ขอเล่ายาวหน่อยนะคะ คิดวนเวียนอยู่จนทุกข์ใจ พยายามจะคิดในแง่ดี แต่มันก็ไม่สุด เหมือนมีอะไรติดค้างในใจอยู่อีกนิดนึง
ขอคำปรึกษา คำด่าให้คิด หรือกำลังใจหน่อย
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ส่วนตัว ตั้งแต่เด็ก เป็นคนคิดมาก เวลาโมโห อารมณ์ฉุนเฉียว เวลาโมโห ขาดสติ ไม่เคยได้เข้าหาธรรมมะเลย
คงเพราะชาติก่อนทำกรรมอะไรไม่ดีไว้
ดิฉันกับสามีทำงานหน่วยงานเดียวกันแต่อยู่คนละสำนักงานค่ะ ซื้อบ้านไว้ที่ดิฉันทำงาน บ้านที่ซื้อตอนแรกเป็นทาวเฮาสนะคะ แต่งงานกันได้ 2 ปี สามีขับรถไปกลับเอา ไม่มีปัญหา จนมีลูก ดิฉันเหนื่อยมาก สามีทำงานที่ ดิฉันทำงานที่ ลูกไปอยู่กับพ่อแม่เราอีกที ดิฉันต้องขับรถไปหาลูกทุกวัน บ้านพ่อแม่ห่างกับที่ทำงาน 70 โล ดิฉันเหนื่อยมาก นอนก็ไม่ได้นอน เลี้ยงคนเดียว กลางวันฝากพ่อแม่อยู่อย่างนี้ถึง 1 ปีครึ่ง ไม่ไหวแล้วนะ อยากให้สามีย้ายมาทำงานอยู่ที่เดียวกัน
สามีทำงานกรุงเทพ ดิฉันทำงานอำเภอเล็กๆ ใกล้ๆ กรุงเทพ แต่บ้านสามีอยู่พิจิตร สามีบอกว่าอยากย้ายไปพิษณุโลก ใกล้บ้าน
และเป็นตัวจังหวัด (พ่อแม่ดิฉัน เป็นคนใต้ ท่านเคยบอกว่าลูกจบทำงานหมด จะย้ายกลับไปอยู่ใต้ ตอนแรกดิฉันก้ไม่ห่วง สามีชวนว่าอย่างนั้นก็เลยคิดว่าจะย้ายไปก็ได้ อันนี้คุยกันไว้นานแล้วนะคะ ตั้งแต่ก่อนมีลูก) แล้วพอมีลูกมันเหนื่อยนะ อยากจะอยู่กันเป็นครอบครัว
พอมาคิดเรื่องจะย้ายไปอยู่ด้วยกันที่ไหนดี ลูกก็เริ่มโต อยากมีบ้านเดี่ยว ให้ลูกมีที่เล่นทราย ปลูกต้นไม้ ดอกไม้ อยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว
ตอนแรกดิฉันก็คิดว่าจะอยุ่ทีเดิม จะได้อยู่ใกล้พ่อแม่ดิฉัน ลูกก็เรียน รร เล็กๆ ในตัวอำเภอก่อน พอมัธยมค่อยไปเรียนใน ตัวจังหวัดไม่เป็นไร
(แต่สามีเค้าอยากย้าย เค้าทักท้วงตลอดว่า โรงงานเยอะ อากาศไม่ดี โรงเรียนก็เล็กเกินไม่มีที่สนามหญ้า พอเราบอกว่าใกล้กรุงเทพนะ ใกล้ รพ ดีๆ ใกล้สนามบิน เค้าก็จะบอกว่ามันก็ไม่ได้ไปกันบ่อยๆ คือไม่ได้สนับสนุนเลย ยกเหตุผลมาทำให้เราไขว้เขว ต่างๆนาๆ ตลอด)
แต่ก็คิดว่าตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะอยู่ที่นี้แหล่ะ คิดไปมาจนปวดหัวตั้งเป็นปีแล้ว จะได้เริ่มสร้างบ้านเดี่ยวซะที จนไปมัดจำที่ดิน กับจะปลูกบ้านเสียเงินไป เก้าหมื่นบาทแล้ว
