ชื่อเรื่อง สตาร์ เทร็ค ทะยานสู่ห้วงมืด
เข้าฉายในไทย 16 พฤษภาคม 2556 (พากย์ไทย)
ความยาว 118 นาที ( ฉาย 21.30 จบ 23.28 ผมจับเวลาเอง อาจมีคลาดเคลื่อน)
เนื่องจากว่าผมชอบดูพากย์ไทยมากกว่า (ซับไทยก็ดูได้เพราะไม่มีปัญหาเรื่องภาษาอังกฤษ แต่ขี้เกียจอ่านซับ) ก็เลยจองตั๋วรอบ 21.30 น. พากย์ไทย (2D ธรรมดา) และสามารถลากเพื่อนที่ไม่เคยดูหนังสตาร์ เทร็คเลยซักภาคไปดูด้วยได้ถึง 4 คน 5555 สงสารเค้าอยู่เหมือนกัน คงจะงงและสับสนเล็กน้อย ต่อไปจะเป็นความเห็นหลังจากดูเรื่องนี้ของแอดมินนะครับ
ตัวภาพยนตร์ : ฉาก ภาพ และเฉดสีสวยมาก (ขนาดดู 2D ยังรู้เลยว่าฉากไหนคือฉากไอแม็กซ์ เพราะภาพมันคมกว่าปกติ) สเกลหนังดูดีและดูใหญ่กว่าภาคที่แล้ว งานด้านวิชวล เอฟเฟ็ค ดูพัฒนาและเจ๋งกว่าภาคแรก บทภาพยนตร์มีครบทุกอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นแอ็คชั่น ดราม่า และคอมเมดี้ ส่วนใหญ่จะเป็นบทพูดซะมากกว่าที่ทำให้คนขำเหมือนกับภาคที่แล้ว เพื่อนผมมันฮากันใหญ่ แอ็คชั่นดูดีมาก ลุ้นกันแบบตัวโก่งกันเลยทีเดียวกับแอ็คชั่นแต่ละฉากที่มีมา ถือว่ามันส์ในระดับ 4/5 พอจะถึงฉากดราม่า ซึ่งมีเยอะมาก เยอะจริงๆ น้ำตาลูกผู้ชายในเรื่องนี่ไหลยังก่ะเปิดก๊อกน้ำเลย กับฉากดราม่าฉากนั้นที่หนักสุดในเรื่องผมดูอยู่จะร้องไห้ตามแต่ต้องกลั้นร้องเพราะอายคนในโรงและเพื่อนๆ 55555 สไตล์การกำกับของ เจเจ มารูปแบบเดิมเป๊ะ แสงไฟวูบวาบ กับกล้องสั่นๆเหมือนไม่มีขาตั้ง มันดูเป็นเสน่ห์ชวนหลงใหลยิ่งนัก เสียดายจัง ถ้ามีภาคหน้าต้องเปลี่ยนผู้กำกับแล้ว (ถ้าโนแลนมานี่ เงิบ!!)

