สิงสู่ เขียนโดย พลาโต้ เผยแพร่ครั้งที่ 1 หลังจากฝันเมื่อคืนนี้ 11 พฤษภาคม 2556
เมื่อคืนนี้ผมฝันประหลาด หลังจากปวดหัวไมเกรน กินยาแล้วหลับไป
ผมตื่นขึ้นมาในบ้านไม้ ที่แลดูเป็นสำนักงาน ผมถูกจับมาอยู่กับคนแปลกหน้า ชาย 2 หญิง 3
ตอนแรกดูเหมือนจะไม่มีอะไร รวมกลุ่มพากันเดินสำรวจสำนักงานเก่า ๆ ที่ถูกทิ้งร้าง
เมื่อไปถึงห้องหนึ่ง ชายอ้วนก็เกิดอาการตัวสั่นอย่างประหลาด กล้ามเนื้อเริ่มขยายใหญ่ขึ้น
ตัวลอยขึ้นกลางอากาศอย่างกับลูกโป่ง มีเลือดไหลออกจากตา จมูก ปาก พุงเคร่งตึง
เสื้อผ้าเริ่มฉีกขาดเหมือนท้องจะแตกออก ที่แน่ ๆ คือ ขี้แตก
ชายอ้วนที่ดูเหมือนถูกปีศาจสิงสู่ ก็หัวเราะขึ้น แล้วส่งเสียงร้องเหมือนสัตว์ป่า ฟังไม่เป็นภาษามนุษย์
ทุกคนต่างพากันตกใจวิ่งหนี ผมกับผู้ชายอีกคนที่หล่อล่ำกำยำดุจดังนักกล้ามพากันเผ่นออกจากห้อง
ส่วนกลุ่มสาวเซ็กซี่ดาวโป๊พากันวิ่งหนีไปอีกทาง ผมวิ่งนำหน้าออกไปทางประตูหลังบ้าน ประตูเปิดไม่ออก
ชายนักกล้ามที่วิ่งตามผมมาจึงพยายามถีบ พยายามเอาตัวกระแทกจนประตูเปิดออก
เมื่อหลุดออกจากประตูไม้เก่า ๆ ออกไป ฉากที่เห็นเป็นผืนดินแตกระแหง
ห่างออกไปเป็นเงาของทิวป่าไผ่ มีรั้วหนามเก่า ๆ แสดงอาณาเขต
พื้นที่ตรงกลางมีหลุมลึกลงไปดูเหมือนจะเป็นบ่อปลาเก่าที่ปราศจากน้ำ
ปีศาจอ้วน ยังตามมาหลอกหลอน มันลอยตัว ขึ้นในอากาศ และพูดภาษาอันแปลกประหลาด
น้ำเสียงเหมือนจะสาบแช่ง ปะปนกับเสียงฟ้าร้องฟ้าครางที่อยู่ไกลออกไป
จนชายนักกล้ามหันมาบอกกับผมว่า ฟังดูเหมือนภาษาอินโดนิเซีย
จากนั้นเขาก็วิ่งไปงัดแป๊บเหล็กที่เต็มไปด้วยสนิม มาฟาดปีศาจอ้วนที่ขี้ไม่หยุดตนนั้น
ขณะที่ฟาด ที่แทง ปีศาจก็ส่งเสียงหัวเราะเหมือนว่ามันไม่เจ็บปวด
นักกล้ามหวดแป็บเข้าที่ปากปีศาจเพื่อให้มันหยุดเสียงหัวเราะที่กวนประสาท จนคอหัก
ร่างกายที่เคยเป็นมนุษย์มาก่อนแหลกเละ ก่อนจะขว้างแป๊บเหล็กกระแทกลงกับพื้นดินและทรุดตัวลง อย่างหอบเหนื่อย
ร่างกายเต็มไปด้วยเลือดหนองและเหงื่อที่ชุ่มเสื้อกล้าม เหลือแต่ความเงียบ
ไม่กี่อึดใจต่อมาก็ได้ยินเสียงหัวเราะของปีศาจที่บัดนี้ออกมาจากร่างอันแหลกเละ
น่าแปลกที่ตอนนี้ผมกลับเข้าใจภาษาแปลกหูนั้นว่า "กูมาสิงร่างเพื่อต้องการผสมพันธุ์ กูอยากมันส์ก่อนทุกสิ่งสลายไป"
สิ้นเสียงหัวเราะชายนักกล้ามที่นั่งคล่อมศพอันแหลกเละ ก็ถูกปีศาจสิงสู่ทันที
