จากกระทู้
http://ppantip.com/topic/30475036/comment113-4
และ
http://ppantip.com/topic/30330144
อ่านแล้วจะเห็นได้ว่าเป็นเรื่องร้ายแรงถึงชีวิต
ทำไมการเสียเงินจากน้ำพักน้ำแรงมาซื้อรถในสมัยนี้ดูจะเป็นเรื่องเสี่ยงเหลือเกิน
จากการติดตามอ่านกระทู้ที่ห้องรัชดามานานรถยนต์ค่ายต่างๆ มักมีปัญหามากมาย
แต่ประเทศไทยกลับมักไม่ค่อยเห็นค่ายรถเรียกคืนรถกลับไปซ่อม ซึ่งต่างจากประเทศอื่นที่เมื่อพบปัญหาแล้ว
รถที่มาจากสายการผลิตเดียวกันจะถูกเรียกไปตรวจสอบทั้งหมด
และจากกรณีของสองกระทู้ที่อ้างอิงดังกล่าว นับว่าไม่ใช่การแก้ปัญหาของค่ายรถ แต่เป็นการสร้างปัญหาให้มากกว่าเดิม
คุณ Black Absolute คุณเป็นผู้เสียหายโดยตรงในคดีนี้ ควรดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ให้เป็นบรรทัดฐานของสังคมนี้
ว่ากรณีเช่นนี้เราจะไม่ยอมให้เรื่องมันจบแค่ชดใช้ค่าเสียหาย ไม่ใช่แค่เรื่องเงิน เพราะถ้่าเหตการณ์วันนั้นเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา คุณคงเป็นม่าย ลูกคุณกำพร้าแม่ ไม่ก็ต้องมีเมียพิการโดยที่เราไม่ได้ผิดอะไรเลย
ขั้นตอนการดำเนินคดีมีดังนี้
1. ดำเนินคดีอาญา ข้อหาพยายามฆ่า ปลอมเอกสาร ฉ้อโกง โดยร้องทุกข์กับเจ้าพนักงานตำรวจ หรือจ้างทนายความดำเนินคดีเอง
กรณีคุณผมแนะนำให้จ้างทนายความดำเนินคดี เพราะหลักฐานชัดเจนอยู่แล้ว การจ้างทนายความจะทำให้ไม่ต้องผ่านชั้นสอบสวนกับชั้นอัยการ คดีจะดำเนินไปได้เร็วกว่า เพียงแต่จะเสียค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการดำเนินคดีมากกว่า ตรงนี้คุณก็เอาค่าเสียหายที่จะได้มาจ่าย ซึ่งผมเชื่อว่าค่าเสียหายที่จะได้มากกว่าค่าใช้จ่ายในคดีเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว
ในการวินิจฉัยข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง มีดังนี้
1.1 ข้อหาพยายามฆ่า เนื่องจากฝ่ายนั่นทราบดีอยู่แล้วว่ารถยนต์ที่นำมาจำหน่าย มีปััญหา สภาพรถไม่ดี ไม่ใช่รถใหม่ เครื่องยนต์หยุดทำงานในขณะที่วิ่งอยู่บนท้องถนน แต่ยังได้นำมาดัดแปลงมาตรวัดระยะทางการใช้ เพื่อให้ผู้เสียหายเข้าใจว่าเป็นรถใหม่ เพิ่งวิ่งยังไม่ถึง 20 กิโลเมตร การนำรถยนต์คันดังกล่าวมาจำหน่ายย่อมเล็งเห็นได้ว่าผู้ซื้อไปใช้จะได้รับอันตรายจากการใช้รถยนต์บนท้องถนนเนื่องจากสภาพรถที่ไม่พร้อมใช้งาน เมื่อผู้เสียหาย(ภรรยา)นำไปใช้งานรถได้ดับในขณะที่วิ่งด้วยความเร็วในช่องจารจรด้านขวา ผู้เสียหายได้พยายามบังคับรถเข้าข้างทางในที่เกิดเหตุ ในสภาพจารจรที่รถยนต์คันอื่นวิ่งด้วยความเร็ว จนเกือบจะเกิดอุบัติเหตุอันเนื่องมาจากสภาพตัวรถ
