นาน....สักเพียงไหน
ตอนที่หนึ่ง
"แม่ ร้านเหล้ามาเปิดฝั่งตรงข้ามร้านเราล่ะ" แก้ว หญิงสาวร่างบางหันกลับไปคุยกับมารดาหลัง
จากปิดม่านหน้าต่างลงดังเดิม
มารดาเงยหน้ามองบุตรสาวพร้อมกับอมยิ้มรู้ทัน หญิงสาวคอยเฝ้ามองเสมอเมื่อมีความเปลี่ยนแปลง
จากตึกฝั่งตรงข้าม นั่นก็เพราะใครคนหนึ่ง
"ไม่เข้าใจเลย ป้าเอมให้เค้ามาเปิดร้านเหล้าได้ยังไง " หญิงสาวพูดต่อ ก่อนจะนั่งลงบนโซฟาสีครีม
ไม่เข้ากับร้านดอกไม้ของฉันเลยสักนิด หญิงสาวคิด น่าจะเป็นร้านหนังสือ...
"น่าจะเป็นร้านหนังสือ....."
เอ๊ะ นี่เธอคิดดังจนได้ยินเสียงตัวเองผ่านแก้วหูเลยเหรอ หญิงสาวหันไปมองหน้ามารดา
"เมื่อกี้หนูคิดดังไปหรือแม่พูดอ่ะ" หญิงสาวถาม
"แม่พูด" มารดาตอบโดยที่ไม่ได้หันมามอง ยังคงยุ่งอยู่กับการทำความสะอาดพื้น
"ใช่มั้ยๆ แม่ก็คิดเหมือนหนูแก้วใช่มั้ย" หญิงสาวกระโดดจากโซฟามาเกาะแขนมารดาเหมือนเด็ก
มารดามองด้วยความเอ็นดู แม้ว่าหญิงสาวจะอายุเลยเบญเพศมาแล้ว แต่ก็ไม่เคยโตเกินกว่าเด็กหญิงแก้ว
เลยในสายตาเธอ
"เปล่าเลย" เธอตอบ
"อ้าว ไมอ่ะ" หญิงสาวยังคงฉุดมารดาพร้อมกับโยกไปมา
"พอแล้วๆ อย่าดึงแม่สิหนูแก้ว เดี๋ยวข้าวของในร้านแตกหักกันพอดี" เธอแกล้งดุลูกสาว ก่อนจะพูดต่อ
"ก็ใครมาเปิดร้านอะไรที่ตึกนั้น หนูแก้วก็ต้องพูดว่าน่าจะเป็นร้านหนังสือทุกทีสิน่า คนอยากเปิดร้าน
หนังสือ ป่านนี้ไปไหนแล้วก็ไม่รู้"
"แม่อ่ะ" หญิงสาวปล่อยมือจากมารดากระโดดกลับขึ้นไปบนโซฟาตัวเดิม หลังจากที่มารดาพูดจี้ใจดำ
"นี่ก็หลายปีมาแล้วน้า จะเอาร้านหนังสือมาเป็นกำแพง คนใกล้ตัวอีกนานมั้ยน้า" มารดาพูดหยอก
แม้ไม่ได้เอ่ยชื่อหญิงสาวก็รู้ว่ามารดาหมายถึงณัฐ เพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ที่พักหลังมักจะแวะ
เวียนมาเยี่ยมเยียนอยู่บ่อยๆ
"ณัฐก็น่ารักน้า" มารดา พูด บุตรสาวเธอแม้จะไม่ตอบรับแต่ก็ไม่ถึงกับปฏิเสธน้ำใจของเพื่อนหนุ่ม
คนนี้
"ม่ายล่ะ" หญิงสาวพูดเสียงยานคาง "ตานี่เฉื่อย ความรู้สึกช้า" เธอพูดต่อ
