เพิ่งเจอเรื่องแย่ๆมา แต่ฟื้นตัวได้เร็วมาก มีเคล็ดลับมาฝากครับ

กระทู้สนทนา
เพิ่งเจอเรื่องแย่ๆมา แต่ฟื้นตัวได้เร็วมาก มีเคล็ดลับมาฝากครับ
ถ้าทุกคนยังจำกันได้ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ผมได้แชร์เรื่องเรื่องนึงที่เกิดขึ้นกับผม แล้วก็คนคนนึงที่ทำให้ผมเปลี่ยนทัศนคติแล้วดำเนินชีวิตได้อย่างปกติ
นี่คือกระทู้เก่าผมครับ

http://topicstock.ppantip.com/siam/topicstock/2011/05/F10530689/F10530689.html

ผมเจอเรื่องคล้ายๆกันแบบนี้อีกครั้งหนึ่ง จะว่าหนักก็หนัก แต่ก็ฟื้นตัวเร็วจนงงเหมือนกัน

เรื่องของเรื่องคือ .... ผมเลิกกับคนที่ผมรัก เรารักกันมาก รู้จักกันมา 10 กว่าปี ถึงแม้จะเพิ่งคบกันได้เพียงแค่ปีกว่าๆ แต่ผมก็รู้สึกผูกพันกับเธอ รักเธอ พยายามวางแผนทุกอย่างในชีวิตเพื่อจะได้อยู่ด้วยกัน ทำงานหนัก เรียนต่อ รับงานนอก แน่นอนว่า ก็คงมีเวลาดูแลเธอได้น้อยลง จนดูเหมือนไม่เอาใจใส่ ตรงนี้ผมยอมรับผิด แล้วเรื่องที่คาดเดาได้ไม่ยาก ก็เกิดขึ้นจนได้

...เธอไปคุยกับอีกคน คนที่ทำให้เธอหัวเราะได้ มีความสุข นัดทานข้าวกัน โดยไม่ได้บอกผม มีการโกหกกันเล็กน้อยว่าไปคนเดียว ทั้งหมดทั้งสิ้น รวมเวลาที่เริ่มคุย จนถึงเวลาที่เธอแบ่งใจให้คนนั้น ประมาณ 3 เดือน...

ผมรู้เรื่องก่อนประมาณ 1 เดือน โดยเธอเป็นคนบอกผมเองว่าไม่เหมือนเดิม ซึ่งผมก็พยายามยื้อเอาไว้ แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นผล คนหมดใจ รั้งไว้ก็คงเหนื่อยเปล่า จนสุดท้าย เรื่องมันจบตรงที่ ผมเจอหลักฐานทุกอย่างที่บอกว่า เธอหมดใจกับผมแล้วจริงๆ ก็เลยตัดสินใจว่า คงจะไม่รั้งเธอไว้ ปล่อยเธอไปมีความสุขดีกว่า

แน่นอนว่า ผมเสียใจเรียกได้ว่าเข้าขั้นมาก พี่ชายคนนึงมารับไปทานข้าว ผมน้ำตาแตกได้แบบไม่อายพี่เค้าเลย 5555 (ปกติทำให้คนอื่นหัวเราะได้ตลอด...แต่คนประเภทนี้น่าสงสารคือ จะหาคนที่เราจะไปร้องได้ด้วยยากมากๆ )
จนกลับมาบ้าน ก็ไม่ดีขึ้น นั่งเอ๋อ ๆ น้ำตาไหล โทรไปร้องไห้กับเธออีกรอบ เพื่อนโทรมาเช็คอาการ ก็ไม่ดีขึ้น ไม่ว่าใครจะให้กำลังใจก็ไม่ดีขึ้น

จนถึงก่อนนอน ..... ผมเดินเข้าห้องป๊า (พระเอกของเรื่อง...อีกแล้ว)

