เหตุการณ์แบบนี้เพื่อนๆจะทำยังไงกันครับ มองในแง่ ความสุข คุณภาพชีวิต และการลงทุน

กระทู้คำถาม
เรื่องมีอยู่ว่า

แม่แฟนซื้อ townhome ไว้เมื่อ 2 ปีที่แล้วเพราะทะเลาะกับเพื่อนบ้านหลังเก่า เลยกะจะมาอยู่หลังใหม่ ราคา 3.1 ล้านอยู่ในซอยแออัดพอสมควร ทำเลไม่ค่อยน่าอยู่ เด็กแว็นซ์เยอะ ถนนแคบมากๆ สุดท้ายแม่แฟนไม่ย้ายมาอยู่เพราะผูกพันกับบ้านหลังเก่า ก็เลยปล่อยทิ้งไว้ปีกว่า

ผมแต่งงานกับแฟนปีที่แล้ว โดยก่อนหน้าจะแต่งแฟนกลัวว่าเราสองคนจะไม่มีที่อยู่ก็เลยรับผ่อนต่อจากแม่ โดยที่บอกผมด้วยเหตุผลอื่นเพราะผมแย้งว่าไม่อยากอยู่บ้านหลังนี้เพราะไกลที่ทำงาน  คือห่างจากที่ทำงานผม 23 km ส่วนแฟนประมาณ 20 km (ขาไปขาเดียว) และสภาพแวดล้อมไม่ดี กับเงินที่ต้องผ่อนตั้ง 3.1 ล้าน ผมหาได้เป็นบ้านเดี่ยวเลย เพราะหาบ้านมือสองมานานเหมือนกัน

ผมก็แย้งแฟนตลอดแต่แฟนก็จะรับผ่อนต่อจากแม่ท่าเดียวโดยที่มาบอกผมตอนหลังว่ากลัวไม่มีที่อยู่ พอมา ณ วันนี้แฟนรู้สึกว่าคิดผิด อยากขายเนื่องด้วยผมพาเธอไปดูบ้านหลายทำเล น่าอยู่กว่า ที่ทาง ทำเลดีกว่า ได้เนื้อที่เยอะกว่า สภาพแวดล้อมดีกว่า แต่ปัญหาคือ ตอนนี้ผ่อนไปปีนึงเหลืออยู่ 2.7 ล้าน เฉพาะเงินต้นนะครับ ที่หายไปเยอะเพราะแฟนได้โบนัสก็มาโปะด้วยส่วนนึง

คราวนี้จะขายแฟนก็คิดโดยเอาเงินที่เสียไปบวกกับเงินต้น + เงินค่ารีไฟแนนซ์ + ค่าแต่งบ้าน ทั้งหมด กลายเป็นจะขาย 3.7 ล้าน ผมได้บอกว่ามันจะขายได้ยังไงเพราะบ้านในหมู่บ้านเดียวกันประกาศขายอยู่ 2.85, 2.89 ล้านเอง แฟนก็คิดมากเพราะเสียเงินไปเยอะ มันขาดทุน ผมก็บอกแฟนตลอดว่าถ้าชีวิตเราสองคนไม่คิดว่าจะอยู่ที่นี่ก็ไม่ต้องโปะ ไม่ต้องรีไฟแนนซ์ แล้วตัดใจขาย ไม่ให้เข้าเนื้อค่าผ่อนมาก แล้วไปเริ่มต้นที่บ้านหลังที่เราสองคนเลือกดีกว่า

ผ่านมาเกือบปีแต่แฟนก็คิดมาก ผมก็ไม่พูดอะไรอีกเพราะว่าเห็นแฟนเครียด แต่ถ้าไม่ขายแฟนก็เครียด ถ้าขายแฟนก็เครียด

ผมเลยอยากทราบว่าถ้าเป็นเพื่อนๆ จะทำยังไงกับสถานการณ์แบบนี้ให้ขาดทุนน้อยที่สุดเมื่อมองระยะยาวๆ แล้วครับ โดยแฟนกับผมคิดว่าอยากอยู่บ้านที่มีเนื้อที่เป็นบ้านเดี่ยวอยู่ใกล้รถไฟฟ้าหน่อยครับจะได้เดินทางสะดวก หรือไม่ก็คิดจะย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่