(สรุป พยายามฆ่าโดยเจตนาย่อมเล็งเห็นผล พูดภาษาชาวบ้านคือรู้ทั้งรู้ว่าให้เอาไปใช้มันเกิดอันตรายได้นะ)
1.2 ข้อหาปลอมเอกสาร ข้อหานี้จะเป็นความผิดเกี่ยวกับเอกสารในการออกรถยนต์ ต้องดูตามข้อเท็จจริงว่ามีเอกสารตัวไหนบ้าง ปรึกษาทนายความได้เลย
และข้อหาปลอมเอกสารนี้ยังรวมถึงการแก้ไขมาตรวัดระยะทางให้ผิดไปจากความจริงด้วย
1.3 ข้อหาฉ้อโกง คือเอาดัดแปลงมาตรวัดระยะทาง พูดด้วยวาจา ลายลักษณ์อักษร ฯลฯ อันเป็นความเท็จและเป็นการปกปิดข้อความจริง หลอกลวงให้ซื้อรถยนต์
2 ฟ้องคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาเรียกค่าสินไหมทดแทนต่างๆ รวมถึงค่าทนายความ
คดีอาญาฟ้อง บริษัทรถ(ศูนย์รถ)เป็นจำเลยที่ 1 (เฉพาะคดีปลอมเอกสารกับฉ้อโกง) ผู้จัดการเป็นจำเลยที่ 2 เซลล์เป็นจำเลยที่ 3 และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด
ส่วนคดีแพ่งฟ้องทั้งหมดเลย
ที่ต้องดำเนินคดีขนาดนี้ ก็เพราะเป็นเรื่องของความจริง เป็นเรื่องการทำความผิดที่อันตรายถึงชีวิต ไม่ควรอลุ่มอล่วยกัน
ให้เกิดเป็นบรรทัดฐานของสังคมนี้ เราชาวพันทิปควรจะช่วยกัน
ถ้าการบังคับใช้กฎหมาย(ซึ่งกฎหมายที่มีดีอยู่แล้ว)เป็นไปอย่างจริงจังผมว่าสังคมจะอยู่ง่ายขึ้น
นักกฎหมายท่านอื่นช่วยกันได้ครับ
เมื่อระบบคุ้มครองผู้บริโภค... สังคมพันทิปต้องช่วยกัน
http://ppantip.com/topic/30475036/comment113-4
และ
http://ppantip.com/topic/30330144
อ่านแล้วจะเห็นได้ว่าเป็นเรื่องร้ายแรงถึงชีวิต
ทำไมการเสียเงินจากน้ำพักน้ำแรงมาซื้อรถในสมัยนี้ดูจะเป็นเรื่องเสี่ยงเหลือเกิน
จากการติดตามอ่านกระทู้ที่ห้องรัชดามานานรถยนต์ค่ายต่างๆ มักมีปัญหามากมาย
แต่ประเทศไทยกลับมักไม่ค่อยเห็นค่ายรถเรียกคืนรถกลับไปซ่อม ซึ่งต่างจากประเทศอื่นที่เมื่อพบปัญหาแล้ว
รถที่มาจากสายการผลิตเดียวกันจะถูกเรียกไปตรวจสอบทั้งหมด
และจากกรณีของสองกระทู้ที่อ้างอิงดังกล่าว นับว่าไม่ใช่การแก้ปัญหาของค่ายรถ แต่เป็นการสร้างปัญหาให้มากกว่าเดิม
คุณ Black Absolute คุณเป็นผู้เสียหายโดยตรงในคดีนี้ ควรดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ให้เป็นบรรทัดฐานของสังคมนี้
ว่ากรณีเช่นนี้เราจะไม่ยอมให้เรื่องมันจบแค่ชดใช้ค่าเสียหาย ไม่ใช่แค่เรื่องเงิน เพราะถ้่าเหตการณ์วันนั้นเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา คุณคงเป็นม่าย ลูกคุณกำพร้าแม่ ไม่ก็ต้องมีเมียพิการโดยที่เราไม่ได้ผิดอะไรเลย
ขั้นตอนการดำเนินคดีมีดังนี้
1. ดำเนินคดีอาญา ข้อหาพยายามฆ่า ปลอมเอกสาร ฉ้อโกง โดยร้องทุกข์กับเจ้าพนักงานตำรวจ หรือจ้างทนายความดำเนินคดีเอง