"หืม แม่ไม่เห็นว่าจะเป็นอย่างนั้นนี่ ล่าสุดเห็นว่าได้เลื่อนขั้นเป็นผู้ช่วยผู้จัดการแล้วไม่ใช่เหรอ"
มารดาถาม
"ไม่ได้หมายถึงอย่างนั้น" หญิงสาวตอบ แววตาเจ้าเล่ห์
" เรียนมาด้วยกันตั้งสี่ปี ไม่เคยจีบหนูเลย กว่าจะรู้ว่าหนูแก้วสวยแล้วมาจีบก็จบมาจะสี่ปีแล้ว
แม่ว่าความรู้สึกช้ามั้ยล่ะ"
คราวนี้มารดาถึงกับหลุดขำกิ๊ก เออนะ ช่างกล้าลูกสาวฉัน น่าสงสารหนุ่มน้อยคนนั้นเสียจริง
"เดี๋ยวหนูแก้วจะแวะไปดูร้านเหล้าซะหน่อย ว่าจะไปได้สักกี่น้ำ จะไปยุป้าเอมให้บอกพี่เอกมาเปิด
ร้านหนังสือ" หญิงสาวพูดพร้อมกับลุกเดินไปเปิดม่านอีกครั้ง ใจนึกไปถึงชายหนุ่มที่เป็นทั้งพี่และ
เพือนเล่น ก่อนที่ชายหนุ่มจะไปเรียนต่อเมืองนอก แรกๆ ชายหนุ่มยังคงส่งอีเมล์ให้กับเธออย่าง
สม่ำเสมอ และค่อยๆห่างออกไป แม้แต่ในวันที่เธอรับปริญญาบัตรก็ไม่เห็นแม้เงาของเขา มีเพียงแต่
ดอกไม้ช่อใหญ่ที่ระบุว่าผู้สั่งอยู่ต่างประเทศส่งมาให้เธอ
ผับฝรั่ง เป็นชื่อที่ชาวบ้านและนักเที่ยวเรียกร้านขายเหล้าร้านนี้ แทนที่จะเป็น "เดลิซิโอ" ชื่อร้าน
เพราะเจ้าของเป็นฝรั่งรูปร่างสูงใหญ่กับหญิงสาวชาวไทย บรรยากาศในร้านค่อนข้างมืด จะมีแสง
อยู่บ้างก็เพียงทางเดินและเคาน์เตอร์
"เฮ้ ฮันนี่ คุณมีความสุขไหม" ปีเตอร์ หนุ่มอเมริกันโอบเอวภรรยาชาวไทยไว้หลวมๆ หญิงสาวเอน
ตัวพิงแผ่นอกกว้าง
"ค่ะ ฉันมีความสุข แต่เกรงใจคุณจัง ต้องอยู่แต่ในครัวตลอด ฉันสิทำอะไรก็ไม่เป็นนอกจากผสมเหล้า"
หญิงสาวที่ถูกเรียกเป็น ฮันนี่ ตอบ
"ก็ใครให้ผม เป็นพ่อครัวล่ะ" คนตัวใหญ่พูดพร้อมกับโยกตัวไปมา "แต่ถ้าไม่เป็นเพราะคุณติดใจในฝี
มือปรุงอาหารของผม ผมคงไม่มีโอกาสได้เจอคุณหรอก"
"ฉันไปดื่มเหล้าต่างหาก นั่นเป็นผับประจำของฉันกับเพื่อนนะ" หญิงสาวนึกถึงร้านขายเหล้าที่มี
บรรยากาศคล้ายคลึงกับที่นี่ ซึ่งเธอกับกลุ่มเพื่อนที่ทำงานได้กลายเป็นขาประจำเพราะอยู่ใกล้ที
ทำงาน และที่พักจึงเป็นสถานที่ที่เหมากับการแฮงค์เอาท์ของเธอ หลังจากที่เธอจบจากมหาวิทยาลัย
