เห็นกลุ่มคนดีในบ้านเมือง ดาหน้าออกมาบอกว่าตัวเองเป็นดี คนนั้นไม่ดี ทำให้นึกถึง
เทศนาธรรม บทหนึ่งเกี่ยวกะเรื่องการเป็นคนดี ของปู่ชา เลยเอามาฝากครับ

   ..............ครั้งหนึ่ง หลวงปู่ชาลงไปเยี่ยมวัดที่อังกฤษ มีญาติโยมคนหนึ่งถามหลวงปู่ชา "เรื่องการปฎิบัติ"
"คนที่ปฏิบัติเพื่อเป็นอรหันต์ กับคนปฏิบัติเพื่อเป็นโพธิสัตว์ อันไหนจะดีกว่ากัน อันไหนจะสูงกว่ากัน"
แทนที่หลวงปู่จะตอบตรง ๆ ท่านกลับเทศนาธรรมว่า
"อย่าเป็นอะไรเลย พระอรหันต์ก็อย่าเป็นเลย พระโพธิสัตว์ก็อย่าเป็นเลย แม้พระพุทธเจ้าก็อย่าเป็นเลย"
และสรุปว่าเป็นอะไรก็ต้องเป็นทุกข์ทันที ท่านสอนว่าอย่าเป็นคนดี อย่าไปถึงระดับนั้น
    ให้เป็น  "คน" อย่าเป็น "คนดี"
เพราะถ้าเป็นคนดีต้องรำคาญคนไม่ดี
    ทุกวันนี้คนไม่ดีมากกว่าคนดีเยอะ ไปที่ไหนก็กลุ้มใจ มีแต่ความไม่พอใจ
เหมือนกับคนที่เลิกสูบบุหรี่แล้ว ดูคนอื่นสูบ
    "นี่เรียกว่าติดดี ท่านไม่ให้ติด แม้จะเป็นความดีท่านก็ไม่ให้ติด"
หลวงปู่บอกว่า เพราะความติดเป็นทุกข์ สร้างความทุกข์ใจ
   ให้ทำความดี เพื่อ ความดี
  ให้ทำความดี เพราะ รักความดี
   แต่ไม่ให้ทำความดี เพื่อจะเป็น คนดี
   "เพราะถ้าเราเป็นคนดี แล้วจะเป็นทุกข์".............

     เห็นหลายคนในบ้านเมืองออกมาประกาศตนว่าเป็นคนดี แล้วเพลียหัวใจ
ยิ่งเป็นคน มีอำนาจ มีบารมี ออกมาบอกแล้ว เหนื่อยใจแทนบ้านเมืองครับ
    เพราะโดยหลักการณ์การอยู่ร่วมกันตามความคิดผม ผมมองว่าการจะอยู่ร่วมกัน เราต้องเริ่มจากมอง
"คนอื่น" เป็น "คนดี" ไม่ใช่เริ่มจากการบอกว่า "เรา" เป็น "คนดี" อย่างที่ผู้หลักผู้ใหญ่
ผู้มากบารมี ทำกันทุกวันนี้ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามถ้าเราเริ่มจากการที่ตัวเราเป็นคนดี ก็มีโอกาสที่เรา
จะมองคนอื่น ที่คิด ไม่เหมือนกะเรา แตกต่างจากเราต้องเป็น "คนไม่ดี" ไปโดยปริยาย
หรือคนดีเหล่านี้ เป็นประเภท "ติดดี" อย่างหลวงพ่อท่านว่า จริง ๆ
"คนดีต้องให้คนหมู่มากรู้สึก ไม่ใช่ บอกมาจากปากตัวเอง"