ตัวสั่นด้วยจังหว่ะแปลกประหลาดไม่ต่างจากชายอ้วน กล้ามเนื้อ
ขยายใหญ่จนเสื้อกล้ามฉีกขาด ขี้ไม่แตก แต่เปลี่ยนมาเป็นเลือดน้ำหนองพุ่งออกจากหู
มันเอื้อมมือไปหยิบแป๊บเหล็กสนิมที่เต็มไปด้วยเลือด ลุกขึ้นมา ยิ้มอย่างโรคจิต แล้วพุ่งตัว
ฟาดแป๊บเหล็กมาทางผม จังหว่ะนั้นผมหลบทัน แต่เท้าเกิดสะดุดขอนไม้พลาดหกล้มหวิดตกลงไปในหลุมลึก
มันยังหวดซ้ำผมพลิกตัวหลบแป็บเหล็กที่ตีเข้าอย่างจังที่หน้าผาก แล้วใช้ตีนถีบใส่หน้ามัน
เห็นมันเสียหลัก ผมจึงรีบลุกขึ้นวิ่งหนีสุดชีวิต
เป้าหมายคือประตูไม้ที่นักกล้ามเพิ่งพังออกมาเมื่อสักครู่ ด้วยระยะสายตาจึงมองเห็นประตูนั้นเป็นเีพียงกรอบสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก
และมองเห็นท้องฟ้าสีแดงผืนใหญ่เป็นฉากหลังของบ้านไม้สองชั้นเก่า ๆ
ภาพที่สั่นไหวจากแรงวิ่งหนี ปะปนกับภาพรุนแรงที่ยังคงติดตาและอากาศร้อนที่อบอ้าวก่อนฝนจะตก ทำให้ผมรู้สึกกดดัน
กรอบสี่เหลี่ยมใหญ่ขึ้น เมื่อถึงประตู ผมรีบพุ่งตัวกลับเข้าไปในบ้าน แล้วหันหลังกลับไปมองว่าปีศาจนักกล้ามตามมาหรือไม่
จังหว่ะนั้นผมปะทะชนกับสาวนมโตคนหนึ่ง เธอล้มลงไป เธอนึกว่าผมคือปีศาจ จึงรีบคลานหนีผมอย่างทุลักทุเล
ในบ้านเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องของสาว ๆ ที่ผมไม่รู้ว่าอยู่ตรงมุมไหนของบ้าน
ผมตัดสินใจวิ่งไปประตูหน้า ประตูเปิดไม่ออกเพราะถูกบางสิ่งยึดเอาไว้ เมื่อลองจับดูพบว่าเป็นเมือกเหนียว ๆ
ปีศาจเหมือนจะเปลี่ยนไปไล่ปล้ำสาว ๆ ผมได้ยินเสียงกระจกหน้าต่างแตก แต่เสียงสาว ๆ ยิ่งดังขึ้น
เหมือนกับว่าหนีออกทางประตูหน้าต่างไม่ได้
ใจผมยังวนเวียนอยู่กับประตูทางออก วิ่งไปค้นอะไรที่จะมางัดประตู ก็พบว่าแป็บเหล็กสนิมชุ่มเลือดได้ตกอยู่หน้าบันไดทางขึ้นไปชั้นสอง
ผมจึงเอาแป็บเหล็กมางัดประตู จนเกิดช่องว่างพอที่ผมจะมุดคลานออกไปได้
เมื่อคลานออกมาจากประตู ผมได้หันหลังกลับไปมองเมือกเหนียว ๆ ที่เกาะยึดประตูไว้
ผมรู้สึกสะพรึงกลัวกับภาพที่เห็น เพราะมันดูเหมือนแมงกระพรุนผสมตัวอะมีบ้า บนร่างของมันเต็มไปด้วยดวงตาของสัตว์ป่า
ที่จับจ้องมาทางผม ผมมองขึ้นไปชั้นสองตรงหน้าต่างบานที่แตก เห็นหญิงสาวกำลังพยายามมุดตัว
ออกจากหน้าต่าง แต่ถูกเมือกเหนียวของตัวอะมีบาเกาะติดเต็มหน้า ผมคงช่วยอะไรไม่ได้จึงรีบวิ่งหนีออกห่างจากบ้าน
