เมื่อผู้ป่วยมะเร็งไม่ยอมทานไข่ จะเกิดอะไรขึ้น (ตอนจบ)

ขอเล่าต่อจากกระทู้ “เมื่อผู้ป่วยมะเร็งไม่ยอมทานไข่ ฯ ” ที่ค้างไว้

เมื่อ 22 พ.ค.ได้เจอพี่คนที่ต้องให้ยาเข็มสุดท้ายแล้วให้ไม่ได้ของกระทู้ที่แล้ว เขาบอกว่า เขาให้ยาครบเรียบร้อยแล้ว
ตั้งแต่ 17 พ.ค. (เขาต้องกลับไปทานไข่ขาวอีก 5 วัน)แต่ต้องหยุดพักไปหลายวัน ฉันดีใจที่พี่เขาสามารถผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
เลยบอกให้ทานไข่ต่อไปอีก 2 อาทิตย์ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงเพราะฤทธิ์ยาที่ยังมีอยู่ในตัว เขาก็รับปาก ส่วนน้องอีกคน
(ที่ทำงานห้องเดียวกันคนล่าสุดที่เป็นคุณมะ) เขายังไม่ได้มาทำงานเลยตั้งแต่วันที่ให้ยา (10 พ.ค.) แต่เราโทรคุยกันบ่อย
เขาบอกเขาจะพยายามต่อสู้กับโรคให้ได้ (เขากลัวมากจนจิตตก คิดแต่จะตายท่าเดียว) ตอนนี้อาการข้างเคียงเขาดีขึ้นมาก
อาทิตย์หน้าให้เข็มที่ 2 ฉันภาวนาและขอเอาใจช่วยให้เขาผ่านพ้นช่วงเวลาที่สำคัญของชีวิตไปให้ได้

วันนี้มีเรื่องเล่าอีกเรื่องมาฝาก ตอนที่ฉันต้องทานไข่ขาวทุกวันๆ ละ 10 ฟอง ปกติฉันจะทานไข่ต้มเป็นของทานเล่นๆ เวลาหิว
หรือนึกขึ้นได้ ฉันจะไปหยิบมาทาน ประมาณวันละ 5-6 ฟอง ส่วนอีก 4-5 ฟองทำเมนูไข่ ฉันและลูกสาวเราช่วยกันพลิกแพลง
เมนูไข่มาตลอด แต่พอต้องทานทุกวันนานๆ เข้า ฉันก็เริ่มเบื่อทานไม่ค่อยจะหมด วันหนึ่งเราทำ “ผัดหมี่ไข่” เขาบอกว่า
เขาจะทานด้วยจานของฉันเป็นไข่ผัดหมี่ (จานใหญ่เน้นที่ไข่ขาว) ส่วนจานของลูกสาวเป็นหมี่ผัด (จานเล็กเน้นที่เส้น)
เรานั่งทานด้วยกันแล้วคุยกันไปเรื่อยๆ วันนั้นฉันทานจนหมดจาน ลูกสาวเข้ามากอดแล้วชมว่าฉันเก่ง