เธอตัดสินใจที่จะทำงานต่อที่อเมริกาจนกระทั่งแต่งงานแล้วจึงกลับมาที่เมืองไทย
"ไหนคุณบอกว่ามีน้องสาวอีกคนนะ ไม่แนะนำให้ผมรู้จักเหรอ อยากรู้ว่าจะสวยเหมือนคุณไหม"
"แน่ะ" หญิงสาวหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้าพร้อมกับทุบไปที่อกกว้าง
"ห้ามเลยนะ คนนี้หวง" ไม่พูดเปล่าหญิงสาวยังจ้องตาคนตัวโตพร้อมกับทำหน้าดุ
คนตัวโตได้แต่หัวเราะชอบใจที่ยั่วหญิงสาวสำเร็จ
"รู้แล้ว รู้แล้ว ผมล้อเล่นน่า มีคนเดียวก็แย่แล้ว" ปีเตอร์ นึกไปถึงช่วงเวลาที่ยากลำบาก กว่าที่ครอบครัว
ของทั้งเขา และเธอ จะยอมรับในความรักของทั้งคู่และยอมให้มีการแต่งงาน
"ขอโทษนะ" หญิงสาวรำพึงเบาๆ รู้สึกได้ถึงวงแขนที่กอดรัดแน่นขึ้น รู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นข้างหู
"ไม่มีอะไรต้องขอโทษหรอก ไอริณ ผมเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลกนะ ที่ได้รู้จักและรักคุณน่ะ "
หญิงสาวอมยิ้ม ก่อนจะผลักอกกว้างนั้นออก และเงยหน้าจูบคางของอีกฝ่ายเบาๆ
"เข้าครัวได้แล้วค่ะ ลูกค้าจะมาแล้ว" เธอบอกพร้อมกับชี้ไปยังนาฬิกาข้อมือ ในขณะที่อีกฝ่ายทำหน้ามุ่ย
"เฮ่อ อย่าลืมเอาออเดอร์ไปให้ในครัวบ่อยๆนะฮันนี่" ปีเตอร์คลายวงแขนก่อนจะเอามือล้วงกระเป๋า
ผ้ากันเปื้อนด้วยความเคยชิน
"ไปได้แล้ว" หญิงสาวรุนหลังอีกฝ่ายเข้าไปในครัวจนได้
นาน.....สักเพียงไหน
ตอนที่หนึ่ง
"แม่ ร้านเหล้ามาเปิดฝั่งตรงข้ามร้านเราล่ะ" แก้ว หญิงสาวร่างบางหันกลับไปคุยกับมารดาหลัง
จากปิดม่านหน้าต่างลงดังเดิม
มารดาเงยหน้ามองบุตรสาวพร้อมกับอมยิ้มรู้ทัน หญิงสาวคอยเฝ้ามองเสมอเมื่อมีความเปลี่ยนแปลง
จากตึกฝั่งตรงข้าม นั่นก็เพราะใครคนหนึ่ง
"ไม่เข้าใจเลย ป้าเอมให้เค้ามาเปิดร้านเหล้าได้ยังไง " หญิงสาวพูดต่อ ก่อนจะนั่งลงบนโซฟาสีครีม
ไม่เข้ากับร้านดอกไม้ของฉันเลยสักนิด หญิงสาวคิด น่าจะเป็นร้านหนังสือ...
"น่าจะเป็นร้านหนังสือ....."