ที่ขณะนี้ผมรู้แล้วว่า มันคือสำนักงานของสระว่ายน้ำที่ถูกปกคลุมด้วยสิ่งมีชีวิตอันแปลกประหลาด
ยิ่งวิ่งหนีไกลออกมาก็พบความจริงว่าสถานที่แห่งนี้มันคือ สนามกีฬาร้าง ทิวทัศน์รอบ ๆ เต็มไปด้วย
ต้นไม้ มองไปรอบตัวเข้าใจได้ไม่ยากว่า ผมกำลังอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นภูเขา ผมอยู่บนดอย
ความกดดันไม่ได้จบแค่นั้น เพราะตามทางที่จะออกไปสู่ประตูสนามกีฬา เต็มไปด้วย
การวางระเบิดแบบใช้เส้นลวดเส้นเอ็น สภาพแสงในตอนนั้นมีเมฆดำก้อนใหญ่มหึมา มาบด
บังทำให้แสงสลั่ว เพ่งมองดูเส้นลวดที่ดักฝีเท้าอย่างยากลำบาก ท้องฟ้าสีแดงเหมือนกำลังจะมีฝนห่าใหญ่ เริ่มได้กลิ่นไอดิน ทุกย่างก้าวจึง
เป็นไปอย่างระมัดระวัง ทางเดินที่เหยียบย่ำนั้นก็เต็มไปด้วยเศษปูนจากซากทุบตึก
การทรงตัวทำได้ยาก ด้วยความวิตกที่กลัวผีสางปีศาจไล่ล่า ทำให้ขาสั่นเกือบสะดุด
เส้นเอ็นที่ขึงดักฝีเท้าโยงใยอย่างสลับซับซ้อนยิ่งกว่าใยแมงมุม
ผมผ่านเส้นขึงสุดท้าย ออกไปถึงประตูใหญ่ที่เป็นตาข่ายเหล็ก ประตูถูกล๊อคด้วยกุญแจ แต่มีรูขาดของตาข่ายที่มีคนทำขึ้น
เพื่อเอาไว้มุดเข้าออกมาก่อน ผมจึงใช้ช่องทางนั้นมุดตัวออกไปได้
การหลุดออกมาจากสถานที่แห่งนั้น ทำให้ผมรู้สึกโล่งใจ แต่ก็ยังรู้สึกหวาดระแวง และสะพรึงกลัวกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้
สายผมพัดแรง ได้ยินแต่เสียงใบไม้ ผมเร่งฝีเท้าเดินไปตามริมขอบถนน โดยไม่รู้ว่าทางไหนคือเส้นทางลงไปสู่ตีนดอย
ทันใดนั้นมีรถกระบะสีครีมเก่า ๆ วิ่งตามหลังมาจอด แต่ผมยังไม่ได้ถามอะไรดี
ก็กระโดดขึ้นไปนั่งหลังรถ ที่มีเด็กผู้ชาย กับ แม่ของเด็กนั่งอยู่ รถแล่นไปสักพัก
เด็กก็ถามแม่ว่า "อุกกาบาต มันลูกใหญ่ไหมแม่" แม่ของเด็กก็เหมือนจะ
ปลอบเด็กว่า "เดี๋ยวพ้นดอยนี้เราก็รอดแล้วลูก" รถแล่นขึ้นเขาไปถึงจุดหนึ่งก็พบว่า
มาผิดเส้นทาง ก็เลยต้องย้อนกลับมาทางสนามกีฬาร้าง ฝนเริ่มตกลงมา
เมื่อใกล้ถึงสนามกีฬา ผมเคาะรถบอกคนขับว่า ปล่อยผมลงเถอะ
รถจอด แม่ของเด็กพาเด็กเข้าไปนั่งในรถ และหยิบเสื้อกันฝนมาใส่ก่อนกลับขึ้นไปนั่งอยู่หลังรถ
รถกะบะแล่นจากไป ผมยืนอยู่หน้าประตูสนามกีฬาร้าง ท่ามกลางความเย็นของฝนห่าใหญ่
ใจคิดไปว่า แม้แต่ผีสาง ยังอยากเสพกาม ก่อนที่โลกจะแตกสลาย
จบ.