วันต่อๆ มา เมื่อเขาทำเมนูไข่มาให้ฉันทาน ไข่ในจานมันเพิ่มปริมาณมากขึ้นกว่าปกติที่ฉันต้องทาน พอฉันบอกว่าทำไมจานใหญ่จัง
ฉันทานไม่หมด เขาบอกว่าเขาจะทานกับฉัน แล้วเขาก็เอาจานเล็กมาตักไข่ในจานของฉันไปใส่ในจานของเขา บางครั้งก็ชิ้นหรือ 2 ชิ้น
ทุกๆ จานจะมีไข่ต้มจะเพิ่มขึ้น 1 ฟอง แบ่งเป็น 4 ชิ้น เมื่อเขาตักไป 2 ชิ้น ฉันก็ต้องทานเพิ่มมากเดิมอีก 2 ชิ้น (ไม่รู้ไปเอาความเจ้าเล่ห์
มาจากใคร) เราจะนั่งทานกันไปคุยกันไป ตอนหลังๆ ฉันเริ่มสังเกตลูกสาว เขาจะละเลียดเคี้ยวเอื้องช้าๆ ทั้งๆ ที่ของเขาจานเล็ก
ของฉันจานใหญ่ แต่เขาสามารถทานได้หมดพร้อมๆ กับฉัน  พอฉันถามเขาบอกว่า เขาเห็นฉันจะทานได้มากเมื่อมีเขานั่งทานเป็นเพื่อน
และรู้ว่าฉันต้องทานจนหมด ไม่ใช่เพื่อตัวฉันเองอย่างเดียวแต่เพราะฉันไม่อยากให้เขาเสียใจในความตั้งใจของเขา เขาใช้ใจสั่งฉันค่ะ
ทำให้ฉันนึกถึงตอนที่ฉันใช้ใจสั่งพวกเขา โดยเฉพาะลูกชายคนเล็ก เขาต้องทนทานไข่ทาโร่ของฉันจนหมดทุกครั้ง ไม่ใช่ว่ามันอร่อย
แต่เพราะเขาไม่อยากให้แม่เสียใจ  (ดูพวกเขาย้อนรอยฉันซิคะ) เขาไม่เคยต้องมาสั่งหรือมานั่งจ้องมองให้ฉันต้องทานให้หมด
ด้วยความอึดอัดใจเลย ตรงข้ามมันทำให้ฉันมีความรู้สึกดีๆ และเต็มใจที่จะทานเพื่อตัวฉันเองและเพื่อพวกเขา  

อีกหนึ่งกำลังใจที่ทำให้ฉันสู้คือ คุณป้าท่านหนึ่งได้พบท่านที่ รพ. ระหว่างนั่งรอคุณหมอก่อนที่ฉันจะเริ่มการรักษา เราได้คุยถามไถ่กัน
ท่านว่าฉันโชคดีที่มีคนในครอบครัวคอยให้กำลังใจและคอยดูแล ตัวท่านให้ยาครบหมดแล้ว วันนี้มาพบคุณหมอตามนัด ท่านเล่าว่า
ท่านต้องอดทนและต่อสู้กับอาหารข้างเคียงของยาเพียงลำพัง ท่านมีสามีและลูกนะคะ ลูกอยู่ต่างจังหวัดไกลมากไม่มีเวลาที่จะมาดูแล
นานๆ จะโทรมาถามข่าวจากเพื่อนบ้านสักครั้ง ส่วนสามีที่อยู่ด้วยกันเขาทราบว่าคุณป้าเป็นคุณมะ แต่ไม่เคยสนใจหรือดูแล
ท่านมา รพ.คนเดียว หลังให้ยาท่านจะแพ้มาก มีอาการข้างเคียงเยอะ เมื่อค่อยยังชั่วก็ต้องออกไปรับจ้าง เพื่อหาเลี้ยงตัวเองและเก็บไว้
เป็นค่ารถมาหาหมอ จนเข็มหลังๆ ท่านคิดไม่อยากมีชีวิตอยู่หลายครั้ง แต่ได้เพื่อนบ้านที่ดี และเพื่อนๆ อาชีพเดียวกัน คอยให้กำลังใจ
ทำให้ท่านลุกขึ้นมาต่อสู้กับโรค ท่านว่ายังอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป ฉันรู้สึกนับถือท่านจริงๆ ท่านมีกำลังใจที่เข้มแข็งมาก เป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่
ที่คนๆ หนึ่งจะลุกขึ้นมาเผชิญหน้าและต่อสู้เพื่อให้ตัวเองมีชีวิตรอดเพียงลำพัง แม้คนในครอบครัวจะไม่มีกำลังใจให้ ท่านยังสู้และ
ผ่านมาได้ ฉันคงโชคดีอย่างที่ท่านว่า ทำไมฉันถึงไม่คิดจะสู้ ทุกครั้งที่ฉันเริ่มรู้สึกว่าตัวเองแย่หรือทรมานจากอาการข้างเคียง
ฉันจะนึกถึงคุณป้าคนนั้นทุกครั้ง การต่อสู้ของท่านเป็นกำลังใจให้ฉันฮึดขึ้นมาต่อสู้ แล้วความรู้สึกเหล่านั้นของฉันเบาลง
(ยังนึกเสียใจที่ไม่ได้ถามไถ่ชื่อ ตอนนั้นสมองยังตื้อๆ อยู่)