ป๊า: เป็นไร มีอะไรหรือเปล่า (เป็นพ่อลูกมา 30 กว่าปี คงดูลูกชายออก)
ผม: เหนื่อยอ่ะป๊า เรื่องเยอะ ตั้งแต่ต้นปีมีแต่เรื่อง รถชน (หนักถึงขั้นขายซาก) งานนอกงานใน เรียนต่อ bla bla
ป๊า: อืม สู้สิ
ผม: ป๊าเคยเหนื่อยบ้างป่ะ
ป๊า: อั๊วไม่เคยเหนื่อย อั๊วสู้ตลอด ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้เดินไม่ค่อยไหว ที่เหลือสบายย (ป๊าผมเป็นกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท L2-L5 ค่อนข้างหนัก ขาชา เดินไม่สะดวก ... แต่แกก็ยังชอบนั่งรถเมล์ไปไหนมาไหนเอง จริงๆแล้วยังมีอาการไส้เลื่อนอีกนะ อายุก็เฉียด 70 หล่ะ .....ชิลเกิ๊น -_-)
ผม: ป๊า .... เค้าเลิกกับ (ชื่อแฟน) แล้วนะ
ป๊า: เมื่อไหร่
ผม: เล่ารายละเอียดให้ฟัง
ป๊า: อืม ก็ไม่ใช่คู่กัน ก็อย่าเสียเวลา ไม่ใช่เรื่องใหญ่นะ สู้สิ ตั้งใจทำงาน ตั้งใจเรียน เอาให้มันจบไปเป็นเรื่องๆ อย่าไปคิดมากเรื่องเล็กน้อยนะ
ผม: นั่งน้ำตาซึม บ่นๆกับป๊าอีกเล็กน้อย แล้วป๊าก็ปลอบอีกเล็กน้อย

........สุดท้าย ผมเดินเข้าไปกราบที่ตักป๊า บอกว่าไม่ไหว อยากให้ป๊าให้กำลังใจกับให้พรหน่อย เพราะเหนื่อยมาก.....
ป๊า: “อั๊วขอให้ลื้อตั้งใจๆ ให้กำลังใจ สู้นะ ลูกอั๊วโชคดี เก่งๆ เฮงๆทุกคน โชคดีๆ ไปนอน อย่าคิดมาก”

.......เชื่อไม๊ว่า แค่คำพูดสั้นๆไม่กี่ประโยคแค่นี้ เรียกกำลังใจผมกลับมาได้เกินครึ่ง เดินกลับเข้าห้องตัวเองเพื่อไปทบทวนเรื่องราวบางอย่าง (แน่นอนว่า น้ำตาแตกตั้งแต่ตอนกราบจนขอพรจบ แบบ เอ่อ จะมากไปป่ะ เง้อ -_-).....

.....ผมสามารถเรียกกำลังใจตัวเองกลับมาได้เกิน 80% ในวันรุ่งขึ้น เพราะป๊าเดินมาชวนคุยปกติ และให้กำลังใจต่ออีกหน่อย.....ผมคิดเหมือนเดิมในกระทู้เก่าคือ ในเมื่อมีคนที่รักผมมาตลอดชีวิต ตั้งแต่ผมมีชีวิตลืมตาดูโลก รักและดูแลผมมาอย่างดี ไม่ว่าผมจะเคยทำผิดอะไร ก็ให้กำลังใจและช่วยเหลือมาตลอด คอยดึงผมให้ขึ้นมาเดินได้ตลอด .... ใช่ครับ ผมต้องไม่ทำให้พวกท่านเสียใจ สู้สิ เนอะ

......ที่ผมไม่พูดถึงม้า (แม่) ก็เพราะว่าท่านอยู่ช่วยเลี้ยงหลานอีกบ้าน แต่ท่านก็เป็นอีกคนที่คอยให้กำลังใจเช่นกัน
....ส่วนแฟนเก่า แน่นอนว่าผมยังรักเค้าอยู่ และคงลืมไม่ได้ คงต้องใช้เวลาพอสมควร แต่ผมต้องไม่เสียใจไปมากกว่านี้

สุดท้ายนี้ ขอฝากถึงพี่ เพื่อน น้องทุกคนในนี้ว่า ถ้าเกินเราทุกข์ใจ เสียใจอะไร ลองมองกลับไปทุกคุณพ่อคุณแม่ ถ้ามีโอกาส ลองทำแบบนี้ผมทำ การไปกราบพ่อแม่ขอพร ประเสริฐกว่าขอพรพระใดใดครับ เห็นผลทันทีไม่ต้องรออนุมัติ ยิ้ม

ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้ครับ

บุญรักษาครับผม ยิ้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่