สิงสู่ เขียนโดย พลาโต้
เมื่อคืนนี้ผมฝันประหลาด หลังจากปวดหัวไมเกรน กินยาแล้วหลับไป
ผมตื่นขึ้นมาในบ้านไม้ ที่แลดูเป็นสำนักงาน ผมถูกจับมาอยู่กับคนแปลกหน้า ชาย 2 หญิง 3
ตอนแรกดูเหมือนจะไม่มีอะไร รวมกลุ่มพากันเดินสำรวจสำนักงานเก่า ๆ ที่ถูกทิ้งร้าง
เมื่อไปถึงห้องหนึ่ง ชายอ้วนก็เกิดอาการตัวสั่นอย่างประหลาด กล้ามเนื้อเริ่มขยายใหญ่ขึ้น
ตัวลอยขึ้นกลางอากาศอย่างกับลูกโป่ง มีเลือดไหลออกจากตา จมูก ปาก พุงเคร่งตึง
เสื้อผ้าเริ่มฉีกขาดเหมือนท้องจะแตกออก ที่แน่ ๆ คือ ขี้แตก
ชายอ้วนที่ดูเหมือนถูกปีศาจสิงสู่ ก็หัวเราะขึ้น แล้วส่งเสียงร้องเหมือนสัตว์ป่า ฟังไม่เป็นภาษามนุษย์
ทุกคนต่างพากันตกใจวิ่งหนี ผมกับผู้ชายอีกคนที่หล่อล่ำกำยำดุจดังนักกล้ามพากันเผ่นออกจากห้อง
ส่วนกลุ่มสาวเซ็กซี่ดาวโป๊พากันวิ่งหนีไปอีกทาง ผมวิ่งนำหน้าออกไปทางประตูหลังบ้าน ประตูเปิดไม่ออก
ชายนักกล้ามที่วิ่งตามผมมาจึงพยายามถีบ พยายามเอาตัวกระแทกจนประตูเปิดออก
เมื่อหลุดออกจากประตูไม้เก่า ๆ ออกไป ฉากที่เห็นเป็นผืนดินแตกระแหง
ห่างออกไปเป็นเงาของทิวป่าไผ่ มีรั้วหนามเก่า ๆ แสดงอาณาเขต
พื้นที่ตรงกลางมีหลุมลึกลงไปดูเหมือนจะเป็นบ่อปลาเก่าที่ปราศจากน้ำ
ปีศาจอ้วน ยังตามมาหลอกหลอน มันลอยตัว ขึ้นในอากาศ และพูดภาษาอันแปลกประหลาด
น้ำเสียงเหมือนจะสาบแช่ง ปะปนกับเสียงฟ้าร้องฟ้าครางที่อยู่ไกลออกไป
จนชายนักกล้ามหันมาบอกกับผมว่า ฟังดูเหมือนภาษาอินโดนิเซีย
จากนั้นเขาก็วิ่งไปงัดแป๊บเหล็กที่เต็มไปด้วยสนิม มาฟาดปีศาจอ้วนที่ขี้ไม่หยุดตนนั้น
ขณะที่ฟาด ที่แทง ปีศาจก็ส่งเสียงหัวเราะเหมือนว่ามันไม่เจ็บปวด
นักกล้ามหวดแป็บเข้าที่ปากปีศาจเพื่อให้มันหยุดเสียงหัวเราะที่กวนประสาท จนคอหัก
ร่างกายที่เคยเป็นมนุษย์มาก่อนแหลกเละ ก่อนจะขว้างแป๊บเหล็กกระแทกลงกับพื้นดินและทรุดตัวลง อย่างหอบเหนื่อย
ร่างกายเต็มไปด้วยเลือดหนองและเหงื่อที่ชุ่มเสื้อกล้าม เหลือแต่ความเงียบ
ไม่กี่อึดใจต่อมาก็ได้ยินเสียงหัวเราะของปีศาจที่บัดนี้ออกมาจากร่างอันแหลกเละ
น่าแปลกที่ตอนนี้ผมกลับเข้าใจภาษาแปลกหูนั้นว่า "กูมาสิงร่างเพื่อต้องการผสมพันธุ์ กูอยากมันส์ก่อนทุกสิ่งสลายไป"
สิ้นเสียงหัวเราะชายนักกล้ามที่นั่งคล่อมศพอันแหลกเละ ก็ถูกปีศาจสิงสู่ทันที
