5 ปีที่ผ่านไป ( นี่้เราโง่มากขนาดนี้เลยเหรอ )

กระทู้สนทนา
อีกไม่กี่วันมันก็จะถึงจุดเปลี่ยนในชีวิตของเราอีกครั้ง....
เรา...กำลังจะหย่าขาดจากพ่อของลูกเรา
เราเลือกที่จะออกไปจากชีวิตเค้าเอง...เพราะตลอด 5 ปีที่ผ่านมา
เค้าแสดงให้เราเห็นแล้วว่า...เค้าไม่สามารถเปลี่ยนได้
ยังโกหก หลอกลวงเรา มีปัญหาเรื่องผู้หญิงเข้ามาตลอดเหมือนเดิม
เพราะสิ่งที่เราเรียกว่าความรักนั้น....มันไม่ถูกต้องและผิดพลาดตั้งแต่แรกแล้ว
เราเริ่มต้นคบกะเค้า ทั้งๆที่เพื่อนๆไม่มีใครเห็นด้วยกับเราเลยที่เราไปคบกับเค้า
ผู้ชายคนนั้น คนที่เรียกได้ว่าแทบไม่มีอนาคต โดนไทร์จากมหาวิทยาลัย ติดพนันบอล
กินเหล้า เจ้าชู้ และในตอนนั้นเค้าก็ได้สัญญากับเราว่า เค้าจะปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น ซึ่งเราก็เชื่อเค้า
( มันเป็นความคิดที่โง่มากที่ไปเชื่อได้ไงวะ )
ในตอนนั้นเราช่วยเค้าทุกอย่าง โดยในความคิดของเรา เราคิดแค่ว่าคนรักกันมันต้อง
ช่วยเหลือกันอยู่แล้ว...
และเราได้แอบไปจดทะเบียนสมรสกับเค้าโดยที่พ่อกับแม่เราไม่รู้
จนในที่สุด ปลายปี 2552 เรามีลูกกะเค้า เราท้องก่อนแต่งงาน ตอนที่จัดงานแต่งงานเราท้องได้หกเดือน
พอท้องได้เจ็ดเดือนเราโดนเค้าทำร้ายร่างกายครั้งแรก เราโดนเค้าตบตีด้วยสาเหตุเพียงเพราะว่า เราห้ามไม่ให้เค้าไปเตะบอล เพราะอยากให้เค้าอยู่กับเราตลอด ( แต่ตอนนั้นเราคิดเข้าข้างเค้าว่า เราไปยั่วโมโหเค้าก่อน )
หลังจากนั้น เราคลอดน้องหมอกได้เจ็ดเดือน เราก็จบได้ว่าเค้าไปมีเมียน้อยเป็นนักศึกษาแพทย์ ที่มหาวิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่ง
เรื่องนั้นก็จบไป พอเค้าเรียนจบได้ทำงาน ก็มีเรื่องผู้หญิงอีก ทีนี้เป็นผู้หญิงที่ทำงานในออฟฟิศเดียวกัน และล่าสุดที่เราจับได้ เป็นเด็กเสิร์ฟร้านอาหารกึ่งผับ( ที่มีศัพท์เรียกให้ดูดีว่า PR ) เป็นคนลาวมาทำงานที่ไทย นี่เป็นเหตุการณ์คร่าวๆ ที่ทำให้เราตัดสินใจเลิกกับเค้า
ส่วนสาเหตุที่เลิกกับเค้าจริงๆ คือ
1. เค้าโกหก กะล่อน หลอกลวงเราทุกอย่าง ขนาดมีหลักฐานที่แสดงออกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นรูปถ่ายลาวคนนั้นในรถเราที่ให้เค้าเอาไปใช้ รูปถ่ายผู้หญิงคนนั้นที่ใส่เสื้อผ้าของเค้า
2. เรื่องเงิน แม้เค้าจะทำงานมาเกือบสามปีแล้ว แต่มีแค่สองสามเดือนเท่านั้นที่ส่งเงินมาให้เราและลูก ในขณะที่มันมีเงินไปซื้อหมามาเลี้ยงกับลาวนั้น มีเงินซื้อ i phone เครื่องละ 20000 กว่าบาท มีเงินซื้อแว่นเรย์แบนด์ 5000 - 6000 แต่มันบอกไม่มีเงินส่งมาให้ลูกให้เมีย
3. ที่เรารับไม่ได้ที่สุดคือ มันพูดไม่ดีกับแม่เรา ไม่ให้ความเคารพครอบครัวเรา ทั้งที่ครอบครัวเราดีกับมันทุกอย่างรักเหมือนลูกคนนึง แม่เราซื้อโน้ตบุคให้เค้า ส่งมันเรียนจนจบปริญญาตรี มันไปทำงาน มันบอกว่าไปทำงานลำบาก ต้องออกไปดูงานและจะได้กลับบ้านบ่อยๆ ก็ให้เค้าเอารถไปใช้  แต่พอเอารถไปใช้เค้าขับรถไปเกิดอุบัติเหตุก็โทรมาขอเงินที่บ้านเราไปซ่อม มันไปดูงานกับบริษัทที่ฮ่องกงก็ขอเงินพ่อเราไป พ่อก็ให้ไป
4. เราโดนทำร้ายร่างกายอย่างที่บอกไว้ ครั้งแรกตอนเราท้องได้เจ็ดเดือน ครั้งที่สองทะเลาะกันแล้วเราไปรีสโตร์โทรศัพท์มัน เค้าตบตีเรา จิกหัวเรา กระชากผมเรา ด่าเราในรถตั้งแต่จากกรุงเทพไปจนถึงชลบุรี ครั้งที่สามและสี่ตอนไปบ้านมัน แต่ตอนนั้นเราไม่โดนทำอะไรมาก เพราะมีคนมาห้ามไว้ก่อน

