Edited 19 May 13: เพิ่มตัวอย่างของข้อสอบในแต่ละกิจกรรมเข้าไป เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้นครับ
Edited 22 May 13: เพิ่มรายละเอียดที่คิดว่าสำคัญ และปรับภาษาให้อ่านง่ายขึ้น

ได้เป็นกระทู้แนะนำด้วยแฮะ ขอบคุณครับ

เนื่องจากตอนก่อนสอบ ผมลอง search หาข้อมูลในเนตเกี่ยวกับการสอบเพื่อรับทุนกพ. ปรากฏว่าข้อมูลมีน้อยมาก และไม่ค่อยอัพเดท
วันนี้ (16 พค 56) ได้ไปสอบรอบประเมินความเหมาะสม (หลังผ่านข้อเขียนรอบแรกแล้ว) ก็เลยเอามาแชร์ให้เพื่อนๆ ที่จะสอบครั้งต่อๆไปได้ใช้เป็นแนวทางเตรียมตัวสอบครับ (ใครสงสัยอะไรถามได้นะ อันนี้ review สั้นๆ ผมไปอ่านหนังสือเตรียมสอบสัมภาษณ์วันเสาร์ก่อน แล้วเดี๋ยวมาตอบ)

การสอบในวันนี้  เป็นการสอบเพื่อประเมินความเหมาะสมทั่วไป  ก่อนจะสัมภาษณ์อีกทีวันอื่นครับ สอบหลายรอบเกิ๊น ...แต่ชอบนะ (อ่าว)
ที่สำคัญ กรรมการสัมภาษณ์จะเอา performance ที่ทำตอบในวันนี้ไปประกอบการพิจารณาในวันสัมภาษณ์ด้วย

เริ่มรายงานตัวเวลา 08.00 น. ที่ราชภัฎสวนดุสิต และตามธรรมเนียมของการ review ก็ควรมีภาพประกอบสักเล็กน้อย


ลงทะเบียนเสร็จ ก็หาที่นั่งกันตามสบาย แบ่งโซนนิ่งกว้างๆ เป็นกลุ่มทุนสำหรับคนที่จบปริญญาแล้ว กับกลุ่มทุนสำหรับนศ.ระดับปริญญาตรีที่ยังไม่จบ (ทุน UIS)
ส่วนภายในโซน ใครอยากนั่งกับใครก็นั่ง
มีเพื่อนผ่านข้อเขียนมาเหมือนกัน ก็นั่งกับเพื่อนได้นะ ที่นั่งติดกันแบบแขนชนแขน แถมคุยกันได้

หลังพิธีเปิดก็เริ่มด้วยการบรรยายพิเศษ จากข้าราชการคนนึง และอดีตนักเรียนทุน กพ. อีกคน (ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.)
เห็นจนท.บอกว่า ปีนี้เป็นปีแรก ที่มีการบรรยายพิเศษก่อนการสอบ... เอ่อ ขอบคุณนะครับ
ระหว่างการบรรยาย บางคนก็ไม่สนใจฟังนะ แต่จะบอกว่าอันนี้สำคัญ เพราะผมเจอถามตอนสอบสัมภาษณ์ในอีก 2 วันถัดมาด้วย
"ให้สรุปข้อคิดที่ได้จากการฟังบรรยายพิเศษเมื่อวันก่อนมาให้ฟัง สัก 3 ข้อ"

จากนั้นก็เริ่มกิจกรรมประเมินความเหมาะสม ของวันนี้แล้วครับ มีทั้งสิ้น 5 กิจกรรม -_-" (เยอะเนอะ ต้องลางานทั้งวันเลย)
1. ข้อสอบชุด moral test (multiple choice)
มี 25 ข้อ แต่ละข้อมี 5 ตัวเลือก ใช้เวลา 25 นาที ประมาณว่า ให้สถานการณ์มา แล้วเลือกตอบว่าถ้าเราเป็นบุคคลในแต่ละสถานการณ์ที่ให้มา จะตัดสินใจทำอะไร (decision) และเพราะอะไร (reasons)

ยกตัวอย่างมาข้อนึง
เรยาเป็นเพื่อนรักกับมุนินทร์ และมุนินทร์เป็นแฟนกับปวรรุจ แต่ในช่วงหลัง เรยาเห็นปวรรุจเที่ยวเตร่กับผู้หญิงคนหนึ่งเป็นประจำ เรยาควรจะบอกมุนินทร์หรือไม่ เพราะอะไร
1. ไม่ควร เพราะไม่อยากให้มุนินทร์เสียใจ
2. ไม่ควร เพราะเป็นเรื่องของเขาสองคน
3. ไม่ควร เพราะคนเรามีเพื่อนสนิทได้หลายคน
ฯลฯ