เอ๊ะ นี่เธอคิดดังจนได้ยินเสียงตัวเองผ่านแก้วหูเลยเหรอ หญิงสาวหันไปมองหน้ามารดา
"เมื่อกี้หนูคิดดังไปหรือแม่พูดอ่ะ" หญิงสาวถาม
"แม่พูด" มารดาตอบโดยที่ไม่ได้หันมามอง ยังคงยุ่งอยู่กับการทำความสะอาดพื้น
"ใช่มั้ยๆ แม่ก็คิดเหมือนหนูแก้วใช่มั้ย" หญิงสาวกระโดดจากโซฟามาเกาะแขนมารดาเหมือนเด็ก
มารดามองด้วยความเอ็นดู แม้ว่าหญิงสาวจะอายุเลยเบญเพศมาแล้ว แต่ก็ไม่เคยโตเกินกว่าเด็กหญิงแก้ว
เลยในสายตาเธอ
"เปล่าเลย" เธอตอบ
"อ้าว ไมอ่ะ" หญิงสาวยังคงฉุดมารดาพร้อมกับโยกไปมา
"พอแล้วๆ อย่าดึงแม่สิหนูแก้ว เดี๋ยวข้าวของในร้านแตกหักกันพอดี" เธอแกล้งดุลูกสาว ก่อนจะพูดต่อ
"ก็ใครมาเปิดร้านอะไรที่ตึกนั้น หนูแก้วก็ต้องพูดว่าน่าจะเป็นร้านหนังสือทุกทีสิน่า คนอยากเปิดร้าน
หนังสือ ป่านนี้ไปไหนแล้วก็ไม่รู้"
"แม่อ่ะ" หญิงสาวปล่อยมือจากมารดากระโดดกลับขึ้นไปบนโซฟาตัวเดิม หลังจากที่มารดาพูดจี้ใจดำ
"นี่ก็หลายปีมาแล้วน้า จะเอาร้านหนังสือมาเป็นกำแพง คนใกล้ตัวอีกนานมั้ยน้า" มารดาพูดหยอก
แม้ไม่ได้เอ่ยชื่อหญิงสาวก็รู้ว่ามารดาหมายถึงณัฐ เพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ที่พักหลังมักจะแวะ
เวียนมาเยี่ยมเยียนอยู่บ่อยๆ
"ณัฐก็น่ารักน้า" มารดา พูด บุตรสาวเธอแม้จะไม่ตอบรับแต่ก็ไม่ถึงกับปฏิเสธน้ำใจของเพื่อนหนุ่ม
คนนี้
"ม่ายล่ะ" หญิงสาวพูดเสียงยานคาง "ตานี่เฉื่อย ความรู้สึกช้า" เธอพูดต่อ
"หืม แม่ไม่เห็นว่าจะเป็นอย่างนั้นนี่ ล่าสุดเห็นว่าได้เลื่อนขั้นเป็นผู้ช่วยผู้จัดการแล้วไม่ใช่เหรอ"
มารดาถาม
"ไม่ได้หมายถึงอย่างนั้น" หญิงสาวตอบ แววตาเจ้าเล่ห์
" เรียนมาด้วยกันตั้งสี่ปี ไม่เคยจีบหนูเลย กว่าจะรู้ว่าหนูแก้วสวยแล้วมาจีบก็จบมาจะสี่ปีแล้ว
แม่ว่าความรู้สึกช้ามั้ยล่ะ"
คราวนี้มารดาถึงกับหลุดขำกิ๊ก เออนะ ช่างกล้าลูกสาวฉัน น่าสงสารหนุ่มน้อยคนนั้นเสียจริง
"เดี๋ยวหนูแก้วจะแวะไปดูร้านเหล้าซะหน่อย ว่าจะไปได้สักกี่น้ำ จะไปยุป้าเอมให้บอกพี่เอกมาเปิด
ร้านหนังสือ" หญิงสาวพูดพร้อมกับลุกเดินไปเปิดม่านอีกครั้ง ใจนึกไปถึงชายหนุ่มที่เป็นทั้งพี่และ
เพือนเล่น ก่อนที่ชายหนุ่มจะไปเรียนต่อเมืองนอก แรกๆ ชายหนุ่มยังคงส่งอีเมล์ให้กับเธออย่าง
สม่ำเสมอ และค่อยๆห่างออกไป แม้แต่ในวันที่เธอรับปริญญาบัตรก็ไม่เห็นแม้เงาของเขา มีเพียงแต่
ดอกไม้ช่อใหญ่ที่ระบุว่าผู้สั่งอยู่ต่างประเทศส่งมาให้เธอ