และแล้วมีวันนึง ไปเจอเพื่อนในแผนกที่ทะเลาะกัน แล้วดิฉันแพ้เค้าทุกทาง ดิฉันอยากจะเริ่มต้นชีวิตใหม่บ้าง ตั้งแต่มีปัญหากับคนนี้ดิฉันก็แทบไม่มีเพื่อนในที่ทำงานเลย เค้าเข้าข้างคนนั้นกันหมด แต่น้องในแผนกก็ดีกันนะ แต่พวกเพื่อนรุ่นเดียวกันที่เข้ามาพร้อมกันเคยสนิทกัน เค้าไปเลือกข้างโน้นกันหมด ดิฉันก็รู้สึกแย่ และเรื่องงาน หัวหน้าก็เชียร์คนนี้ ดิฉันทำงานแทนหัวหน้าก็เยอะก็ไม่เห็นหัว หัวหน้าไม่เชียร์เลย เงินเดือนก็ได้น้อยกว่าคนนี้ ติดกันหลายปี จนรู้สึกไม่มีไฟ ไม่สนุกในการทำงานแล้ว คิดว่า ทนอยู่ที่นี้ไม่ได้แล้วหละ ยังไงก็ต้องย้าย อยากจะย้ายไปเริ่มต้นใหม่ ชีวิตจะได้ดีขึ้น จะไม่ไปสร้างศัตรูแล้ว ไม่ต้องสนิทกับใครก็ได้ แต่จะไม่ไปมีศัตรู ตอนนั้นคิดอย่างนี้จริงๆ ไปคุยกับสามีย้ายเถอะ ยอมเสียเงิน 9 หมื่น
สามีตอนแรกก็ไม่เห็นด้วย แต่ลึกๆ เค้าก็อยากย้ายอยู่แล้ว และเค้าก็ไม่เคยสนับสนุนให้อยู่ที่นี้เลย แค่บอกว่าอยู่ก็ได้ แต่ยังไงอีก 10 ปีเค้าก็ต้องย้ายกลับไปใกล้บ้านเค้า
ทำให้ดิฉันถึงอนาคตอีก ว่าถ้าเค้าย้ายไป แล้วจะทำไงหล่ะ ลูกก็เพิ่งวัยรุ่น จะแยกกันอยู่เหรอ บ้านหล่ะ ถ้าลงทุนสร้างไปแล้ว คงหมดเงินแล้ว ผ่อนกันที 30 ปี ก็คงผ่อนได้แค่หลังเดียว อยากสร้างทีเดียว ถ้าอยู่ที่เดิม ไม่มีบ้านจัดสรร สร้างบ้านเองจะขายยากแน่ ทำไงดี
แล้วก็ทำอย่างไรให้หยุดคิดให้ได้ว่า ทำไมเราโง่อย่างนี้ ทำอะไรลงไป อารมณ์ชั่ววูบ ย้ายมาไกล พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อนสนิทก็อยู่กรุงเทพหมด แล้วยังเสียเงินตั้ง 9 หมื่นอีกหนอ เฮ้อ ตอนนี้พยายามคิดว่า มันผ่านไปแล้วแก้ไม่ได้ ต้องเดินหน้าต่อไปให้ดีที่สุด แต่มันก็ติดอยู่ตลอดค่ะ
อ้อ พอคิดเรื่องความตายทำให้ ยิ่งคิดถึงพ่อแม่ ว่าเราจะตายเมื่อไหร่ พ่อแม่หล่ะ ทำให้เราไม่สบายใจเลยค่ะ
เลยทำให้เราตัดสินใจย้าย ณ วันนี้ (ชั่วูบมากๆ) แต่ก่อนหน้านั้นที่ตัดใจว่าจะอยู่ที่เดิม มัดจำที่ดินไปแล้วก็เหมือนยังลังเลอยู่ตลอดนะ ขับรถเวียนไปดูทุกวันว่าใช่เหรอ เราจะมาอยู่ตรงนี้เหรอ ถ้าสามีไม่อยู่เราจะอยู่คนเดียวได้มั้ย คิดแล้วคิดแต่ แต่ตัดสินใจทีเดียวว่าจะย้าย แล้วเดินหน้า ไม่ย้อนไปคิดอีกเลย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้น คิดแล้วคิดอีกตั้งเป็นปี ว่าจะย้ายดีไม่ย้ายดี อยู่ไหนดี
