จากกรณีไฟฟ้าดับทั่วภาคใต้ ในค่ำคืนที่ผ่านมา ตอกย้ำ และย้ำเตือน คนปักษ์ใต้ได้เป็นอย่างดี ดียิ่งกว่าจะมีคนมาพร่ำบอกนับล้านล้านคน ว่า ถึงเวลาแล้ว ที่ภาคใต้จะต้องสร้างความมั่นคงให้กับภูมิภาคตัวเอง โดยเฉพาะในเรื่องของพลังงาน เพราะเสมือนหนึ่ง เป็นหัวใจและเส้นเลือดใหญ่ ที่หล่อเลี้ยง ให้ภูมิภาคเกิดความมั่นคงและปลอดภัย ในการพัฒนาเศรษฐกิจ และสร้างความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สินในระยะยาว
ปัจจุบันคนใต้อาจจะยังไม่ทราบข้อมูลที่แท้จริงว่า มีกำลังการผลิตไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ กล่าวคือ ผลิตได้เพียง 1,390 เมกกะวัตต์ จากระบบกระแสไฟฟ้าในภาคใต้ทั้งสิ้น 5 โรงงาน ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าขนอม มีกำลังการผลิต 410 แมกกะวัตต์จ่ายไฟไปยังพื้นที่นครศรีธรรมราช สุราษฏร์ธานี ชุมพร พัทลุง ตรัง โรงไฟฟ้าบางลาง จ.ยะลา กำลังการผลิต 40 เมกกะวัตต์ จ่ายในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ เขื่อนเชี่ยวหลาน สุราษฏร์ธานี 240 แมกกะวัตต์ จ่ายให้สุราษฏร์ธานี พังงา ภูเก็ต โรงไฟฟ้า จนะ 700 แมกกะวัตต์ จ.สงขลา จ่ายไฟฟ้าให้ อ.หาดใหญ่ ระโนด จ.สงขลา พัทลุง ส่วนโรงไฟฟ้ากระบี่มีกำลังการผลิต 340 แมกกะวัตต์ จ่ายให้ กระบี่ พังงา ภูเก็ต ตรัง ขณะที่ในภาวะปกติ ภาคใต้จะมีความต้องการใช้ 2,200 แมกกะวัตต์
ปัจจุบันจึงต้องพึ่งพาลมหายใจจาก กระแสไฟฟ้าภาคกลางลงไปยังภาคใต้ เมื่อเกิดปัญหาที่ อ.บางสะพาน ซึ่งเป็นฐานจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบภาคใต้ จึงทำให้ระบบล่มดังกล่าว
หยุดคิดและทบทวนสักนิด ว่าปัญาหาอยู่ที่ไหน และแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ร่วมกับรัฐบาลโดยกระทรวงพลังงานอย่างจริงจังและจริงใจ เพื่อก้าวเดินไปหอย่างมั่นคงในเรื่องพลังงาน จะเหมาะสม จะยุติที่ใด ก็ว่ากันมาระดมความคิดเห็นกันมา แต่ไม่ช่ยอมตกเป็นเครื่องของกลุ่มคนเพียงหยิบมือเดียว ที่มุ่งแต่จะเอาชนะคะคาน และมีผลประโยชน์แอบแฝง โดยอ้างสิทธิความชอบธรรมว่าเป็นเสียงส่วนใหญ่ของคนภาคใต้ ซึ่งจริงๆแล้วก็รู้กันอยู่ว่าไม่ใช่ และทุกครั้งกลุ่มคนเหล่านี้ ซึ่งผู้คนในสังคม และตัวเขาเองรู้จักกันในนาม เอ็นจีโอ ทั้งแท้และเทียม มักจะกระโดดเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์เคาะกะลา เพื่อสร้างคุณค่าต่อรองราคราให้ตัวเองมาโดยตลอด และปล่อยให้เจ้าของพื้นที่ รับชะตากรรมสูญเสียโอกาสในการพัฒนามาโดยตลอด
คนใต้ หมดเวลาและเลิก ปฏิเสธ โรงไฟฟ้า หากจะยืนหยัดบนลำแข้งและสร้างความมั่นคงให้กับบ้านตัวเอง
ปัจจุบันคนใต้อาจจะยังไม่ทราบข้อมูลที่แท้จริงว่า มีกำลังการผลิตไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ กล่าวคือ ผลิตได้เพียง 1,390 เมกกะวัตต์ จากระบบกระแสไฟฟ้าในภาคใต้ทั้งสิ้น 5 โรงงาน ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าขนอม มีกำลังการผลิต 410 แมกกะวัตต์จ่ายไฟไปยังพื้นที่นครศรีธรรมราช สุราษฏร์ธานี ชุมพร พัทลุง ตรัง โรงไฟฟ้าบางลาง จ.ยะลา กำลังการผลิต 40 เมกกะวัตต์ จ่ายในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ เขื่อนเชี่ยวหลาน สุราษฏร์ธานี 240 แมกกะวัตต์ จ่ายให้สุราษฏร์ธานี พังงา ภูเก็ต โรงไฟฟ้า จนะ 700 แมกกะวัตต์ จ.สงขลา จ่ายไฟฟ้าให้ อ.หาดใหญ่ ระโนด จ.สงขลา พัทลุง ส่วนโรงไฟฟ้ากระบี่มีกำลังการผลิต 340 แมกกะวัตต์ จ่ายให้ กระบี่ พังงา ภูเก็ต ตรัง ขณะที่ในภาวะปกติ ภาคใต้จะมีความต้องการใช้ 2,200 แมกกะวัตต์
ปัจจุบันจึงต้องพึ่งพาลมหายใจจาก กระแสไฟฟ้าภาคกลางลงไปยังภาคใต้ เมื่อเกิดปัญหาที่ อ.บางสะพาน ซึ่งเป็นฐานจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบภาคใต้ จึงทำให้ระบบล่มดังกล่าว
หยุดคิดและทบทวนสักนิด ว่าปัญาหาอยู่ที่ไหน และแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ร่วมกับรัฐบาลโดยกระทรวงพลังงานอย่างจริงจังและจริงใจ เพื่อก้าวเดินไปหอย่างมั่นคงในเรื่องพลังงาน จะเหมาะสม จะยุติที่ใด ก็ว่ากันมาระดมความคิดเห็นกันมา แต่ไม่ช่ยอมตกเป็นเครื่องของกลุ่มคนเพียงหยิบมือเดียว ที่มุ่งแต่จะเอาชนะคะคาน และมีผลประโยชน์แอบแฝง โดยอ้างสิทธิความชอบธรรมว่าเป็นเสียงส่วนใหญ่ของคนภาคใต้ ซึ่งจริงๆแล้วก็รู้กันอยู่ว่าไม่ใช่ และทุกครั้งกลุ่มคนเหล่านี้ ซึ่งผู้คนในสังคม และตัวเขาเองรู้จักกันในนาม เอ็นจีโอ ทั้งแท้และเทียม มักจะกระโดดเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์เคาะกะลา เพื่อสร้างคุณค่าต่อรองราคราให้ตัวเองมาโดยตลอด และปล่อยให้เจ้าของพื้นที่ รับชะตากรรมสูญเสียโอกาสในการพัฒนามาโดยตลอด