และอีกหนึ่งแรงบันดาลใจจากคุณป้าคือ หมวกที่ท่านใส่มาวันนั้น ฉันจำได้ติดตามันเป็นหมวกแบบหมวกคลุมผมอาบน้ำ เย็บด้วยมือ
จากผ้าที่คงเคยเป็นกระโปรงของเด็กนักเรียนหญิงมาก่อน (ดูจากรอยเตารีด) ฉันคิดว่ามันคงทั้งอบและทั้งร้อน แต่คุณป้าคงไม่มีทางเลือก
หลังจากที่ฉันถักหมวกให้ตัวเองถูกใจแล้ว เมื่อมีเวลาว่างฉันจึงอยากถักให้คนอื่นบ้าง ฉันเริ่มถักไปฝากให้คุณ หน.พยาบาลที่ฉันต้อง
ไปตรวจก่อนให้ยาทุกครั้ง เขาเอาไปให้ผู้ป่วยคนอื่นที่มีความต้องการ (ช่วงนั้นเริ่มเข้าหน้าหนาวแล้ว) ปัจจุบันที่หน้าห้องตรวจมีตู้กระจก
รับบริจาคหมวกเขียนว่า “แจกฟรี” เกือบทุกครั้งที่ฉันต้องไปให้ยา ฉันจะเอาหมวกไปใส่กล่อง ได้เห็นคนที่อยากได้และเอาไปใส่
ฉันก็ปลื้มแล้วคะ หายเมื่อยไปเลย และที่สำคัญคือฉันมีความสุขคะ มันเป็นงานอดิเรกยามว่างที่ดีมาก หากท่านที่ได้เข้ามาอ่านจะลอง
ทำบ้างก็ได้นะคะ เอาไปบริจาค รพ.ที่ไหนก็ได้ หรือ รพ.ศูนย์ตาม ตจว.ที่มีการรักษาคุณมะ ฉันเชื่อว่ายังมีผู้ป่วยที่ต้องการหมวกของคุณ
อยู่นะคะ

วันนี้มีเมนูไข่มาฝาก
เมนูแรก ปอเปี๊ยะคุณไข่



วิธีทำตัวไส้ เจียวกระเทียมในน้ำมันเล็กน้อยจนหอม ใส่เนื้อสัตว์สับ (หมู/ไก่/กุ้ง) แล้วแต่ชอบ ผัดพอสุก ใส่วุ้นเส้นที่แช่น้ำนิ่มแล้ว
ใส่ซอสนิดหน่อยเพื่อเพิ่มรสชาติและสีของวุ้นเส้นให้น่าทาน ผัดเร็วๆ ใส่เห็ดหูหนูหรือเห็ดหอมสด หรือทั้งสองย่างก็ได้ แครอทหั่น
เป็นเส้นยาวๆ ผัดพอสุก ปรุงรสใส่น้ำตาลทรายและพริกไทยป่นเล็กน้อย (ให้มีรสนิดหน่อย เมื่อทานกับไข่จะได้ไม่จืด) ตักขึ้นพัก
เสร็จแล้วเริ่มมาทำตัวไข่ที่จะห่อไส้
วิธีทำไข่ ทำเหมือน “ไข่อกแตก” เมื่อทำไข่เสร็จปิดไฟ โดยให้ไข่ยังอยู่ในกระทะ พับมุมไข่ด้านที่อยู่ใกล้ตัวประมาณ 1 นิ้วแล้ว
รีบเอาไส้ที่ทำไว้แล้ววางลงไข่ด้านที่พับไว้ โรยด้วยผักชีฝอย เสร็จแล้วเริ่มม้วนไข่ด้านที่วางไส้ ค่อยๆ ม้วนๆ ให้แน่นๆ จนสุดแผ่น
(ต้องทำตอนที่ไข่ยังมีความร้อนอยู่ หากไข่เย็นแล้วจะทำม้วนไข่ให้แน่นไม่ได้) เสร็จแล้วใช้ไม่จิ้มฟันปักลงบนไข่ (ปักหัว กลาง ท้าย
เพื่อไม่ให้ไข่คลายตัวออก) ตักขึ้นวางบนเขียง รอจนเริ่มเย็นให้กะไข่ที่ม้วนว่าจะทานแบบสบายๆ ได้กี่คำ ให้เอาไม้จิ้มฟันปักเพิ่มตาม
จำนวนคำที่จะทาน แล้วหั่นโดยกะให้ไม้อยู่ตรงกลางของคำ เสร็จแล้วจัดเรียงใส่จาน ทานกับน้ำจิ้มไก่หรือน้ำจิ้มบ๊วยก็ได้แล้วแต่ชอบ
ทานกับแตงกวา ผักชี หรือผักกาดหอมด้วยก็ได้

