปริศนา รีบวิ่งเข้าไปหา จนยาตะออกปากห้ามให้ถอยออกมา มันไม่ปลอดภัย

แอนนา : เด็กคนนี้..ยังมีชีวิตอยู่นี่
        


แอนนา : งั้นเธอก็เป็นเพื่อนของเด็กผู้ชายที่ตาย ใช่ไหม?

เด็กชายพยักหน้า และเริ่มเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้นให้ฟัง

เด็กชาย : วันนั้น..พวกเราตั้งใจว่าจะมาสำรวจถ้ำ แต่เมื่อผ่านไปกลางทาง ผมเกิดกลัวและอยากจะหนีออกมา
           แต่เขายืนยันว่าไม่เป็นไร และเริ่มเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนหายไปท่ามกลางความมืด
           หลังจากนั้น ผมก็เริ่มได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับวิญญาณ ผมเลยแวะมาที่นี่พร้อมกับรูปถ่ายในกระเป๋า หวังว่าจะได้เจอเพื่อนอีกครั้งนึง
ทตสึกะ : ถ้าอย่างนั้น ที่นี่ก็ไม่มีวิญญาณ
           วิญญาณเด็กชายที่คนอื่นพูดถึงก็หมายถึงเธอ เด็กชายที่ยังหลงทางวนเวียนอยู่ในถ้ำจนทุกวันนี้ก็คือเธอ

เด็กชายไม่ตอบ ก้มลงมองรูปถ่ายของตนกับเพื่อนสนิทที่ไม่มีวันได้เจอกันอีกแล้ว

ทตสึกะ : แค่รูปถ่ายนั่นไม่พองั้นหรือ?
เด็กชาย : ?



ทตสึกะ : รูปถ่ายน่ะเก็บความทรงจำไว้และทำให้มันคงอยู่ตลอดไป
           ผีหรือวิญญาณก็เช่นเดียวกัน มันเป็นเพียงความทรงจำ คล้ายๆกับภาพถ่าย เป็นเพียงสิ่งที่หลงเหลือให้เราระลึกถึงเมื่อครั้งยามมีชีวิตอยู่เท่านั้น
           เพราะฉะนั้น...ที่นี่ไม่มีวิญญาณอะไรนั่นหรอก

เมื่อความจริงกระจ่าง โฮมุระพากันเดินเลาะริมชายหาดเพื่อกลับยังที่พัก

คุซานางิ : เป็นการเดินเล่นหลังมื้อค่ำที่ไม่ค่อยมีอะไรตื่นเต้นเลยนะ
ทตสึกะ : ก็ดีแล้วนี่ อย่างน้อยเด็กชายหลงทางคนนึงก็ได้กลับบ้านอย่างปลอดภัยนะ
คุซานางิ : ฉันนึกว่านายจะเป็นคนที่เชื่อเรื่องผีหรือวิญญาณซะอีก แต่ปรากฏว่าฉันคิดผิดแฮะ
ทตสึกะ : บางทีก็ฉันคิดว่า ถ้าเรื่องลึกลับมีจริงๆก็ดีสินะ
คุซานางิ : ..บอกฉันทีว่านายหมายถึง พวกซานตาครอสหรืออะไรประมาณนั้น
ทตสึกะ : นั่นก็ดูจะเต็มไปด้วยความฝันไปหน่อยนะ
คุซานางิ : ฉันละงงกับระบบความคิดของนายจริงๆ



ทตสึกะหยุดเดิน ทอดสายตาไปยังทะเลท่ามกลางความมืด

ทตสึกะ : ถ้าฉันตาย..ในที่ๆโดดเดี่ยวแบบนั้น นั่นก็คงจะแย่น่าดูนะ

มิโคโตะเหลือบมองมายังทตสึกะที่รำพึงกับตัวเอง

ทตสึกะ : แต่พวกวิญญาณหรืออะไรประมาณนั้น...ถ้าเราเชื่อมั่นในพวกเขาอย่างแท้จริง ซักวันเขาอาจจะปรากฏตัวให้พวกเราเห็นก็ได้
           ถ้าไม่คิดแบบนั้น...ก็ไม่มีอะไรให้ข้องเกี่ยวกับคนที่ตายไปแล้วกันพอดีสิเนอะ

คามาโมโตะเห็นทตสึกะพูดถึงเรื่องวิญญาณ เลยตั้งท่าจะเล่าเรื่องผี
แต่ยาตะห้ามไว้ บอกว่าหยุดเลยนะเฟ้ย
ทตสึกะเมื่อเห็นดังนั้นเลยหยุดคิด ยกนิ้วขึ้นประกบกันจนมิโคโตะถามว่า นายทำอะไรอยู่



ทตสึกะ : ฉันเหรอ? กำลังลั่นชัตเตอร์หัวใจอยู่น่ะ!

-จบตอน-




_(:3」∠)_
ช่วงซึ้งๆนี่กลัวจะแปลผิดมากเลย อ่าน Eng แล้วก็ยังงงๆอยู่บางประโยคค่ะ
มังงะตอนนี้ หลักๆก็เซอร์วิส+เปิดเผยตำแหน่งสัญลักษณ์โฮมุระของหนุ่มๆกัน
แต่ยาตะนั้นน่ารักเหมือนเดิมเลยค่ะ อมยิ้ม02

ขอบคุณ Eng Translation ด้วยนะคะ
http://frostkieran.tumblr.com/post/51632834704/k-memory-of-red-chapter-13-translation
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่