ขอ 10 ท่านที่ตั้งใจจะสวดค่ะ พรุ่งนี้จะส่งไปรษณีย์ไปให้ค่ะ
เพิ่ม: ปกติไม่ได้อยู่ไทย วันนี้ (21 พ.ค.) ช่วง 11 โมง เราจะไปส่งไปรษณีย์ให้นะคะ
หลังจากนี้จะไม่สะดวกส่งค่ะ สำหรับท่านที่สนใจ มีวางที่บ้านซอยสายลม, วัดท่าซุง จ.อุทัย
ขอบคุณค่ะ
ก่อนหน้า ไม่มีเป็นเล่มๆ ก็ใช้แบบprintบทสวดมนต์จากในเนต จะสวดทุกวันพระใหญ่
มีโอกาสเจอหนังสือสวดมนต์เป็นเล่มๆ เลยร่วมพิมพ์แจกกับเพื่อนๆ
มีส่วนนึงยังเหลืออยุ่ เลยอยากแจกให้เพื่อนๆในพันทิปค่ะ
ประวัติคัมภีร์อุปปาตะสันติ
อุปปาตะสันติ ทางเมืองเหนือเรียกว่า มหาสันติงหลวง แปลว่า บทสวดเพื่อสงบเคราะห์กรรม สวดเพื่อสงบเหตุร้าย และสวดเพื่อสงบสิ่งที่กระทบกระเทือน
คัมภีร์อุปปาตะสันติ เป็นวรรณกรรมภาษาบาลีของล้านนาไทย แต่งโดยพระมหามังคละสีละวังสะ พระเถระนักปราชญ์ของชาวเชียงใหม่รูปหนึ่ง ในสมัยของพระเจ้าสิริธรรมจักกวัตติลกราชาธิราช หรือพระเจ้าติโลกราช รัชกาลที่ ๑๑ แห่งราชวงศ์มังราย ซึ่งครองราชสมบัติตั้งแต่ปี พ.ศ. ๑๙๘๕ – ๒๐๓๐ เป็นพระคาถาล้วนจำนวน ๒๗๑ คาถา จัดเข้าในหนังสือประเภทเชียงใหม่คันถะ คัมภีร์นี้เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายในหมู่ชนชาวล้านนามาแต่โบราณกาล ทั้งพระสงฆ์ สามเณร และชาวบ้าน พากันสวดและฟังอุปปาตะสันติเพื่อกลับความร้ายให้กลายเป็นความดี
มีคำเล่าว่าสมัยที่ท่านแต่งอุปปาตะสันตินั้น ที่เชียงใหม่มีโจรผู้ร้ายและคนอันธพาลชุกชุมผิดปกติ มีเหตุร้ายและสิ่งกระทบกระเทือนอยู่เสมอ พระมหาเถระสีละวังสะ จึงให้พระสงฆ์สามเณร และประชาชน พากันสวด และฟังอุปปาตะสันติ เพื่อสงบเหตุร้ายทั้งมวลที่เกิดขึ้นในเมือง
ต่อมา ชาวพม่ามีความเลื่อมใส นำคัมภีร์นี้เข้าไปในประเทศพม่า ชาวพม่าทั้งพระสงฆ์และประชาชน นับถือพระคัมภีร์อุปปาตะสันติว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาก พากันนิยมท่อง นิยมสวด และนิยมฟังกันอย่างกว้างขวาง แพร่หลายไปทั่วประเทศพม่า ในสมัย ๕๐๐ ปีที่ล่วงแล้ว ในงานพิธีสืบชะตา งานขึ้นบ้านใหม่ เป็นต้น
อุปปาตะสันติคาถานั้นมีเนื้อความเป็นไปเพื่อยังความสงบอันยิ่งใหญ่ให้เกิดขึ้น เพื่อสงบเหตุร้ายทั้งปวง เพื่อป้องกันอมนุษย์และยักษ์ทั้งหลาย เป็นคาถาที่ทำให้พ้นจากความตายก่อนกำหนดเวลา เป็นคาถาที่เป็นเครื่องย่ำยีกำลังของข้าศึก สามารถจำเริญชัยชนะแก่พระราชา และนำสิ่งที่ไม่น่าปรารถนาทั้งปวงให้หมดไป
อุปปาตะสันติคาถาเป็นบทสวดอย่างพิสดาร ท่านจึงกล่าวพระนามของพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์ไว้อย่างครบถ้วน ทั้งที่มีมาในอดีต ในปัจจุบัน และจักมีมาในอนาคต รวมตลอดไปจนถึงท่านที่ทรงคุณ ทรงอำนาจ ทรงฤทธิ์ ในทางที่ดีอื่น ๆ เช่น เทวดา อินทร์ พรหม ยักษ์ นาค คนธรรพ์ ครุฑ และอสูร เป็นต้น เพื่อขอความเป็นมงคล ความสงบ ความสวัสดี ความไม่มีโรค ชัยชนะ และอายุ รวมทั้งขอให้ท่านคุ้มครองให้พ้นจากเหตุเภทภัยนานัปการ อันจะบังเกิดขึ้นในกาลทุกเมื่อ