ปล.เราก็ไม่ได้คิดว่าตัวเราดีเป็นนางฟ้า เทพธิดามาจากไหน เราก็มีทั้งส่วนดีที่ไม่ดี เคยทำผิดพลาด แต่เมื่อผิดพลาดแล้วก็ควรจะแก้ไข ทำให้มันดีขึ้น ไม่ใช่ผิดซ้ำๆอยู่เหมือนเดิม

ปล.2 บางคนอาจจะคิดว่า เฮ่ย มาโพสต์ประจานตัวเองทำไมวะเรื่องแบบนี้มันเรื่องส่วนตัว เรื่องครอบครัวจะมาสาวไส้ให้กากินทำไม ก็อยากจะบอกว่า เรื่องของเราอาจจะมีประโยชน์บ้าง เป็นอุทาหรณ์ได้ ไว้เตือนใจ เป็นข้อคิด

ปล.3 อยากจะบอกกับทุกคนว่า เวลาคุณจะคบกับใครจะจริงจังหรือแต่งงานกับใคร ควรดูพื้นฐานครอบครัวของเค้าด้วยว่าเค้าถูกเลี้ยงดูมาแบบไหน พื้นฐานใกล้เคียงกับที่ครอบครัวเราเหรอเปล่า มีภาพที่ดีของพ่อหรือเปล่า ซึ่งส่วนนี้ ตัวเราคิดว่าสำคัญมาก สำหรับเด็กผู้ชายที่จะโตขึ้นมาเป็นผู้ชายที่ดีในอนาคต

ปล.4 ผู้ชายเจ้าชู้ไม่สามารถเลิกเจ้าชู้ได้ ถ้าคิดว่าเค้าจะหยุดที่เรานั้น คิดผิดอย่างมาก และคนโกหกจนเป็นสันดานก็ไม่สามารถเลิกโกหกได้
และสุดท้าย ผู้ชายที่เกิดมาในครอบครัวที่มีประวัติทำร้ายร่างกายกันในครอบครัวพ่อตีแม่ มีแนวโน้มมากว่าโตขึ้นมาจะชอบใช้กำลังกับผู้หญิง

สุดท้าย ครอบครัวเราสำคัญที่สุด ผู้ชายที่รักเรามากที่สุดคือ พ่อ นั่นเอง ^ ^

แก้ไขเอาชื่อมหาวิทยาลัยออกค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่