สรุป ตัดมาถึงตอนย้ายมาพิษณุโลก พ่อแม่มาส่ง ตอนวันที่ท่านกลับไปก็รู้สึกโหวงเหวงบอกไม่ถูก ร้องไห้เลย แต่ก็ตั้งใจว่าจะกลับไปบ่อยๆ แล้วพอมาทำงานจริงๆ ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คาดไว้ มันแย่อ่ะ
ตอนนี้พอลูกเริ่มโต เริ่มคิดถึงเรื่องความตายจริงจังขึ้น รู้สึกว่าชีวิตคนเรามันสั้นจริงๆ ตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้ คิดถึงพ่อแม่ อยากกลับไปดูแลท่าน แต่ตอนแรกก็วางแผนไว้แล้วนะ (แต่ไม่ได้บอกท่านนะ) ว่าขอมาเริ่มต้นชีวิตใหม่เถอะ ที่ทำงานเดิมต้องไปทำวันละ 7 ชม ไปอีก ตั้ง หลายสิบปี แบบไม่มีความสุข มันห่อเหี่ยวนะ เรามานี่ก็ไม่ได้คิดจะทิ้งท่าน ตั้งใจไว้แล้วว่าจะให้พ่อแม่มาอยู่ด้วยตอนแก่ๆ แต่พอเอาเข้าจริง
ก็ไม่รู้พ่อกับแม่จะมาหรือเปล่าเพราะ เค้ามาก็คงเหงา อยู่ทีเดิมยังมีเพื่อนบ้าง ถึงจะไม่มีญาติๆ ก็เหอะ แต่ไม่รู้พ่อแม่จะมาหรือเปล่า
แล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นหล่ะ เราจะกลับไปทันหรือเปล่า ถ้าไม่ย้ายมาทำงานที่เก่ายังไปกลับไปหาได้ทุกวัน เฮ้อ
สรุป เกริ่นมายาว อยากจะปรึกษาว่าจะทำอย่างไรดี
จะย้ายกลับไปดีมั้ย คุยกับสามีแล้วเค้าบอกจะไปก็ไป แต่เค้าไม่ย้ายแล้ว ก็ต้องแยกกันอยู่ เราก็ไม่ได้กังวลถึงสามีหรอก แต่ลูกหล่ะ เพิ่ง 4 ขวบ แล้วย้ายมานี่ ลูกก็สนุก ไปโรงเรียน เริ่มติดเพื่อน ติดโรงเรียนแล้ว เคยเกริ่นๆกับลูกว่าจะไปอยู่กับตายายนะ ลูกก็ร้องบอกแล้วโรงเรียนที่นี้หละ บ้านหล่ะ ลูกบอกว่าชอบบ้านที่นี่ ให้ตากับยายมาอยู่ทีนี้
หรือไม่ต้องย้ายกลับไป เดินหน้าต่อไปให้ดี ชวนพ่อแม่มาอยู่ (แต่ ณ ตอนนี้ท่านยังแข็งแรงกันอยู่ คงไม่มาแน่ๆ) แต่เราก็รู้สึกผิดว่าชีวิตคนเรามันสั้น ถ้าพ่อแม่มาตอนแก่ๆ จริงๆ แบบแย่แล้ว เราก็จะได้ดูแลท่านแค่ไม่กี่ปีนะ แต่จะบังคับให้มาท่านก็ไม่มาและคงเหงาด้วย
ทุกวันนี้ก็ได้แต่ สวดมนต์ก่อนนอน ขออโหสิกรรม และแผ่เมตตา (คำพูดเฉยๆ ไม่ได้ภาษาบาลีค่ะ) เพื่อจะได้สบายใจขึ้นมาบ้างว่าทำผิดอะไรไว้เยอะ ตัดสินใจผิด ทำให้พ่อแม่เสียใจว่าเรามาอยู่ไกล กลัวบาปมากๆ ไม่รู้จะทำยังไงเลยค่ะ