คัมภีร์อุปปาตะสันติเป็นคัมภีร์ของไทย แต่ต้นฉบับได้จากเมืองไทยไปอยู่เมืองพม่าเสียนาน จนแทบกล่าวได้ว่าคนไทยสมัยหลัง ๆ นี้ ไม่มีใครรู้จัก ไม่เคยได้ยินแม้แต่ชื่อคัมภีร์นี้
แต่บัดนี้ เป็นที่โสมนัสยินดียิ่งที่เจ้าคุณธรรมคุณาภรณ์ นามเดิม เช้า ฐีตะปัญโญ ป.ธ. ๙ วัดมหาโพธาราม ปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ ท่านได้ชำระคัมภีร์นี้เป็นภาษาบาลีอักษรไทย เพื่อความสะดวกแก่ผู้อ่านท่ไม่สันทัดภาษาบาลี โดยได้ต้นฉบับภาษาบาลีอักษรพม่าจากท่านพระอาจารย์ภัททันตะธัมมานันท มหาเถระอัครมหาบัณฑิตแห่งวัดท่ามะโอ จังหวัดลำปาง
ต่อมาเจ้าคุณพระราชญาณปรีชา เจ้าคณะเขตดุสิต และคณะสงฆ์วัดราชผาติการาม กรุงเทพมหานคร ได้นำบทสวดอุปปาตะสันติคาถา สวดถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช เนื่องในวโรกาสฉลองกาญจนาภิเษกเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๙ ซึ่งตรงกับวันกองทัพไทย ณ เสนาสนะวัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ และได้เดินทางไปสวดถวายในจังหวัดต่าง ๆ อีกจนครบทุกภาคทั่วประเทศ
อานุภาพของอุปปาตะสันติ
ผู้ใดสวดหรือฟังอุปปาตะสันติ อันกล่าวแล้วด้วยประการฉะนี้ บุคคลนั้นจะพึงชนะจากสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง จะเจริญด้วยคุณ ๕ ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ และปฏิภาณ ความวิบัติย่อมไม่มาแผ้วพาน ย่อมได้รับความอิ่มใจในกาลทุกเมื่อ ยาพิษและศาสตราวุธย่อมไม่มากล้ำกราย ย่อมชนะข้าศึกทั้งมวล โรคาพยาธิย่อมไม่เบียดเบียน ย่อมเจริญด้วยทรัพย์ศฤงคาร ภัยจากมนุษย์ อมนุษย์ และสัตว์ร้ายน้อยใหญ่ย่อมสงบไปด้วยเสียงแห่งการสวดอุปปาตะสันติ
ผู้ที่สวดอุปปาตะสันติแล้วอุทิศให้ผู้ที่ล่วงลับไปก็ดี ที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ดี จะช่วยให้เขาเหล่านั้นพ้นจากมหันตทุกข์ ย่อมเข้าถึงสุขในกาลทุกเมื่อ ทวยเทพเทวดาทั้งหลาย ท้าวพระยามหากษัตริย์ทั้งหลาย จักเป็นผู้เจริญด้วยเดชและสิริมงคล ด้วยกฤตยานุภาพแห่งพระคาถาอุปปาตะสันติ
เหตุร้ายอันเกิดจากภัยธรรมชาติมีแผ่นดินไหวและน้ำท่วมเป็นต้น เหตุร้ายอันเกิดจากฟากฟ้า เหตุร้ายอันเกิดจากสุริยุปราคา จันทรุปราคา เหตุร้ายอันเกิดจากบาปกรรม เหตุร้ายทั้งปวงจักพินาศไปด้วยเดชแห่งอุปปาตะสันติ
http://kaskaew.com/index.asp?catid=5&contentID=10000004&getarticle=164&title=%BA%B7%CA%C7%B4%A4%D2%B6%D2%CD%D8%BB%BB%D2%B5%D0%CA%D1%B9%B5%D4(%C1%CB%D2%CA%D1%B9%B5%D4%A7%CB%C5%C7%A7)
http://th.wikisource.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%9B%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B4
