ทริป14วันสู่ดินแดนเกาหลีใต้ ตอน เดินลากขาย่านฮงแด ลากต่อจนเจอคิวบ์คาเฟ่

วันที่ 24 มีนาคม วันที่เจ็ดแห่งการเดินทางของเราแล้ว ไวมาก ไม่คิดว่าตัวเองจะมาได้ไกลขนาดนี้ หลังจากที่ทนทรหดกันมา เจ็ดวันเต็ม วันนี้เราเลยนอนกันเต็มอิ่ม กว่าจะได้เริ่มออกเดินทางก็สิบโมงกว่าแล้ว วันนี้เรากะจะไปเดินชิวๆ ย้อนวันวานที่เพิ่งผ่านชีวิตช่วงมหาลัยมามาดๆ กันในย่านฮงแด ไปนั่งชิวกันที่ Kitty Cafe ,Trick Eye Museum ,Coffee Prince,Four season, เดินกันเรื่อยๆ แถวนั้น แล้วตอนเย็นเราจะไปคิวบ์คาแฟ่กัน

      อาหารเช้าของเรา วันนี้เป็นข้าวชีส ในชามหินร้อนๆ สำหรับคนชอบชีสคงจะอร่อยมากๆ แต่สำหรับเราแล้ว เป็นมือแรกที่กินไม่หมดแถมเหลือเยอะด้วย ไม่รู้เพราะร่างกายอ่อนเพลีย หรือ มันเลี่ยนเกินไปก็ไม่รู้ แต่โดยส่วนตัวเรากินได้หมดแทบทุกอย่างแต่วันนี้ไม่รู้เป็นอะไร เกินไม่หมด แต่ก็ต้องกิน เดี่ยวจะไม่ไหวเอา

หน้าตาของข้าวชีสเศร้า

     เมื่อกินกันเสร็จเราก็ออกเดินทางกันไปโดยไฟฟ้าไปลงสถานีHongik ซึ่งไปไม่ไกจากที่พักเราเลย เมื่อเราออกมาจากสถานี ที่แรกที่เราจะไปกันคือ Kitty Cafe หลังจากที่เดินวนไปวนมา หลงอยู่นานสองนาน


เจอเขาถ่ายหนังกันด้วยเท่

กว่าจะเจอKitty Cafe ก็เล่เอาเหนื่อยเหมือนกัน คำเตือน ร้านที่ระบุต่ำแหน่ง ไม่ได้มีสาขาเดียวในพื้นที่เดียวกัน และบางที่ แผนที่ในหนังสือแต่ละเล่มก็ไม่เหมือนกัน ควรจะเลือกดีๆ 555

   ร้านทั้งร้านเต็มไปด้วยKitty มากมาย โดยส่วนตัวเราไม่ได้หลงไหล มันมากมาย แต่ไหนๆก็มาแล้วลองสักหน่อย  เราสั่งชาเขียว กับ วอฟเฟิล

หน้าร้าน


ภายในร้าน หวานฝุดๆหัวใจ

ชาเขียวหน้าคิตตี้

วอฟเฟิลยังเป็นหน้าคิตตี้

ทางไปห้องน้ำยังเจอ คิตตี้555

     เมื่อเราได้ชิมกันแล้ว รสชาติ ไม่แตกต่างจากทั่วไปสักเท่าไร จะติดหวานไปด้วย ยิ่งกินกับวอฟเฟิลยิ่งหวานไปกันใหญ่ แต่ก็อร่อยดี เราหมดไปหมื่นกว่าวอน 555 แพงง่ะ ระหว่างที่เรานั่งกินยังอยู่ในร้าน เจอกรุ๊ปทัวร์จากไทยเยอะมาก แต่โดยนิสัยเราแล้วถ้าเจอกรุ๊ปทัวร์แบบนี้เราจะนิ่ง แอบฟังเขาคุยกัน มักจะได้อะไรดีๆเยอะ ทุกคนอาจสงสัยว่า แล้วเขาไม่รู้หรอว่าเราเป็นคนไทย ตั้งแต่วันแรกที่มาเกาหลี เราถูกถามทางแทบจะทุกวัน หรือไม่ก็มีพวกนักศึกษามาคุยด้วย แต่เราฟังไม่ออก555 ยิ่งการแต่งตัวของเราธรรมดามาก ไม่เหมือนคนที่เขามาเที่ยว สังเกตง่ายมาก คนที่มาเที่ยวส่วนใหญ่เขาจะใส่กันแบบจัดเต็ม เสื้อขนฟูฟ่อง รองเท้าลุยหิมะกันเลยที่เดียว แว่นกันแดด หมวก ผ้าพันคอ อมยิ้ม36 ทั้งๆที่สภาพอากาศก็เย็นๆ แต่ก็หนาวอยู่ หิมะไม่ต้องพูดถึง ที่โซลไม่มีให้เห็นมาเป็นเดือนๆแล้ว หรือเราอาจไม่มีใส่อย่างเขานั้นเอง มีเสื้อกันหนาว(ยืมเขามาอีกที).ใส่ก็บุญแล้ว 55 เราเป็นนักท่องเที่ยวงบน้อยสุดๆหัวเราะ
     คนไทยที่เราเจอชอบบ่นมาก บ่นพนักงาน ว่าทำช้าบาง บริการไม่ดีบ้าง บ่นนั้น บ่นนี้ สงสารคนที่ทำทัวร์ แต่มาเที่ยวหน้านี้ต้องทำใจ แห้งเหี่ยวมาก ใบไม้ ดอกไม้ยังไม่ผลเลย
     หลังจากกินกันจนอิ่ม และปล่อยให้กรุ๊ปไทยเขาไปกันก่อน เราก็ออกไปเป้าหมายต่อไปกันนั้นคือ Four season สถานที่ถ่ายซี่รีย์มากมาย เพื่อนเรารีเควสมาเพราะเจ้าตัวอบดูซีรีย์มาก เราก็กางแผนที่ดูว่ามันอยู่ตรงไหน แล้วเดินไปกัน เดินอยู่นามากก็หาไม่เจอ แผนที่ที่มีอยู่สองอันก็ไม่ตรงกันอีก เอาแล้วไง จะเจอไหมเนี้ยยยยยยยยเศร้า