หนีปัญหา เบื่องาน กังวลถึงอนาคตมากไป สุดท้าย ย้ายที่ทำงานจนต้องอยู่ไกลพ่อแม่ ตอนนี้ไม่สบายใจเลยค่ะ
ขอคำปรึกษา คำด่าให้คิด หรือกำลังใจหน่อย
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ส่วนตัว ตั้งแต่เด็ก เป็นคนคิดมาก เวลาโมโห อารมณ์ฉุนเฉียว เวลาโมโห ขาดสติ ไม่เคยได้เข้าหาธรรมมะเลย
คงเพราะชาติก่อนทำกรรมอะไรไม่ดีไว้
ดิฉันกับสามีทำงานหน่วยงานเดียวกันแต่อยู่คนละสำนักงานค่ะ ซื้อบ้านไว้ที่ดิฉันทำงาน บ้านที่ซื้อตอนแรกเป็นทาวเฮาสนะคะ แต่งงานกันได้ 2 ปี สามีขับรถไปกลับเอา ไม่มีปัญหา จนมีลูก ดิฉันเหนื่อยมาก สามีทำงานที่ ดิฉันทำงานที่ ลูกไปอยู่กับพ่อแม่เราอีกที ดิฉันต้องขับรถไปหาลูกทุกวัน บ้านพ่อแม่ห่างกับที่ทำงาน 70 โล ดิฉันเหนื่อยมาก นอนก็ไม่ได้นอน เลี้ยงคนเดียว กลางวันฝากพ่อแม่อยู่อย่างนี้ถึง 1 ปีครึ่ง ไม่ไหวแล้วนะ อยากให้สามีย้ายมาทำงานอยู่ที่เดียวกัน
สามีทำงานกรุงเทพ ดิฉันทำงานอำเภอเล็กๆ ใกล้ๆ กรุงเทพ แต่บ้านสามีอยู่พิจิตร สามีบอกว่าอยากย้ายไปพิษณุโลก ใกล้บ้าน
และเป็นตัวจังหวัด (พ่อแม่ดิฉัน เป็นคนใต้ ท่านเคยบอกว่าลูกจบทำงานหมด จะย้ายกลับไปอยู่ใต้ ตอนแรกดิฉันก้ไม่ห่วง สามีชวนว่าอย่างนั้นก็เลยคิดว่าจะย้ายไปก็ได้ อันนี้คุยกันไว้นานแล้วนะคะ ตั้งแต่ก่อนมีลูก) แล้วพอมีลูกมันเหนื่อยนะ อยากจะอยู่กันเป็นครอบครัว
พอมาคิดเรื่องจะย้ายไปอยู่ด้วยกันที่ไหนดี ลูกก็เริ่มโต อยากมีบ้านเดี่ยว ให้ลูกมีที่เล่นทราย ปลูกต้นไม้ ดอกไม้ อยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว
ตอนแรกดิฉันก็คิดว่าจะอยุ่ทีเดิม จะได้อยู่ใกล้พ่อแม่ดิฉัน ลูกก็เรียน รร เล็กๆ ในตัวอำเภอก่อน พอมัธยมค่อยไปเรียนใน ตัวจังหวัดไม่เป็นไร
(แต่สามีเค้าอยากย้าย เค้าทักท้วงตลอดว่า โรงงานเยอะ อากาศไม่ดี โรงเรียนก็เล็กเกินไม่มีที่สนามหญ้า พอเราบอกว่าใกล้กรุงเทพนะ ใกล้ รพ ดีๆ ใกล้สนามบิน เค้าก็จะบอกว่ามันก็ไม่ได้ไปกันบ่อยๆ คือไม่ได้สนับสนุนเลย ยกเหตุผลมาทำให้เราไขว้เขว ต่างๆนาๆ ตลอด)
แต่ก็คิดว่าตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะอยู่ที่นี้แหล่ะ คิดไปมาจนปวดหัวตั้งเป็นปีแล้ว จะได้เริ่มสร้างบ้านเดี่ยวซะที จนไปมัดจำที่ดิน กับจะปลูกบ้านเสียเงินไป เก้าหมื่นบาทแล้ว