แจกฟรีหนังสือสวดมนต์อุปปาตะสันติ (มหาสันติงหลวง)
เพิ่ม: ปกติไม่ได้อยู่ไทย วันนี้ (21 พ.ค.) ช่วง 11 โมง เราจะไปส่งไปรษณีย์ให้นะคะ
หลังจากนี้จะไม่สะดวกส่งค่ะ สำหรับท่านที่สนใจ มีวางที่บ้านซอยสายลม, วัดท่าซุง จ.อุทัย
ขอบคุณค่ะ
ก่อนหน้า ไม่มีเป็นเล่มๆ ก็ใช้แบบprintบทสวดมนต์จากในเนต จะสวดทุกวันพระใหญ่
มีโอกาสเจอหนังสือสวดมนต์เป็นเล่มๆ เลยร่วมพิมพ์แจกกับเพื่อนๆ
มีส่วนนึงยังเหลืออยุ่ เลยอยากแจกให้เพื่อนๆในพันทิปค่ะ
ประวัติคัมภีร์อุปปาตะสันติ
อุปปาตะสันติ ทางเมืองเหนือเรียกว่า มหาสันติงหลวง แปลว่า บทสวดเพื่อสงบเคราะห์กรรม สวดเพื่อสงบเหตุร้าย และสวดเพื่อสงบสิ่งที่กระทบกระเทือน
คัมภีร์อุปปาตะสันติ เป็นวรรณกรรมภาษาบาลีของล้านนาไทย แต่งโดยพระมหามังคละสีละวังสะ พระเถระนักปราชญ์ของชาวเชียงใหม่รูปหนึ่ง ในสมัยของพระเจ้าสิริธรรมจักกวัตติลกราชาธิราช หรือพระเจ้าติโลกราช รัชกาลที่ ๑๑ แห่งราชวงศ์มังราย ซึ่งครองราชสมบัติตั้งแต่ปี พ.ศ. ๑๙๘๕ – ๒๐๓๐ เป็นพระคาถาล้วนจำนวน ๒๗๑ คาถา จัดเข้าในหนังสือประเภทเชียงใหม่คันถะ คัมภีร์นี้เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายในหมู่ชนชาวล้านนามาแต่โบราณกาล ทั้งพระสงฆ์ สามเณร และชาวบ้าน พากันสวดและฟังอุปปาตะสันติเพื่อกลับความร้ายให้กลายเป็นความดี
มีคำเล่าว่าสมัยที่ท่านแต่งอุปปาตะสันตินั้น ที่เชียงใหม่มีโจรผู้ร้ายและคนอันธพาลชุกชุมผิดปกติ มีเหตุร้ายและสิ่งกระทบกระเทือนอยู่เสมอ พระมหาเถระสีละวังสะ จึงให้พระสงฆ์สามเณร และประชาชน พากันสวด และฟังอุปปาตะสันติ เพื่อสงบเหตุร้ายทั้งมวลที่เกิดขึ้นในเมือง
ต่อมา ชาวพม่ามีความเลื่อมใส นำคัมภีร์นี้เข้าไปในประเทศพม่า ชาวพม่าทั้งพระสงฆ์และประชาชน นับถือพระคัมภีร์อุปปาตะสันติว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาก พากันนิยมท่อง นิยมสวด และนิยมฟังกันอย่างกว้างขวาง แพร่หลายไปทั่วประเทศพม่า ในสมัย ๕๐๐ ปีที่ล่วงแล้ว ในงานพิธีสืบชะตา งานขึ้นบ้านใหม่ เป็นต้น
อุปปาตะสันติคาถานั้นมีเนื้อความเป็นไปเพื่อยังความสงบอันยิ่งใหญ่ให้เกิดขึ้น เพื่อสงบเหตุร้ายทั้งปวง เพื่อป้องกันอมนุษย์และยักษ์ทั้งหลาย เป็นคาถาที่ทำให้พ้นจากความตายก่อนกำหนดเวลา เป็นคาถาที่เป็นเครื่องย่ำยีกำลังของข้าศึก สามารถจำเริญชัยชนะแก่พระราชา และนำสิ่งที่ไม่น่าปรารถนาทั้งปวงให้หมดไป
อุปปาตะสันติคาถาเป็นบทสวดอย่างพิสดาร ท่านจึงกล่าวพระนามของพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์ไว้อย่างครบถ้วน ทั้งที่มีมาในอดีต ในปัจจุบัน และจักมีมาในอนาคต รวมตลอดไปจนถึงท่านที่ทรงคุณ ทรงอำนาจ ทรงฤทธิ์ ในทางที่ดีอื่น ๆ เช่น เทวดา อินทร์ พรหม ยักษ์ นาค คนธรรพ์ ครุฑ และอสูร เป็นต้น เพื่อขอความเป็นมงคล ความสงบ ความสวัสดี ความไม่มีโรค ชัยชนะ และอายุ รวมทั้งขอให้ท่านคุ้มครองให้พ้นจากเหตุเภทภัยนานัปการ อันจะบังเกิดขึ้นในกาลทุกเมื่อ