     เราเดินหลงกันไปพักกันไป เดินกันมั่วจนมาเจอ ร้านกาแฟ Coffee Prince ที่ถ่ายทำซีรีย์ สภาพทรุดโทรมมาก เราเลยไม่ได้ถ่ายรูป แถมยังปิดตาย ไม่สามารถเข้าไปได้ ได้เเต่ยืนมองอยู่หน้าร้าน เราเสียดายที่มาไม่ทันตอนยังเปิด เพราะเราก็ชอบซีรีย์เรื่องนี้มากเหมือนกัน

     เมื่อเพื่อนถ่ายรูปเสร็จ เราก็เดินกันต่อ เราเดินกันมึนมากก เดินจนมาเจอ มหาลัยฮงอิก อันโด่งดัง วัยรุ่น นักศึกษาเยอะมากกก อยากจะเรียนที่ี้อีกจัง เมื่อถ่ายรูปนั่งพักกันเสร็จ  เราเลยตัดสินใจเอาจุดนี้มาเริ่มกันใหม่555


หน้ามหาลัย
     เราก็เดินข้ามฝั่งมาอยู่ฝั่งเดียวกับมหาลัยแล้วเดินตรงไปสักพัก เจอซอยเล็ก เมื่อเดินเข้าไปเราก็เจอ Four season สักที่ ทรุดโทรมน้อยกว่าร้านคอฟฟี่ ปริ้น นิดหนึ่ง เเถมปิดปรับปรุงอีก เลยได้แต่ถ่ายรูปอยู่ด้านหน้า



     แล้วเราก็เดินข้ามฝั่งไปเข้าซอยๆหนึ่ง ก็บอกแล้วว่าเดินกันมั่วมาก ถึงจะมีแผนที่แต่ก็ไม่ช่วยอะไรเลย5555 ที่ที่เราจะไปต่อคือ ทริคอาย มิวเซียม เราเดินกันจนมาเจอตึกนี้ เป็นอาร์ต แกลอรี่

เดินเข้าไปแปบเดียวก็ออก เราเดินต่อจนไปถึงสักที่ อยู่ใต้ดิน เมื่อลงไปแล้ว คนเยอะมากกก เราคิดว่า ไปนั่งเล่นข้างหน้าสักพักแล้วเราจะกลับ เพราะว่าถึงเสียเงินเข้าไปก็ถ่ายรูปไม่สวยอยู่ดีเพราะคนเยอะมาก




เมื่อเดินออกมาก็บ่ายแล้วตลาดก็เริ่มตั้งกันเต็มของล่อตาล่อใจเพียบ


แต่ด้วยความงบน้อยทั้งคู่ เราเลยเข้าร้านกิ๊ฟช็อป เหมือนเจอแรงดึงดูด 555เลือกไปเลือกมา เราก็ได้กิ๊ฟมาหนึ่งอัน เรารู้สึกว่า มันแพงอ่ะ อันละ3800วอน เกือบร้อยบาท สำเพ็งอันละ 20 แต่ก็ซื้อมาแล้วอมยิ้ม20 ส่วนเพื่อนเราไปเลือกต่างหู มันได้คู่หนึ่ง โดนหลอกอีก คือเขาติดว่า 1000วอน เพื่อนเราก็คิดว่าคู่ละพันวอน ที่ไหนได้ เขาคิดเป็นข้าง แล้วใครมันจะซื้อข้างเดียวหว่ะ และด้วยคนขายหล่อ เอาหว่ะ 5555 เมื่อเราเดินผ่านตลาดมา ข้ามฝั่งมาก็เป็นถนนเด็กอาร์ต (เราเดินมาจนวนมาเจอจุดเดิมที่เราออกจากร้านคิตตี้55555)  มีคนมาเล่นดนตรี มีนักศึกษามาชวนให้ทำบุญ บ้าง ร่วมกิจกรรมบ้าง เยอะไปหมด ตลอดทางเดินจะมีศิลปะอาร์ตให้เราดู อีกด้วย




กว่าจะเดินจนสุดถนนก็เย็นแล้ว สรุปเราสองคนเดินวนกันเป็นสี่เหลี่ยมนั้นเอง แต่มันก็สนุกดี
   เมื่อเวลายังเหลือเราตัดสินใจไปคิวบ์คาเฟ่กันแล้วค่อยกลับโรงแรม ออกมาทั้งที่ต้องเที่ยวให้คุ้มอมยิ้ม16
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่