คุณผู้ชายค่ะ ว่างๆหันมาดูแลคนที่ได้ชื่อภรรยาตัวเองด้วยนะคะ

เรื่องเล่าของเพื่อนสนิทเราเองค่ะ

เพื่อนเรากับสามีแต่งงานอยู่กินกันมาได้เกือบ 10 ปีแล้ว
สามีเป็นคนที่ขยันมาก ทำงานจนไม่มีวันหยุด ไม่ค่อยมีเวลาพาเพื่อนเราไปไหน
แต่สามีเพื่อนนิสัยดีมากๆ ไม่ค่อยไปไหน ไม่เจ้าชู้ ไม่ติดการพนัน ไม่ติดเพื่อน ไม่บ้าบอล
คือเป็นผู้ชายที่ผู้หญิงหลายๆคนฝันถึงเลยค่ะ
ถึงแม้ว่าอาจะไม่หล่อมาก แต่ถือว่าไม่ขี้เหร่นะคะ  จะเสียก็ตรงที่บ้างานมาก  แต่เพื่อนก็รักสามีของเธอมาก
เธอเข้าใจ แต่ก็มีแอบน้อยใจบ้างบางเวลา ช่วงแรกๆที่เรากับเพื่อนทำงานอยู่ใกล้ๆกัน เราก็จะไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ
แต่พอเราย้ายมาทำงานที่กรุงเทพ เราก็แทบจะไม่ได้พบเพื่อนเลย ได้แต่คุยกันผ่านไลน์บ้าง คุยโทรศัพท์กันบ้าง
เพื่อนเราขี้เหงามากค่ะ พอสามีไม่ค่อยสนใจ เพื่อนก็จะเหงาอยู่คนเดียว...

จนเมื่อไม่นานมานี้ เพื่อนเราป่วย โทรหาให้สามีมารับไม่ส่งโรงพยาบาล
แต่เพราะสามีติดงานยุ่ง ไม่มีเวลา เลยบอกให้เพื่อนเราไปโรงพยาบาลคนเดียว
ความน้อยใจ ปัญหาต่างๆที่คาราคาซังไร้การพูดคุยทำความเข้าใจก็ประดาประดังขึ้นมาในอก
เรื่องที่เคยเป็นเรื่องเล็กๆกลายเป็นเรื่องใหญ่ทันที แต่เพื่อนเราไม่พูดอะไรออกมา เลือกที่จะเก็บไว้ในใจ

และแล้ววันหนึ่งก็มาถึง มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในชีวิตเพื่อน
หยิบยื่นน้ำใจไมตรีที่มากเกินไปให้เพื่อนเรา อารมณ์น้อยใจและความเหงา
ทำให้เพื่อนเราตอบรับน้ำใจนั้น แรกๆก็แค่เพื่อนกัน นานๆเข้าความสัมพันธ์กะกลายเป็นเชิงชู้สาว
ตอนนี้หัวใจของเพื่อนเอียนเอียงไปทางผู้ชายคนใหม่เต็มร้อย
ผู้ชายคนใหม่บอกให้เพื่อนเลิกกับสามีและมาคบกับเขา
เพื่อนเรายังลังเลไม่อยากเลือกเพราะเธอคิดว่าเธอยังมีสิทธิ์ที่จะเลือก
เธอเลยจะดูสถานะการณ์ตอนนี้ก่อนว่าสามีเธอจะเลิกบ้างาน หันมาเอาใจใส่เธอไหม
และผู้ชายคนใหม่จะดีแตกเมื่อไหร่

เราบอกได้คำเดียวว่าเราสงสารสามีเพื่อนมาก
เพราะที่เขาทำงานอย่างหนักก็เพื่ออนาคตของเพื่อนและครอบครัว
แต่เราก็เข้าใจเพื่อน รู้ว่าเพื่อนคงเหงา โดดเดี่ยวมากแค่ไหน กลับบ้านมาเมื่อไหร่ไม่เคยเจอสามี
เราจึงอยากจะเตือนสามีที่ปล่อยปะละเลยภรรยาตัวเอง
ว่าให้หันมาดูแลคนใกล้ตัวคุณบ้าง อย่าปล่อยให้เขาเหงาจนเกินไป
เพราะถ้าวันไหนที่มีผู้ชายคนอื่นเข้ามา กว่าคุณจะรู้ตัว มันก็สายไปแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่