ตัวสั่นด้วยจังหว่ะแปลกประหลาดไม่ต่างจากชายอ้วน กล้ามเนื้อ
ขยายใหญ่จนเสื้อกล้ามฉีกขาด ขี้ไม่แตก แต่เปลี่ยนมาเป็นเลือดน้ำหนองพุ่งออกจากหู
มันเอื้อมมือไปหยิบแป๊บเหล็กสนิมที่เต็มไปด้วยเลือด ลุกขึ้นมา ยิ้มอย่างโรคจิต แล้วพุ่งตัว
ฟาดแป๊บเหล็กมาทางผม จังหว่ะนั้นผมหลบทัน แต่เท้าเกิดสะดุดขอนไม้พลาดหกล้มหวิดตกลงไปในหลุมลึก
มันยังหวดซ้ำผมพลิกตัวหลบแป็บเหล็กที่ตีเข้าอย่างจังที่หน้าผาก แล้วใช้ตีนถีบใส่หน้ามัน
เห็นมันเสียหลัก ผมจึงรีบลุกขึ้นวิ่งหนีสุดชีวิต
เป้าหมายคือประตูไม้ที่นักกล้ามเพิ่งพังออกมาเมื่อสักครู่ ด้วยระยะสายตาจึงมองเห็นประตูนั้นเป็นเีพียงกรอบสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก
และมองเห็นท้องฟ้าสีแดงผืนใหญ่เป็นฉากหลังของบ้านไม้สองชั้นเก่า ๆ
ภาพที่สั่นไหวจากแรงวิ่งหนี ปะปนกับภาพรุนแรงที่ยังคงติดตาและอากาศร้อนที่อบอ้าวก่อนฝนจะตก ทำให้ผมรู้สึกกดดัน
กรอบสี่เหลี่ยมใหญ่ขึ้น เมื่อถึงประตู ผมรีบพุ่งตัวกลับเข้าไปในบ้าน แล้วหันหลังกลับไปมองว่าปีศาจนักกล้ามตามมาหรือไม่
จังหว่ะนั้นผมปะทะชนกับสาวนมโตคนหนึ่ง เธอล้มลงไป เธอนึกว่าผมคือปีศาจ จึงรีบคลานหนีผมอย่างทุลักทุเล
ในบ้านเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องของสาว ๆ ที่ผมไม่รู้ว่าอยู่ตรงมุมไหนของบ้าน
ผมตัดสินใจวิ่งไปประตูหน้า ประตูเปิดไม่ออกเพราะถูกบางสิ่งยึดเอาไว้ เมื่อลองจับดูพบว่าเป็นเมือกเหนียว ๆ
ปีศาจเหมือนจะเปลี่ยนไปไล่ปล้ำสาว ๆ ผมได้ยินเสียงกระจกหน้าต่างแตก แต่เสียงสาว ๆ ยิ่งดังขึ้น
เหมือนกับว่าหนีออกทางประตูหน้าต่างไม่ได้
ใจผมยังวนเวียนอยู่กับประตูทางออก วิ่งไปค้นอะไรที่จะมางัดประตู ก็พบว่าแป็บเหล็กสนิมชุ่มเลือดได้ตกอยู่หน้าบันไดทางขึ้นไปชั้นสอง
ผมจึงเอาแป็บเหล็กมางัดประตู จนเกิดช่องว่างพอที่ผมจะมุดคลานออกไปได้
เมื่อคลานออกมาจากประตู ผมได้หันหลังกลับไปมองเมือกเหนียว ๆ ที่เกาะยึดประตูไว้
ผมรู้สึกสะพรึงกลัวกับภาพที่เห็น เพราะมันดูเหมือนแมงกระพรุนผสมตัวอะมีบ้า บนร่างของมันเต็มไปด้วยดวงตาของสัตว์ป่า
ที่จับจ้องมาทางผม ผมมองขึ้นไปชั้นสองตรงหน้าต่างบานที่แตก เห็นหญิงสาวกำลังพยายามมุดตัว
ออกจากหน้าต่าง แต่ถูกเมือกเหนียวของตัวอะมีบาเกาะติดเต็มหน้า ผมคงช่วยอะไรไม่ได้จึงรีบวิ่งหนีออกห่างจากบ้าน