ผับฝรั่ง เป็นชื่อที่ชาวบ้านและนักเที่ยวเรียกร้านขายเหล้าร้านนี้ แทนที่จะเป็น "เดลิซิโอ" ชื่อร้าน
เพราะเจ้าของเป็นฝรั่งรูปร่างสูงใหญ่กับหญิงสาวชาวไทย บรรยากาศในร้านค่อนข้างมืด จะมีแสง
อยู่บ้างก็เพียงทางเดินและเคาน์เตอร์
"เฮ้ ฮันนี่ คุณมีความสุขไหม" ปีเตอร์ หนุ่มอเมริกันโอบเอวภรรยาชาวไทยไว้หลวมๆ หญิงสาวเอน
ตัวพิงแผ่นอกกว้าง
"ค่ะ ฉันมีความสุข แต่เกรงใจคุณจัง ต้องอยู่แต่ในครัวตลอด ฉันสิทำอะไรก็ไม่เป็นนอกจากผสมเหล้า"
หญิงสาวที่ถูกเรียกเป็น ฮันนี่ ตอบ
"ก็ใครให้ผม เป็นพ่อครัวล่ะ" คนตัวใหญ่พูดพร้อมกับโยกตัวไปมา "แต่ถ้าไม่เป็นเพราะคุณติดใจในฝี
มือปรุงอาหารของผม ผมคงไม่มีโอกาสได้เจอคุณหรอก"
"ฉันไปดื่มเหล้าต่างหาก นั่นเป็นผับประจำของฉันกับเพื่อนนะ" หญิงสาวนึกถึงร้านขายเหล้าที่มี
บรรยากาศคล้ายคลึงกับที่นี่ ซึ่งเธอกับกลุ่มเพื่อนที่ทำงานได้กลายเป็นขาประจำเพราะอยู่ใกล้ที
ทำงาน และที่พักจึงเป็นสถานที่ที่เหมากับการแฮงค์เอาท์ของเธอ หลังจากที่เธอจบจากมหาวิทยาลัย
เธอตัดสินใจที่จะทำงานต่อที่อเมริกาจนกระทั่งแต่งงานแล้วจึงกลับมาที่เมืองไทย
"ไหนคุณบอกว่ามีน้องสาวอีกคนนะ ไม่แนะนำให้ผมรู้จักเหรอ อยากรู้ว่าจะสวยเหมือนคุณไหม"
"แน่ะ" หญิงสาวหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้าพร้อมกับทุบไปที่อกกว้าง
"ห้ามเลยนะ คนนี้หวง" ไม่พูดเปล่าหญิงสาวยังจ้องตาคนตัวโตพร้อมกับทำหน้าดุ
คนตัวโตได้แต่หัวเราะชอบใจที่ยั่วหญิงสาวสำเร็จ
"รู้แล้ว รู้แล้ว ผมล้อเล่นน่า มีคนเดียวก็แย่แล้ว" ปีเตอร์ นึกไปถึงช่วงเวลาที่ยากลำบาก กว่าที่ครอบครัว
ของทั้งเขา และเธอ จะยอมรับในความรักของทั้งคู่และยอมให้มีการแต่งงาน
"ขอโทษนะ" หญิงสาวรำพึงเบาๆ รู้สึกได้ถึงวงแขนที่กอดรัดแน่นขึ้น รู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นข้างหู
"ไม่มีอะไรต้องขอโทษหรอก ไอริณ ผมเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลกนะ ที่ได้รู้จักและรักคุณน่ะ "
หญิงสาวอมยิ้ม ก่อนจะผลักอกกว้างนั้นออก และเงยหน้าจูบคางของอีกฝ่ายเบาๆ
"เข้าครัวได้แล้วค่ะ ลูกค้าจะมาแล้ว" เธอบอกพร้อมกับชี้ไปยังนาฬิกาข้อมือ ในขณะที่อีกฝ่ายทำหน้ามุ่ย
"เฮ่อ อย่าลืมเอาออเดอร์ไปให้ในครัวบ่อยๆนะฮันนี่" ปีเตอร์คลายวงแขนก่อนจะเอามือล้วงกระเป๋า
ผ้ากันเปื้อนด้วยความเคยชิน
"ไปได้แล้ว" หญิงสาวรุนหลังอีกฝ่ายเข้าไปในครัวจนได้