ถ้าไข่ที่ทำเกิดขาด ควรทำใหม่เพราะจะทำให้ห่อไส้ไม่ได้ ให้เอาไข่ที่ขาดไปทำเป็นเมนูอื่นได้

เมนูสุดท้ายขอแนะนำ เมี่ยงปลาทูไข่



วิธีทำ ปลาทูเอาไปอบหรือนึ่งใหม่อีกครั้งเพื่อความสะอาด (ควรเลี่ยงการทอด) รอจนเย็นแกะก้างออก แล้วหั่นชิ้นพอคำ ไข่ขาวต้ม
หรือไข่ขาวที่ทำเหมือนยำไข่ดาวก็ได้ หั่นเป็นชิ้นพอคำ จัดวางเรียงลงจานพร้อมเครื่องเคียงหั่นชิ้นเล็กๆ โดยหลักๆ มี หอมแดง
มะม่วงดิบ ขิงแก่หรืออ่อน(แล้วแต่ชอบ) กระเทียมสด (ควรเป็นกระเทียมไทยที่เป็นกลีบเล็กๆ) ถั่วคั่ว มะนาว ทานกับน้ำจิ้ม
โดยใช้ผักกาดหอม หรือใบชะพลู หรือผักที่ชอบ ห่อเครื่องทั้งหมดแล้วทาน หากชอบเครื่องเคียงอย่างอื่นก็สามารถเอามาทาน
ด้วยกันได้ เช่น เต้าหู้ทอดที่ทำเหมือนเมนู “ผัดหมี่ไข่” หั่นเป็นลูกเต๋าเล็กๆ ส่วนถั่วอยากให้คั่วเองนะคะไม่อยากให้ใช้ถั่วทอด
(ในภาพแอบยืมถั่วทอดของสามีมาจัดในจานเพื่อความสวยงาม)
วิธีทำน้ำจิ้ม น้ำปลา น้ำตาลปีบ น้ำมะนาว พริกขี้หนูซอย ชิมรสตามชอบ หากอยากทานเผ็ดให้ตัดพริกที่อยู่ในน้ำจิ้ม
(ระวังปากพองเป็นแผล)

เมนูนี้จะได้ทานโปรตีนที่ได้จากไข่และปลาทู และยังได้ทานผักที่เป็นสมุนไพรไทยหลายอย่างอีกด้วย เป็นเมนูเพื่อสุขภาพ
ทานได้ทั้งคนดูแลและผู้ป่วย

