คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
น้ำกลั่น (ซึ่งไม่ใช่น้ำกลั่นสำหรับเติมรถยนต์)
มีกระบวนการคือการทำให้น้ำระเหย แล้วควบแน่นส่วนที่ระเหยจะได้เป็นน้ำกลั่นครับ
อย่างไรก็ตาม ถ้าในน้ำนั้นมีสารประกอบอื่นซึ่งมีจุดเดือดใกล้เคียงกับน้ำ หรือมีสารระเหย(พวกกลิ่นต่างๆ) ก็มีโอกาสที่จะระเหยมาพร้อมกับไอน้ำแล้วควบแน่นตกกลับไปรวมกันได้อีกครับ
----------------------------------------------
น้ำจากกระบวนการ Reverse Osmosis
เป็นน้ำที่ผ่านกระบวนการกรอง ผ่านเมมเบรนขนาดเล็กมากๆครับ อาศัยการดันย้อนสวนทางกลับการแพร่แบบ Osmosis ทำให้แยกออกมาได้เฉพาะโมเลกุลน้ำครับ
มีความบริสุทธิ์มากกว่าน้ำกลั่นครับ
-------------------------------------
น้ำทั้ง2มีคุณภาพพอสำหรับน้ำดื่มครับ ไม่จำเป็นต้องฆ่าเชื้อซ้ำ หากไม่มีการปนเปื้อนหลังจากกระบวนการครับ
อาจจะต้องระวังเรื่องการขาดแร่ธาตุบ้าง แต่อย่างไรก็ตามหากรับประทานอาหารถูกต้องตามโภชนาการแล้ว ก็จะได้แร่ธาตุจากอาหารที่เพียงพออยู่แล้วครับ
-----------------
น้ำในอุตสาหกรรมน้ำดื่มบรรจุขวด
ส่วนมากจะใช้น้ำอ่อนซึ่งผ่านการฆ่าเชื้อด้วยคลอรีนกรองด้วยคาร์บอน เรซิน และมาฆ่าเชื้อซ้ำด้วย UV ครับ บางทีก็ใฃ้Ozoneแต่เป็นส่วนน้อย
มีเพียงส่วนน้อยที่ใช้กระบวนการ RO เพราะมีต้นทุนสูงครับ
แต่ในอุตสาหกรรมอาหารกระป๋อง จะใช้น้ำ RO มากกว่าครับโดยเฉพาะในกระบวนการ Cooling หลังจากผ่าน Retort ครับ เพราะไม่มีแร่ธาตุ สามารถลดโอกาสเกิดสนิม ทำให้กระป๋องเสื่อมเสียและอาหารจะหมดอายุเร็วกว่าที่ควรครับ
-------------------------
ปล. น้ำ RO จากเครื่องขายน้ำหยอดเหรียญ ไม่สะอาด เพราะแทบจะไม่เคยทำความสะอาด และบำรุงฟื้นสภาพฟิลเตอร์เมมเบรนครับ
ถ้าวัดจากกระบวนการที่สมบูรณ์แล้ว ยังไง RO บริสุทธิ์ กว่า 100% ครับ
ปล2. น้ำกลั่นเติมรถยนต์ไม่สามารถดื่มได้เพราะมีการผสมกรดในการปรับ pH ให้เหมาะสมกับเครื่องยนต์ครับ โดยจะใช้กรดกำมะถัน ซึ่งกินไม่ได้ครับอันตราย
มีกระบวนการคือการทำให้น้ำระเหย แล้วควบแน่นส่วนที่ระเหยจะได้เป็นน้ำกลั่นครับ
อย่างไรก็ตาม ถ้าในน้ำนั้นมีสารประกอบอื่นซึ่งมีจุดเดือดใกล้เคียงกับน้ำ หรือมีสารระเหย(พวกกลิ่นต่างๆ) ก็มีโอกาสที่จะระเหยมาพร้อมกับไอน้ำแล้วควบแน่นตกกลับไปรวมกันได้อีกครับ
----------------------------------------------
น้ำจากกระบวนการ Reverse Osmosis
เป็นน้ำที่ผ่านกระบวนการกรอง ผ่านเมมเบรนขนาดเล็กมากๆครับ อาศัยการดันย้อนสวนทางกลับการแพร่แบบ Osmosis ทำให้แยกออกมาได้เฉพาะโมเลกุลน้ำครับ
มีความบริสุทธิ์มากกว่าน้ำกลั่นครับ
-------------------------------------
น้ำทั้ง2มีคุณภาพพอสำหรับน้ำดื่มครับ ไม่จำเป็นต้องฆ่าเชื้อซ้ำ หากไม่มีการปนเปื้อนหลังจากกระบวนการครับ
อาจจะต้องระวังเรื่องการขาดแร่ธาตุบ้าง แต่อย่างไรก็ตามหากรับประทานอาหารถูกต้องตามโภชนาการแล้ว ก็จะได้แร่ธาตุจากอาหารที่เพียงพออยู่แล้วครับ
-----------------
น้ำในอุตสาหกรรมน้ำดื่มบรรจุขวด
ส่วนมากจะใช้น้ำอ่อนซึ่งผ่านการฆ่าเชื้อด้วยคลอรีนกรองด้วยคาร์บอน เรซิน และมาฆ่าเชื้อซ้ำด้วย UV ครับ บางทีก็ใฃ้Ozoneแต่เป็นส่วนน้อย
มีเพียงส่วนน้อยที่ใช้กระบวนการ RO เพราะมีต้นทุนสูงครับ
แต่ในอุตสาหกรรมอาหารกระป๋อง จะใช้น้ำ RO มากกว่าครับโดยเฉพาะในกระบวนการ Cooling หลังจากผ่าน Retort ครับ เพราะไม่มีแร่ธาตุ สามารถลดโอกาสเกิดสนิม ทำให้กระป๋องเสื่อมเสียและอาหารจะหมดอายุเร็วกว่าที่ควรครับ
-------------------------
ปล. น้ำ RO จากเครื่องขายน้ำหยอดเหรียญ ไม่สะอาด เพราะแทบจะไม่เคยทำความสะอาด และบำรุงฟื้นสภาพฟิลเตอร์เมมเบรนครับ
ถ้าวัดจากกระบวนการที่สมบูรณ์แล้ว ยังไง RO บริสุทธิ์ กว่า 100% ครับ
ปล2. น้ำกลั่นเติมรถยนต์ไม่สามารถดื่มได้เพราะมีการผสมกรดในการปรับ pH ให้เหมาะสมกับเครื่องยนต์ครับ โดยจะใช้กรดกำมะถัน ซึ่งกินไม่ได้ครับอันตราย
แสดงความคิดเห็น
น้ำกลั่นกินไ้ด้ไหมครับ แล้วเทียบกับน้ำ RO แบบไหนสะอาดกว่ากัน
แล้วจำเป็นต้องมาฆ่าเชื้อโรคอีกทีไหม (UV/ต้ม)
อีกคำถามครับ ทุกวันนี้ดื่มน้ำต้มอยู่ แต่มักจะมีตะกอนขาวๆ อยู่ด้วย น่าจะเป็น Ca ถ้าดื่มมากๆ จะเป็นนิ่วหรือเปล่าครับ