กรณีคุณผมแนะนำให้จ้างทนายความดำเนินคดี เพราะหลักฐานชัดเจนอยู่แล้ว การจ้างทนายความจะทำให้ไม่ต้องผ่านชั้นสอบสวนกับชั้นอัยการ คดีจะดำเนินไปได้เร็วกว่า เพียงแต่จะเสียค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการดำเนินคดีมากกว่า ตรงนี้คุณก็เอาค่าเสียหายที่จะได้มาจ่าย ซึ่งผมเชื่อว่าค่าเสียหายที่จะได้มากกว่าค่าใช้จ่ายในคดีเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว
ในการวินิจฉัยข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง มีดังนี้
1.1 ข้อหาพยายามฆ่า เนื่องจากฝ่ายนั่นทราบดีอยู่แล้วว่ารถยนต์ที่นำมาจำหน่าย มีปััญหา สภาพรถไม่ดี ไม่ใช่รถใหม่ เครื่องยนต์หยุดทำงานในขณะที่วิ่งอยู่บนท้องถนน แต่ยังได้นำมาดัดแปลงมาตรวัดระยะทางการใช้ เพื่อให้ผู้เสียหายเข้าใจว่าเป็นรถใหม่ เพิ่งวิ่งยังไม่ถึง 20 กิโลเมตร การนำรถยนต์คันดังกล่าวมาจำหน่ายย่อมเล็งเห็นได้ว่าผู้ซื้อไปใช้จะได้รับอันตรายจากการใช้รถยนต์บนท้องถนนเนื่องจากสภาพรถที่ไม่พร้อมใช้งาน เมื่อผู้เสียหาย(ภรรยา)นำไปใช้งานรถได้ดับในขณะที่วิ่งด้วยความเร็วในช่องจารจรด้านขวา ผู้เสียหายได้พยายามบังคับรถเข้าข้างทางในที่เกิดเหตุ ในสภาพจารจรที่รถยนต์คันอื่นวิ่งด้วยความเร็ว จนเกือบจะเกิดอุบัติเหตุอันเนื่องมาจากสภาพตัวรถ
(สรุป พยายามฆ่าโดยเจตนาย่อมเล็งเห็นผล พูดภาษาชาวบ้านคือรู้ทั้งรู้ว่าให้เอาไปใช้มันเกิดอันตรายได้นะ)
1.2 ข้อหาปลอมเอกสาร ข้อหานี้จะเป็นความผิดเกี่ยวกับเอกสารในการออกรถยนต์ ต้องดูตามข้อเท็จจริงว่ามีเอกสารตัวไหนบ้าง ปรึกษาทนายความได้เลย
และข้อหาปลอมเอกสารนี้ยังรวมถึงการแก้ไขมาตรวัดระยะทางให้ผิดไปจากความจริงด้วย
1.3 ข้อหาฉ้อโกง คือเอาดัดแปลงมาตรวัดระยะทาง พูดด้วยวาจา ลายลักษณ์อักษร ฯลฯ อันเป็นความเท็จและเป็นการปกปิดข้อความจริง หลอกลวงให้ซื้อรถยนต์
2 ฟ้องคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาเรียกค่าสินไหมทดแทนต่างๆ รวมถึงค่าทนายความ
คดีอาญาฟ้อง บริษัทรถ(ศูนย์รถ)เป็นจำเลยที่ 1 (เฉพาะคดีปลอมเอกสารกับฉ้อโกง) ผู้จัดการเป็นจำเลยที่ 2 เซลล์เป็นจำเลยที่ 3 และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด
ส่วนคดีแพ่งฟ้องทั้งหมดเลย
ที่ต้องดำเนินคดีขนาดนี้ ก็เพราะเป็นเรื่องของความจริง เป็นเรื่องการทำความผิดที่อันตรายถึงชีวิต ไม่ควรอลุ่มอล่วยกัน
ให้เกิดเป็นบรรทัดฐานของสังคมนี้ เราชาวพันทิปควรจะช่วยกัน
ถ้าการบังคับใช้กฎหมาย(ซึ่งกฎหมายที่มีดีอยู่แล้ว)เป็นไปอย่างจริงจังผมว่าสังคมจะอยู่ง่ายขึ้น
นักกฎหมายท่านอื่นช่วยกันได้ครับ