"ยกลอย" 12 เมตร โบสถ์อายุ 130 ปี"ทั้งหลัง" เพื่อบูรณะใหม่หลังเพลิงไหม้เสียหายหนัก

จากมติชนออนไลน์

โบสถ์"โพรโว ทาเบอร์นาเคิล"ใจกลางเมืองโพรโว รัฐยูทาห์ของสหรัฐฯ ซึ่งประสบความเสียหายอย่างหนักจากเหตุเพลิงไหม้เมื่อเดือนธันวาคม 2010 กำลังได้รับการฟื้นฟูด้วยวิธีใหม่ ที่ไม่มีใครคิดว่าจะทำได้

แทนที่จะถูกทุบทำลายอาคารทั้งหลัง ชาวเมืองกลับเลือกที่จะรักษาโครงสร้างอาคารภายนอกอายุกว่า 130 ปี ที่ยังไม่เสียหายไว้ โดยยกสิ่งก่อสร้างที่มีน้ำหนักราว 7 ล้านปอนด์ไว้อยู่บนโครงเหล็กค้ำทีมีความสูง 12 เมตร โดยที่อาคารยังคงตั้ง ณ จุดเดิม

นายแอนดี้ เคอร์บี้ ผู้จัดการโครงการเปิดเผยว่า ชาวเมืองต่างรู้สึกทึ่งที่ได้เห็นอาคารขนาดใหญ่เช่นนี้ลอยขึ้นเหนือพื้นดินได้ หลายคนกล่าวว่าดูเหมือนไม่น่าเป็นไปได้ ที่จะยกอาคารทั้งหลังแบบนี้ได้

ในการยกโบสถ์หลังนี้ วิศวกรได้ทำลายโครงสร้างภายในออกจนหมดและทำการค้ำยันกำแพงภายนอกด้วยอุปกรณ์โครงเหล็กค้ำยันพิเศษ ขณะที่ขุดดินข้างใต้พื้นโบสถ์ให้ลึกลงไป 12 เมตร โดยมีแผนการที่จะใช้พื้นที่ใต้ดินทำเป็นที่อาคารขนาด 2 ชั้น  เพื่อสร้างเป็นห้องประชุมและลานจอดรถ

แม้ว่าจะเคยมีการใช้วิธีเช่นนี้มาแล้วทั่วโลก แต่ไม่มีใครที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ทราบมาก่อนว่า เคยมีการใช้วิธีนี้กับอาคารอายุ 130 ปี นายเคอร์บี้กล่าวว่า ทีมงานรู้สึกว่านี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะปกป้องและรักษาอาคาร"ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย" ขณะที่มีการสร้างสิ่งก่อสร้างใหม่ไปพร้อมๆกัน

เขากล่าวว่า มีการใช้อุปกรณ์ตรวจจับสัญญาณเซ็นเซอร์ตรวจเพื่อจับแรงเค้นของโครงสร้างอาคารทุกวัน เพื่อที่จะสามารถสังเกตความเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา  ก่อนที่ปัญหาจะเกิดขึ้น

นอกจากนั้น ยังมีการเสริมความแข็งแรงของอิฐผนัง ทำให้อาคารมีความแข็งแรงและมั่นคงมากกว่าในสมัยที่สร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อปี 1898 และเมื่อโครงสร้างภายนอกมีความแข็งแรงแล้ว ทีมงานก็จะติดตั้งโครงเหล็กและทำการขุดพื้นดินรอบๆอาคาร ก่อนที่โครงสร้างทั้งหมดจะถูกยกเหนือพื้นดินราว 12 เมตร

โบสถ์ของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายของชาวคริสต์นิกายมอร์มอน สร้างขึ้นเมื่อช่วงปี ค.ศ.1883-1898 ด้วยเงิน 1 แสนดอลลาร์ ที่ผ่านมาศาสนสถานแห่งนี้ถูกใช้เพื่อการประกอบพิธีทางศาสนา กิจกรรมของชุมชน และกิจกรรมทางวัฒนธรรม ก่อนที่จะถูกได้ถูกไฟไหม้เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2010 เนื่องจากช่างไฟฟ้าได้นำหลอดไฟ 300 วัตต์ไปติดตั้งบนตู้ลำโพงไม้ในห้องใต้หลังคา แล้วเกิดไฟช็อต และเพลิงไหม้ ก่อให้เกิดความเสียหายคิดเป็นมูลค่า 15 ล้านดอลลาร์

หลายฝ่ายมองว่าการบูรณะอาคารหลังนี้จะช่วยฟื้นฟูให้ย่านใจกลางเมืองโพรโวกลับมาคึกคักขึ้นอีกครั้ง นายนาธาน เมอร์เรย์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาเศรษฐกิจของเมือง กล่าวว่า โครงการบูรณะโบสถ์ช่วยสร้างความกระตือรือร้นให้แก่ชาวเมือง และได้รับความสนใจอย่างมากทั้งจากนักพัฒนาและภาคธุรกิจการค้าที่ต้องการมีส่วนร่วม แม้ต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูงในการฟื้นฟู แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าในการอนุรักษ์ประวัติศาสตร์ของเมืองโพรโว ทั้งนี้ คาดว่าโครงการนี้จะแล้วเสร็จในปี 2015
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่