ที่น่าสังเกตคือ ในบางข้อ ตัวเลือกทั้งหมดจะเหมือนกันตรงที่ decision (ไม่ควร) จะต่างกันตรงเหตุผล (เพราะว่า...) เท่านั้น



2. เขียน essay ภาษาอังกฤษ
ไม่เกิน 1 หน้ากระดาษ (200-250 คำ) ให้เวลา 40 นาที

โจทย์จะมี text ให้อ่าน ยาวประมาณ 1 หน้ากระดาษ A4 (วันนี้เป็นเรื่อง Gender issues in higher education หรือประเด็นด้านความเสมอภาคทางเพศในการศึกษาระดับอุดมศึกษา)
เนื้อหาโดยสรุปคือ ผู้หญิงยังขาดโอกาสทางการศึกษาระดับมหาลัย เพราะ
1. lodging (ที่พัก) ซึ่งผู้หญิงในบางสังคม ไม่ได้รับอนุญาตให้จากบ้านในตจว.มาเรียนมหาลัยซึ่งมักตั้งอยู่ในเมือง
2. ความรู้ด้าน iT ของกลุ่มผู้หญิงมีน้อยกว่าชาย ทำให้เรียนในระดับมหาลัยลำบาก
แล้วให้เราเขียนเรียงความ เสนอ solutions กับ recommendation

ใครที่เขียนตัวใหญ่เท่าหม้อแกงหรือมักเขียนผิดบ่อยๆแล้วขีดฆ่าทิ้ง ขอให้ระวัง เพราะไม่มีการให้กระดาษเขียนตอบเพิ่มแล้ว คนละ 1 แผ่นเท่านั้น

คนทำไม่ทันเยอะมากกกก
ตอนจะหมดเวลา จนท.ถามว่า "ใครยังไม่เสร็จบ้าง"
ยกมือกันพรึ่บ (จขกท.ก็ด้วย)

พักกลางวัน 1 ชม. ทางกพ.เลี้ยวข้าวกล่อง ให้เลือกระหว่างผัดไทยกะข้าวราดผัดกะเพรา ^^ (จะบอกเพื่อ?)

3. เขียน essay ภาษาไทย
หัวข้อ การบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์ที่ข้าพเจ้าภูมิใจ
เขียน 1 หน้ากระดาษ ให้่เวลา 30 นาที
อันนี้คนทำไม่ทันก็มีนะ

4. ทำแบบทดสอบ EQ  (multiple choice)
อันนี้ชิวๆ ใช้เวลา 20 นาทีเอง
โจทย์จะให้เลือกตอบตาม scale  เช่น คุณรู้สึกซึมเศร้าบ่อยๆ (ตัวเลือกก็ประมาณว่า จริงมาก, จริงบางครั้ง, ไม่เลย)

5. ทำแบบทดสอบบุคลิกภาพ (multiple choice)
ให้เวลา 45 นาที
อันนี้ก็ไม่ต้องคิดอะไร (จริงๆคิดอะไรไม่ออกแล้ว) แต่เอาจริงๆ 20 นาทีก็ออกกันแล้ว

ความเห็นส่วนตัว >>
การตรวจเช็คคนที่เข้าสอบค่อนข้างหละหลวม ไม่ตรวจบัตรประชาชน ไม่ต้องฝากกระเป๋า เอามือถือเข้ามาได้ (ยกเว้นสอบ essay อังกฤษ เขาให้ปิดเครื่องแล้ววางคว่ำหน้าบนโต๊ะ)


สถานที่สะอาดดี แอร์เย็นใช้ได้ อาหารว่างกะกลางวันโอเค
ชอบพิธีกรตรงที่แอบฮาตอนจบ
"กิจกรรมสุดท้ายแล้ว ว้า ยังไม่อยากให้จบเลย กำลังสนุก"
เอ่ิิอ ..พอเหอะหวะ

เพิ่มเติม การสัมภาษณ์
- กรรมการสัมภาษณ์มี 5 คน แบ่งเป็น
1. ผู้แทนจาก กพ. (ของผม คนนี้เป็นประธาน นั่งตรงกลาง ทำหน้าที่ moderator กลายๆ จี้ถามเยอะสุด ชอบกดดัน เล่นบทใจร้าย)   
2. ผู้แทนจากหน่วยงานที่เราจะไปทำงาน (ถ้าได้ทุนนะ)
3. อาจารย์มหาลัยที่ชำนาญสาขาที่เราเรียน
4. นักจิตวิทยา (น่าจะมาจากกรมสุขภาพจิต)
5. อาจารย์สอนภาษาอังกฤษ