และแล้วมีวันนึง ไปเจอเพื่อนในแผนกที่ทะเลาะกัน แล้วดิฉันแพ้เค้าทุกทาง ดิฉันอยากจะเริ่มต้นชีวิตใหม่บ้าง ตั้งแต่มีปัญหากับคนนี้ดิฉันก็แทบไม่มีเพื่อนในที่ทำงานเลย เค้าเข้าข้างคนนั้นกันหมด แต่น้องในแผนกก็ดีกันนะ แต่พวกเพื่อนรุ่นเดียวกันที่เข้ามาพร้อมกันเคยสนิทกัน เค้าไปเลือกข้างโน้นกันหมด ดิฉันก็รู้สึกแย่ และเรื่องงาน หัวหน้าก็เชียร์คนนี้ ดิฉันทำงานแทนหัวหน้าก็เยอะก็ไม่เห็นหัว หัวหน้าไม่เชียร์เลย เงินเดือนก็ได้น้อยกว่าคนนี้ ติดกันหลายปี จนรู้สึกไม่มีไฟ ไม่สนุกในการทำงานแล้ว คิดว่า ทนอยู่ที่นี้ไม่ได้แล้วหละ ยังไงก็ต้องย้าย อยากจะย้ายไปเริ่มต้นใหม่ ชีวิตจะได้ดีขึ้น จะไม่ไปสร้างศัตรูแล้ว ไม่ต้องสนิทกับใครก็ได้ แต่จะไม่ไปมีศัตรู ตอนนั้นคิดอย่างนี้จริงๆ ไปคุยกับสามีย้ายเถอะ ยอมเสียเงิน 9 หมื่น
สามีตอนแรกก็ไม่เห็นด้วย แต่ลึกๆ เค้าก็อยากย้ายอยู่แล้ว และเค้าก็ไม่เคยสนับสนุนให้อยู่ที่นี้เลย แค่บอกว่าอยู่ก็ได้ แต่ยังไงอีก 10 ปีเค้าก็ต้องย้ายกลับไปใกล้บ้านเค้า
ทำให้ดิฉันถึงอนาคตอีก ว่าถ้าเค้าย้ายไป แล้วจะทำไงหล่ะ ลูกก็เพิ่งวัยรุ่น จะแยกกันอยู่เหรอ บ้านหล่ะ ถ้าลงทุนสร้างไปแล้ว คงหมดเงินแล้ว ผ่อนกันที 30 ปี ก็คงผ่อนได้แค่หลังเดียว อยากสร้างทีเดียว ถ้าอยู่ที่เดิม ไม่มีบ้านจัดสรร สร้างบ้านเองจะขายยากแน่ ทำไงดี
แล้วก็ทำอย่างไรให้หยุดคิดให้ได้ว่า ทำไมเราโง่อย่างนี้ ทำอะไรลงไป อารมณ์ชั่ววูบ ย้ายมาไกล พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อนสนิทก็อยู่กรุงเทพหมด แล้วยังเสียเงินตั้ง 9 หมื่นอีกหนอ เฮ้อ ตอนนี้พยายามคิดว่า มันผ่านไปแล้วแก้ไม่ได้ ต้องเดินหน้าต่อไปให้ดีที่สุด แต่มันก็ติดอยู่ตลอดค่ะ
อ้อ พอคิดเรื่องความตายทำให้ ยิ่งคิดถึงพ่อแม่ ว่าเราจะตายเมื่อไหร่ พ่อแม่หล่ะ ทำให้เราไม่สบายใจเลยค่ะ
เลยทำให้เราตัดสินใจย้าย ณ วันนี้ (ชั่วูบมากๆ) แต่ก่อนหน้านั้นที่ตัดใจว่าจะอยู่ที่เดิม มัดจำที่ดินไปแล้วก็เหมือนยังลังเลอยู่ตลอดนะ ขับรถเวียนไปดูทุกวันว่าใช่เหรอ เราจะมาอยู่ตรงนี้เหรอ ถ้าสามีไม่อยู่เราจะอยู่คนเดียวได้มั้ย คิดแล้วคิดแต่ แต่ตัดสินใจทีเดียวว่าจะย้าย แล้วเดินหน้า ไม่ย้อนไปคิดอีกเลย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้น คิดแล้วคิดอีกตั้งเป็นปี ว่าจะย้ายดีไม่ย้ายดี อยู่ไหนดี