คัมภีร์อุปปาตะสันติเป็นคัมภีร์ของไทย แต่ต้นฉบับได้จากเมืองไทยไปอยู่เมืองพม่าเสียนาน จนแทบกล่าวได้ว่าคนไทยสมัยหลัง ๆ นี้ ไม่มีใครรู้จัก ไม่เคยได้ยินแม้แต่ชื่อคัมภีร์นี้
แต่บัดนี้ เป็นที่โสมนัสยินดียิ่งที่เจ้าคุณธรรมคุณาภรณ์ นามเดิม เช้า ฐีตะปัญโญ ป.ธ. ๙ วัดมหาโพธาราม ปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ ท่านได้ชำระคัมภีร์นี้เป็นภาษาบาลีอักษรไทย เพื่อความสะดวกแก่ผู้อ่านท่ไม่สันทัดภาษาบาลี โดยได้ต้นฉบับภาษาบาลีอักษรพม่าจากท่านพระอาจารย์ภัททันตะธัมมานันท มหาเถระอัครมหาบัณฑิตแห่งวัดท่ามะโอ จังหวัดลำปาง
ต่อมาเจ้าคุณพระราชญาณปรีชา เจ้าคณะเขตดุสิต และคณะสงฆ์วัดราชผาติการาม กรุงเทพมหานคร ได้นำบทสวดอุปปาตะสันติคาถา สวดถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช เนื่องในวโรกาสฉลองกาญจนาภิเษกเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๙ ซึ่งตรงกับวันกองทัพไทย ณ เสนาสนะวัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ และได้เดินทางไปสวดถวายในจังหวัดต่าง ๆ อีกจนครบทุกภาคทั่วประเทศ
อานุภาพของอุปปาตะสันติ
ผู้ใดสวดหรือฟังอุปปาตะสันติ อันกล่าวแล้วด้วยประการฉะนี้ บุคคลนั้นจะพึงชนะจากสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง จะเจริญด้วยคุณ ๕ ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ และปฏิภาณ ความวิบัติย่อมไม่มาแผ้วพาน ย่อมได้รับความอิ่มใจในกาลทุกเมื่อ ยาพิษและศาสตราวุธย่อมไม่มากล้ำกราย ย่อมชนะข้าศึกทั้งมวล โรคาพยาธิย่อมไม่เบียดเบียน ย่อมเจริญด้วยทรัพย์ศฤงคาร ภัยจากมนุษย์ อมนุษย์ และสัตว์ร้ายน้อยใหญ่ย่อมสงบไปด้วยเสียงแห่งการสวดอุปปาตะสันติ
ผู้ที่สวดอุปปาตะสันติแล้วอุทิศให้ผู้ที่ล่วงลับไปก็ดี ที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ดี จะช่วยให้เขาเหล่านั้นพ้นจากมหันตทุกข์ ย่อมเข้าถึงสุขในกาลทุกเมื่อ ทวยเทพเทวดาทั้งหลาย ท้าวพระยามหากษัตริย์ทั้งหลาย จักเป็นผู้เจริญด้วยเดชและสิริมงคล ด้วยกฤตยานุภาพแห่งพระคาถาอุปปาตะสันติ
เหตุร้ายอันเกิดจากภัยธรรมชาติมีแผ่นดินไหวและน้ำท่วมเป็นต้น เหตุร้ายอันเกิดจากฟากฟ้า เหตุร้ายอันเกิดจากสุริยุปราคา จันทรุปราคา เหตุร้ายอันเกิดจากบาปกรรม เหตุร้ายทั้งปวงจักพินาศไปด้วยเดชแห่งอุปปาตะสันติ
http://kaskaew.com/index.asp?catid=5&contentID=10000004&getarticle=164&title=%BA%B7%CA%C7%B4%A4%D2%B6%D2%CD%D8%BB%BB%D2%B5%D0%CA%D1%B9%B5%D4(%C1%CB%D2%CA%D1%B9%B5%D4%A7%CB%C5%C7%A7)
http://th.wikisource.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%9B%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B4