อาหารทุกจานที่คุณทำ ถึงแม้รสชาติจะดีและหน้าตาน่าทานมากแค่ไหน เมื่อมันคืออาหารที่จำเป็นต้องทาน มันเป็นอะไรที่ทรมาน
สำหรับผู้ป่วย เพราะไม่ใช่ทานแค่วันสองวัน ต้องทานตลอดการให้ยา ถ้าคุณเป็นผู้ดูแลผู้ป่วยหากสามารถทานอาหารแบบเดียว
กับที่ผู้ป่วยต้องทานไปพร้อมกับเขา  ฉันคิดว่าจะทำให้ผู้ป่วยทานอาหารทานนั้นด้วยความรู้สึกดีขึ้นโดยเฉพาะเป็นผู้ป่วยที่สูงอายุ
ลองนึกถึงหากเป็นคุณเองที่เป็นคนปกติดีไม่ได้เจ็บป่วยอะไร ต้องทานอาหารเพียงคนเดียว แต่คนในครอบครัวทานพร้อมหน้ากัน
อย่างสนุกสนานเอร็ดอร่อย คุณจะรู้สึกอย่างไร ผู้ป่วยเองก็มีความรู้สึกไม่ต่างกันหรอกนะคะ ถึงแม้อาหารของผู้ป่วยจะแตกต่างจาก
ของพวกคุณ แต่การได้ทานพร้อมหน้ากันก็ช่วยทำให้บรรยากาศการทานดีขึ้น และจะยิ่งดีมากขึ้นเมื่ออาหารที่คุณทานเป็นอาหาร
เหมือนกันกับที่ผู้ป่วยต้องทาน (ตัวฉันเองรู้สึกได้ถึงความตั้งใจของคนทำ ซึ่งเขาพยายามทานอาหารอย่างเดียวกับฉัน เพื่อให้ฉัน
รับรู้ว่าเขาเองรู้สึกและเข้าใจเช่นเดียวกับฉัน ที่ต้องทนทานอาหารที่แสนจะน่าเบื่อด้วยความรู้สึกอย่างไร การกระทำของเขาทำให้ฉัน
รู้สึกดีมาก และสามารถทานเมนูไข่ได้หมดทุกครั้ง อย่างเช่นเมนูวันนี้ คุณสามารถทานไปพร้อมๆ กับผู้ป่วยได้เป็นอย่างดี

สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณทุกๆ กำลังใจ ทุกๆ ความคิดเห็น และทุกท่านที่ติดตาม ขอขอบคุณจากใจจริง
และขอให้ทุกท่านมีสุขภาพทั้งกายและใจที่แข็งแรงกันทุกคน

กระทู้นี้คงเป็นกระทู้สุดท้ายที่ฉันจะเขียน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าสิ่งที่ฉันเขียน (แบบยืดยาวทุกตอน)
จะเป็นประโยชน์กับหลายๆ ท่านได้บ้าง

ทั้งหมดนี้ฉันขอยกความดีให้กับสามีและลูกๆ ของฉัน ที่คอยดูแล คอยให้กำลังใจ เอาใจใส่ และใส่ใจกับฉัน โดยเฉพาะ
ลูกสาวที่เป็นคนสนับสนุนให้ฉันเขียนเรื่องราวให้ทุกๆ ทานได้อ่าน



อ่านกระทู้เก่าได้ที่...
ฉันรู้ทันเธอนะคุณมะ(เร็ง) ตอนที่ 1  >>http://ppantip.com/topic/30414596
ฉันรู้ทันเธอนะคุณมะ(เร็ง) ตอนที่ 2 >>http://ppantip.com/topic/30418215
ฉันรู้ทันเธอนะคุณมะ(เร็ง) ตอนที่ 3 >>http://ppantip.com/topic/30426153
ฉันรู้ทันเธอนะคุณมะ(เร็ง) ตอนที่ 4 >>http://ppantip.com/topic/30430450
ฉันรู้ทันเธอนะคุณมะ(เร็ง) ตอนที่ 5  >>http://ppantip.com/topic/30433744
ฉันรู้ทันเธอนะคุณมะ(เร็ง) ตอนที่ 6  >>http://ppantip.com/topic/30445429
ฉันรู้ทันเธอนะคุณมะ(เร็ง) ตอนที่ 7  >>http://ppantip.com/topic/30449086
ฉันรู้ทันเธอนะคุณมะ(เร็ง) ตอนที่ 8 >>http://ppantip.com/topic/30453280
เมื่อผู้ป่วยมะเร็งไม่ยอมทานไข่ จะเกิดอะไรขึ้น >>http://ppantip.com/topic/30474654
คุณจะทำอย่างไรเมื่อคุณหมอบอกว่า "คุณเป็นมะเร็งนะ" >>http://ppantip.com/topic/30502628
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่