ที่ขณะนี้ผมรู้แล้วว่า มันคือสำนักงานของสระว่ายน้ำที่ถูกปกคลุมด้วยสิ่งมีชีวิตอันแปลกประหลาด
ยิ่งวิ่งหนีไกลออกมาก็พบความจริงว่าสถานที่แห่งนี้มันคือ สนามกีฬาร้าง ทิวทัศน์รอบ ๆ เต็มไปด้วย
ต้นไม้ มองไปรอบตัวเข้าใจได้ไม่ยากว่า ผมกำลังอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นภูเขา ผมอยู่บนดอย
ความกดดันไม่ได้จบแค่นั้น เพราะตามทางที่จะออกไปสู่ประตูสนามกีฬา เต็มไปด้วย
การวางระเบิดแบบใช้เส้นลวดเส้นเอ็น สภาพแสงในตอนนั้นมีเมฆดำก้อนใหญ่มหึมา มาบด
บังทำให้แสงสลั่ว เพ่งมองดูเส้นลวดที่ดักฝีเท้าอย่างยากลำบาก ท้องฟ้าสีแดงเหมือนกำลังจะมีฝนห่าใหญ่ เริ่มได้กลิ่นไอดิน ทุกย่างก้าวจึง
เป็นไปอย่างระมัดระวัง ทางเดินที่เหยียบย่ำนั้นก็เต็มไปด้วยเศษปูนจากซากทุบตึก
การทรงตัวทำได้ยาก ด้วยความวิตกที่กลัวผีสางปีศาจไล่ล่า ทำให้ขาสั่นเกือบสะดุด
เส้นเอ็นที่ขึงดักฝีเท้าโยงใยอย่างสลับซับซ้อนยิ่งกว่าใยแมงมุม
ผมผ่านเส้นขึงสุดท้าย ออกไปถึงประตูใหญ่ที่เป็นตาข่ายเหล็ก ประตูถูกล๊อคด้วยกุญแจ แต่มีรูขาดของตาข่ายที่มีคนทำขึ้น
เพื่อเอาไว้มุดเข้าออกมาก่อน ผมจึงใช้ช่องทางนั้นมุดตัวออกไปได้
การหลุดออกมาจากสถานที่แห่งนั้น ทำให้ผมรู้สึกโล่งใจ แต่ก็ยังรู้สึกหวาดระแวง และสะพรึงกลัวกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้
สายผมพัดแรง ได้ยินแต่เสียงใบไม้ ผมเร่งฝีเท้าเดินไปตามริมขอบถนน โดยไม่รู้ว่าทางไหนคือเส้นทางลงไปสู่ตีนดอย
ทันใดนั้นมีรถกระบะสีครีมเก่า ๆ วิ่งตามหลังมาจอด แต่ผมยังไม่ได้ถามอะไรดี
ก็กระโดดขึ้นไปนั่งหลังรถ ที่มีเด็กผู้ชาย กับ แม่ของเด็กนั่งอยู่ รถแล่นไปสักพัก
เด็กก็ถามแม่ว่า "อุกกาบาต มันลูกใหญ่ไหมแม่" แม่ของเด็กก็เหมือนจะ
ปลอบเด็กว่า "เดี๋ยวพ้นดอยนี้เราก็รอดแล้วลูก" รถแล่นขึ้นเขาไปถึงจุดหนึ่งก็พบว่า
มาผิดเส้นทาง ก็เลยต้องย้อนกลับมาทางสนามกีฬาร้าง ฝนเริ่มตกลงมา
เมื่อใกล้ถึงสนามกีฬา ผมเคาะรถบอกคนขับว่า ปล่อยผมลงเถอะ
รถจอด แม่ของเด็กพาเด็กเข้าไปนั่งในรถ และหยิบเสื้อกันฝนมาใส่ก่อนกลับขึ้นไปนั่งอยู่หลังรถ
รถกะบะแล่นจากไป ผมยืนอยู่หน้าประตูสนามกีฬาร้าง ท่ามกลางความเย็นของฝนห่าใหญ่
ใจคิดไปว่า แม้แต่ผีสาง ยังอยากเสพกาม ก่อนที่โลกจะแตกสลาย
จบ.