เนื่องจากเมล็ดพิทูเนียนั้นเล็กมาก   การเพาะอาจจะต้องทะนุถนอมมากเป็นพิเศษ   เตรียมดินใส่ภาชนะที่ใช้เพาะแล้วปาดหน้าดินให้เรียบไม่ควรกดดินจนแน่นเพราะจะทำให้ระบายน้ำได้ไม่ดี ต้นเน่าได้ง่าย   เสร็จแล้วโรยเมล็ดให้ห่างกัน   แล้วใช้มือวักน้ำรดเบาๆให้ทั่ว  กะประมาณว่าดินเปียกเพียงครึ่งภาชนะเพาะ  อย่าให้ถึงกับเปียกโชกจนน้ำไหลนอง   วางไว้ในที่ร่มมีแสง  แต่ไม่โดนแดด และไม่โดนฝนสาด  รดเช้าและเย็นจนงอก จึงค่อยรดตอนเช้าเพียงครั้งเดียว
     
ต้นพิทูเนียช่วงแรกจะเล็กมากๆและโตช้า  เมื่องอกจนมีใบ 2 ใบ ให้เริ่มนำออกรับแดดช่วงก่อนเจ็ดโมงเช้าเพียงครึ่งชั่วโมง   และยังควรใช้มือวักน้ำรด  หรือฝักบัวเล็กๆรดเบาๆ ไม่ควรใช้สายยางฉีด   แล้วเพิ่มแดดเป็น 1 ชั่วโมงเมื่อต้นกล้าโตขึ้นและไม่เหี่ยว  หากเหี่ยวก็ให้ลดแดดลง

ควรย้ายต้นกล้าเมื่อมีขนาดใบใหญ่เท่าเหรียญ 50 สต.ขึ้นไป   หากดินที่ใช้ในกระถางใหม่นี้เป็นดินใบก้ามปูก็สามารถรดน้ำให้โชกจนน้ำไหลออกก้นกระถางได้  แต่หากเป็นดินอื่นควรรดให้เปียกประมาณครึ่งกระถางเท่านั้น   เมื่อต้นกล้าแข็งแรงดีหลังจากเปลี่ยนกระถางได้ 1 สัปดาห์  ก็เริ่มให้ปุ๋ยสูตรเสมอได้  แต่ควรละลายน้ำเสียก่อน  แล้วอย่ารดให้โดนต้น  ให้หยอดไปรอบๆต้น   ให้ปุ๋ยเจือจางได้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง   

เมื่อต้นพิทูเนียแตกแขนงรอบๆจนแขนงยาวสัก 3 นิ้ว   ก็เปลี่ยนเป็นปุ๋ยเป็นสูตรปุ๋ยเร่งดอกได้  และรดได้สัปดาห์ละ 2 ครั้งไปตลอด

พิทูเนียที่ได้รับแดดเพียงครึ่งวัน  จะทำให้ดอกหนึ่งสามารถบานได้ถึง 3 วัน  และต้นมีอายุยาวนานถึง 6 เดือน