พรายเสน่หา บทที่ 4

กระทู้สนทนา
ขออภัยที่หายไปนาน พอดีติดสอบอ่ะจ่ะ อันนี้ลิงค์ตอนเก่าๆ นะจ๊ะ

พรายเสน่หา บทนำ และ บทที่ 1  http://ppantip.com/topic/30419026
พรายเสน่หา บทที่ 2  http://ppantip.com/topic/30420413
พรายเสน่หา บทที่ 3  http://ppantip.com/topic/30422658

ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะจ๊ะ ไว้ขอรวบรวบตอบทุกความคิดเห็นในบทที่ 5 นะจ๊ะ






บทที่ 4






    “ของแฟนคุณน่ะเอง”

    ...

    ฉันไม่ได้ตอบด้วยถ้อยคำ เพียงแต่พยักหน้าช้าๆ โดยไม่ได้หันไปสบตา

    “แล้วเขาก็เป็นเพื่อนผมอีกด้วย?”

    อันนี้ฉันไม่แน่ใจ เลยต้องนิ่งคิด เพื่อเรียบเรียงคำพูด

    “ก็... ไม่ค่อยแน่ใจระบบของพวกคุณที่เดอะพราย ฉันเข้าใจว่าที่นั่นคุณเป็นผู้บัญชาการสมาคมอะไรนั่น ซึ่งอรัญก็ต้องสังกัดอยู่ด้วย ไม่ใช่หรือคะ”

    ฉันหวีผมที่เริ่มแห้งต่อไปจนเข้ารูปดีแล้ว ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับตัวเองในกระจก เห็นชัดว่ามันไตรกำลังมองตาม นี่เป็นการตอกย้ำความเข้าใจของตัวฉันเองไม่รู้ครั้งที่เท่าไหร่แล้วว่า พวกพรายมิใช่ภูตผี ถ้าจะใช้ทฤษฎีที่ว่าภูตผีไม่มีเงาในกระจกน่ะนะ

    โดยเฉพาะกับชายหนุ่มหรือพรายหนุ่มตนที่กำลังจ้องมองเรือนร่างด้านหลังของฉันอยู่นี้ หากมีกระจกสักร้อยบานส่งสะท้อนร่างของเขาในทุกมุม ฉันก็คงหัวใจวายตายไปแล้วตั้งหลายครั้ง... เพราะความทรงเสน่ห์นั่นละ

    ดูเถอะ เสื้อคลุมที่ไม่ยาวเลยสะโพกบนนั้น ทำให้ฉันต้องลอบกลืนน้ำลายอย่างยากเย็น กับความยั่วยวนที่พ้นโผล่อย่างหมิ่นเหม่

    “คุณ... แววตาคุณบอกว่ากำลังสับสน เหมือนอยากได้อะไรสักอย่าง”

    ...สติไงยะ! เพื่อหักห้ามใจไม่ให้กระโจนใส่คุณไงล่ะ...

    “เปล่า...”

    ฉันตอบตรงข้ามกับความคิด

    “...พวกที่เดอะพรายคงใกล้จะมาถึง กางเกงคุณคงแห้งดีแล้ว ส่วนเสื้อ รออีกสักประเดี๋ยวพี่สิทธาก็คงจะซื้อมาให้”

    “พวกเดอะพราย?”

    “ก็เพื่อนๆ ที่ทำงานคุณไงล่ะ พิชาคงเป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของคุณ แต่กับจอหน์ ฉันไม่แน่ใจ”

    “ปาลิน ผมน่ะหรือที่ทำงานที่เดอะพราย... เดี๋ยวนะ... แล้วพิชา? ใคร?...”

    การได้พูดจากับพรายหนุ่มรูปหล่อกับเด็กชายความจำสั้นนี้ ไม่ต่างกันตรงที่ความน่ารำคาญนี่ละ เหมือนว่าเขาจะฟังไม่เข้าใจ และแม้ฉันจะเริ่มอธิบายเลยไปถึง ตัวเขานั่นละเป็นถึงเจ้าของเดอะพราย ซึ่งเป็นธุรกิจที่กำลังประสบความสำเร็จแบบรุ่งโรจน์โชติช่วง แต่ก็พูดได้แค่นั้น เพราะฉันก็ไม่ได้รู้รายละเอียดอะไรมากนัก

    “ข้อมูลของคุณ เหมือนหาได้จากคนที่อ่านหน้าโฆษณาทั่วไป”

    ความแหลมคมกระมัง ที่ยังไม่เสื่อมไปกับความทรงจำของมันไตร

    “ก็แค่ครั้งเดียวนี่คะ ตอนที่อรัญพาไปที่นั่น แล้วพอแฟน... อ้อ... พออดีตแฟนฉันหันไปทางอื่น คุณก็... กำลังจะบังคับให้ฉัน...”

    ปั๊ดโธ่! ฉันตบปากตัวเองด้วยความโมโห เพราะไม่รู้จะรื้อฟื้นเรื่องนั้นขึ้นมาทำไม

    “ผมน่ะรึ มีสิทธิ์จะไปบังคับอะไรใครได้... ผมขอยืมหวีนั่นหน่อยได้ไหม”

    เขาปรายตาไปทางหวีที่ฉันเพิ่งวางไว้เมื่อกี้

    “ได้ ได้สิคะ”

    ฉันรีบตอบคำถามหลัง โดยไม่สนใจคำถามแรก หลังจากส่งหวีแปรงให้ พรายหนุ่มก็เริ่มใช้มัน...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่