สรุป ตัดมาถึงตอนย้ายมาพิษณุโลก พ่อแม่มาส่ง ตอนวันที่ท่านกลับไปก็รู้สึกโหวงเหวงบอกไม่ถูก ร้องไห้เลย แต่ก็ตั้งใจว่าจะกลับไปบ่อยๆ แล้วพอมาทำงานจริงๆ ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คาดไว้ มันแย่อ่ะ
ตอนนี้พอลูกเริ่มโต เริ่มคิดถึงเรื่องความตายจริงจังขึ้น รู้สึกว่าชีวิตคนเรามันสั้นจริงๆ ตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้ คิดถึงพ่อแม่ อยากกลับไปดูแลท่าน แต่ตอนแรกก็วางแผนไว้แล้วนะ (แต่ไม่ได้บอกท่านนะ) ว่าขอมาเริ่มต้นชีวิตใหม่เถอะ ที่ทำงานเดิมต้องไปทำวันละ 7 ชม ไปอีก ตั้ง หลายสิบปี แบบไม่มีความสุข มันห่อเหี่ยวนะ เรามานี่ก็ไม่ได้คิดจะทิ้งท่าน ตั้งใจไว้แล้วว่าจะให้พ่อแม่มาอยู่ด้วยตอนแก่ๆ แต่พอเอาเข้าจริง
ก็ไม่รู้พ่อกับแม่จะมาหรือเปล่าเพราะ เค้ามาก็คงเหงา อยู่ทีเดิมยังมีเพื่อนบ้าง ถึงจะไม่มีญาติๆ ก็เหอะ แต่ไม่รู้พ่อแม่จะมาหรือเปล่า
แล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นหล่ะ เราจะกลับไปทันหรือเปล่า ถ้าไม่ย้ายมาทำงานที่เก่ายังไปกลับไปหาได้ทุกวัน เฮ้อ
สรุป เกริ่นมายาว อยากจะปรึกษาว่าจะทำอย่างไรดี
จะย้ายกลับไปดีมั้ย คุยกับสามีแล้วเค้าบอกจะไปก็ไป แต่เค้าไม่ย้ายแล้ว ก็ต้องแยกกันอยู่ เราก็ไม่ได้กังวลถึงสามีหรอก แต่ลูกหล่ะ เพิ่ง 4 ขวบ แล้วย้ายมานี่ ลูกก็สนุก ไปโรงเรียน เริ่มติดเพื่อน ติดโรงเรียนแล้ว เคยเกริ่นๆกับลูกว่าจะไปอยู่กับตายายนะ ลูกก็ร้องบอกแล้วโรงเรียนที่นี้หละ บ้านหล่ะ ลูกบอกว่าชอบบ้านที่นี่ ให้ตากับยายมาอยู่ทีนี้
หรือไม่ต้องย้ายกลับไป เดินหน้าต่อไปให้ดี ชวนพ่อแม่มาอยู่ (แต่ ณ ตอนนี้ท่านยังแข็งแรงกันอยู่ คงไม่มาแน่ๆ) แต่เราก็รู้สึกผิดว่าชีวิตคนเรามันสั้น ถ้าพ่อแม่มาตอนแก่ๆ จริงๆ แบบแย่แล้ว เราก็จะได้ดูแลท่านแค่ไม่กี่ปีนะ แต่จะบังคับให้มาท่านก็ไม่มาและคงเหงาด้วย
ทุกวันนี้ก็ได้แต่ สวดมนต์ก่อนนอน ขออโหสิกรรม และแผ่เมตตา (คำพูดเฉยๆ ไม่ได้ภาษาบาลีค่ะ) เพื่อจะได้สบายใจขึ้นมาบ้างว่าทำผิดอะไรไว้เยอะ ตัดสินใจผิด ทำให้พ่อแม่เสียใจว่าเรามาอยู่ไกล กลัวบาปมากๆ ไม่รู้จะทำยังไงเลยค่ะ