ตัวละคร : กัปตันเคริก พระเอกของเรื่อง การแสดงของคริส ไพน์ ถือว่าอยู่ในระดับเดิมกับภาคที่แล้ว คือ รักษาภาพของกัปตันเวอร์ชั่นนี้ได้ดี พี่โต้ในบทสป็อค การแสดงเหมือนกัปตัน รักษาระดับไว้ได้ดีและใช้ภาษาที่เป็นตรรกะและเป็นทางการมากอันเป็นเสน่ห์ของตัวละครเหมือนเดิมเป๊ะ และเปิดตัวในภาคนี้แล้วว่าเป็นแฟนกันกับสาวอูฮูร่า แต่ผมไม่ยักก่ะรับรู้ถึงความรู้สึกอันผูกผันของทั้งคู่เลย ทะว่าก็แอบมีความน่ารักอยู่บ้างในฉากที่ทั้งคู่ทะเลาะกัน 55555 (มีแต่ไปพลอดรักกันกับกัปตันตลอด จนเพื่อนข้างๆมันถามว่า นี่เคิร์กก่ะสป๊อคเขารักกันใช่ป่ะ สงสารผู้หญิงจัง ^0^) หมอแม็คคอย คนนี้ผมงอนเจเจมาก บทลดน้อยลง แทบจะไม่เด่นเลย T^T ได้แค่ไปแกะตอร์ปิโด แค่เนี้ย?! ไม่ยอมๆ เขาอุตส่าห์เป็นเพื่อนรักกัปตันนะ ฮือๆๆ ซูลูกับเชคอฟยิ่งไปกันใหญ่ ออกมาแค่คนล่ะ 3-4 ฉากเองมั้ง เฮ้อ คิดถึงภาคแรกขึ้นมาตะหงิดๆ นางเอก ดร.แครรอล ก็มาเสริมตัวละครให้เยอะขึ้นเฉยๆ ไม่ได้โดดเด้งดึ๋งดั๋งเท่าไหร่ มีฉากให้จดจำแค่ “หันหลังไปสิ” ซึ้งฮาครื้นนนกันทั้งโรง สก็อตตี้ มาแค่ฉากตอนต้นและได้เล่นเยอะหน่อยในฉากท้ายๆใกล้จบ ถือว่าบทเยอะขึ้นนะผมว่า และสามารถเรียกรอยยิ้มกับเสียงหัวเราะได้ดีเลยคนนี้ และคนสุดท้าย พี่เบน เงิบบบบบบ! มิน่าละ คนเค้าถึงได้ชอบแกนัก ผมยอมรับว่าไม่รู้จักพี่แกมาก่อน แต่รู้ว่าแกดังมากๆจากซีรี่ย์เชอร์ล็อค ใช่ป่ะ?! รัศมีความเด่นและความหล่อของแกกลบทุกคนในเรื่องซะเกลี้ยงเลย ขนาดเพื่อนผมมันบอก ชอบข่านอ่ะ หล่ออ่ะ ไอ้เราก็ไม่กล้าเถียงในทันใด เพราะหลักฐานมันปรากฏอยู่หน้าจอทนโท่ 555555 การแสดงของพี่แกน่าประทับใจ ทำให้คนดูงงเลย ตกลงมันจะมาดูหรือร้ายว่ะเนี่ย ผมก็เริ่มสับสน พี่จะเอายังไงแน่ห๊ะ จนตอนท้ายนั่นแหละ (ภาคนี้ขายพี่เบน)


*******สปอยนะครับ ยังไม่ได้ดูห้ามอ่านนะ ********
ลองคิดดูนะครับ ถ้าพี่แกสามารถปลุกเพื่อนๆขึ้นมาแล้วทำการกำจัดสิ่งมีชีวิตที่ด้อยกว่ากลุ่มพี่แก มันก็ตายเรียบกันทั้งจักรวาลล่ะ ขนาดพี่แกคนเดียวก็เป็นยอดมนุษย์เก่งและเมพซะขนาดนั้นๆ (แต่ถึงเมพยังไงก็โดน สามี – ภรรยา อุ๊บส์! สป็อคกับอูฮูร่ากระทืบแล้วแพ้ยับเยินอยู่ดี อิอิ)

สรุปนะครับ เป็นภาพยนตร์ภาคต่อที่สามารถรักษามาตรฐานได้ดี และใส่ความเป็นดราม่าพอสมควร ซึ่งภาคก่อนก็มีนะ แต่ไม่เยอะเท่าภาคนี้ ทีแรกผมนึกว่ามันจะดาร์กกว่านี้ครับ แต่มันไม่ใช่อ่ะ ก็ดีใจครับ กลัวว่ามันจะดาร์กเหมือนชื่อเรื่องเกินไป แต่พอดูจบ โอเคอ่ะ เพื่อนๆที่ไปดูด้วยกันบอกว่า สนุกดี (เป็นธุระผมต้องหาภาคที่แล้วให้พวกมันดูและอธิบายตามอีกแล้ว) นี่แหละครับ ฝีมือระดับเจเจ คงไม่ต้องสาธยายมากไปกว่านี้แล้ว ห้ามพลาดนะครับทุกคน  


8/10  เกรด A


Thanks For Reading . . .

Please Follow Us : www.facebook.com/chrispinethailand