โรงหนัง ยันไม่ลดค่าตั๋ว อ้างต้นทุนสูง-ค่าเช่าแพง-ป๊อปคอร์นนำเข้า

เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2556 นายจิรชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้เปิดเผยถึงการหารือระหว่างผู้ประกอบการโรงหนัง และตัวแทนจากภาครัฐ กรมการค้าภายใน รวมไปถึงกรมสรรพากร หลังจากได้รับการร้องเรียนว่า ผู้ประกอบการโรงหนังคิดราคาค่าบริการแพงเกินความเป็นจริง

            ทั้งนี้ นายจิรชัย เผยว่า ทางผู้ประกอบการยืนยันว่า ไม่สามารถปรับลดราคาค่าบัตรได้ เพราะได้รับผลกระทบจากค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ทำให้ต้นทุนสูง อีกทั้งยังมีต้นทุนค่าเช่าสถานที่ ซึ่งตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ หรืออยู่ใจกลางเมือง โดยคิดเป็น 15% ของรายได้ทั้งหมด และอีก 50% เป็นต้นทุนที่ต้องจ่ายให้กับเจ้าของภาพยนตร์ นอกจากนี้ยังมีภาระค่าใช้จ่ายด้านภาษีอีก

            ผู้ประกอบการ ยังระบุอีกว่า สำหรับค่าแรงที่ต้องจ่าย ประกอบด้วย ค่าจ้างแม่บ้าน, บริษัทรักษาความปลอดภัย และค่าแรงพนักงานหน้าเคาน์เตอร์ อีกทั้งโรงภาพยนตร์ได้เปลี่ยนระบบฉายเป็นระบบดิจิตอล จึงทำให้ผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และในวันธรรมดา บางโรงบางเรื่องมีผู้เข้าชมเพียง 4-5 คนต่อโรง ผู้ประกอบการก็ยังต้องฉายภาพยนตร์ดังกล่าว ซึ่งเรื่องราคาถ้าเฉลี่ยกันแล้วก็ถือว่าเหมาะสม

            ส่วนในเรื่องการปรับลดราคานั้น ทางผู้ประกอบการแจ้งว่า ถึงแม้จะมีการปรับลดแต่ก็ไม่ได้ลดในทันที แต่จะขอนำเรื่องนี้ไปหารือกับเจ้าของภาพยนตร์ว่ามีต้นทุนใดที่สามารถปรับลดได้หรือไม่ เพราะการที่ตั๋วหนังแพง ก็เป็นเพราะเจ้าของค่ายหนังคิดค่าลิขสิทธิ์แพง ส่วนกรณีเรื่องอาหารและเครื่องดื่มที่มีราคาแพงนั้น สำหรับข้าวโพดคั่วเป็นข้าวโพดที่นำเข้าจากต่างประเทศ และการที่ไม่อนุญาตให้เอาน้ำหรือขนมอื่น ๆ เข้ามา ก็เหมือนกับร้านอาหารทั่วไป ที่มีกฎห้ามลูกค้าไม่เอาอาหารจากที่อื่นมารับประทานเช่นกัน แต่ทั้งนี้จะหารือเรื่องการปรับขนาดอาหารและเครื่องดื่มต่อไป

            สำหรับประเด็นเรื่องการฉายโฆษณา และภาพยนตร์ตัวอย่างนานนั้น ทางผู้ประกอบการแจ้งว่า ในส่วนของโฆษณาจะฉายไม่เกิน 6 นาทีต่อรอบ และภาพยนตร์ตัวอย่างประมาณ 4 นาที เท่านั้น แต่ทั้งนี้คาดว่าทางผู้ประกอบการฉายสลับกัน ทำให้ผู้บริโภครู้สึกอึดอัด จึงขอให้แยกการฉายโฆษณาและภาพยนตร์ตัวอย่างออกจากกัน

            นอกจากนี้ มีรายงานระบุว่า จากการคำนวณต้นทุนของผู้ใช้บริการโรงภาพยนตร์ต่อราย พบว่า แต่ละคนใช้จ่ายมาถึง 319 บาท ต่อ 1 คน ต่อภาพยนตร์ 1 เรื่อง แบ่งเป็นค่าขนม 159 บาท และค่าบัตรชมภาพยนตร์ 160 บาท หากเทียบกับค่าแรงขั้นต่ำที่ 300 บาท ต่อวันนั้น ถือว่าไม่เหมาะสม ซึ่งผู้ประกอบการควรปรับลดราคา เพื่อให้ผู้บริโภคมีความสุขในการรับบริการด้วย

http://movie.kapook.com/view62480.html

ค่อนข้างอึ้งตรงข้าวโพดคั่ว ไม่เอาไม่พูด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่