ขอเกริ่นเรื่องตั้งแต่ปี 2540 ก่อนเลยนะคะ แต่เริ่มทีเดียวบ้านเราหลังนี้พ่อกับแม่ซื้อตามคำแนะนำของเพื่อน
หวังว่าจะเป็นบ้านหลังแรกที่ซื้อจากน้ำพักน้ำแรง
วันที่ทำสัญญา พ่อเราได้ทำ สัญญาจะซื้อจะขาย โดยวางเงินดาวน์ไป 10,000บาท และมัดจำ 50,000 กับ นาย อ. เจ้าของโครงการ
ราคาบ้านทาวเฮ้าส์หลังนี้ราคา 1,040,000 บาท ยังก่อสร้างไม่เสร็จ ตอนนั้นเรายังเด็กอยู่ไม่รู้ว่าพ่อกับแม่กำลังจะถูกเจ้าของโครงการหลอก เนื่องจากในโครงการนี้มีทาวเฮ้าส์ที่สร้างเสร็จและมีผู้เข้าอยู่บ้างแล้วรวมทั้งไม่มีปัญหาในการโอนโฉนด ดังนั้นพ่อเราจึงวางใจ
ระหว่างการก่อสร้าง ผู้รับเหมาไม่สามารถดำเนินงานให้เสร็จได้ เนื่องจาก นาย อ. ไม่จ่ายค่าแรง ดังนั้นพ่อเราจึงโทรไปไถ่ถาม
นาย อ.บอกว่าให้พ่อเราจ่ายค่าแรงและค่าสิ่งก่อสร้างไปก่อนแล้วค่อยมาเบิกจ่ายทีหลัง รวมเบ็ดเสร็จกว่าบ้านจะเสร็จปาเข้าไปเกือบ 3 แสน
หลังจากบ้านเราสร้างเสร็จ ก็มีปัญหาในการโอนโฉนดคือไม่สามารถโอนได้ และเราสังเกตว่าบ้านหลังอื่นก็พบปัญหาเช่นกัน
มีบ้านหลายหลังที่ยังสร้างไม่เสร็จ และ บางหลังที่สร้างเสร็จก็พบปัญหาโอนโฉนดเช่นเดียวกับบ้านเรา
หลังจากนั้นบ้านเราก็ย้ายเข้ามาอยู่ และพยายามติดต่อ นาย อ. แต่ปรากฏว่านาย อ.นั้นหนีไป จนสุดท้ายได้ข่าวว่านาย อ.นั้นถูกฟ้องล้มละลาย(หลอกเค้าไว้หลายโครงการในละแวกเดียวกัน)
จากนั้นบ้านในโครงการนี้ (เฉพาะหลังที่ยังไม่ได้โอน)ก็ตกเป็นทรัพย์สินของธนาคาร เราก็เข้าใจว่าส่วนที่เหลือที่เราจะต้องผ่อนต่ออีก 9แสนกว่านั้น เราสามารถผ่อนต่อกับธนาคารได้ แต่ก็ไม่มีวี่แววการติดต่อใดๆ ซึ่งขั้นตอนตรงนั้นเราไม่ทราบว่าจะต้องติดต่อใครหรือจะสามารถทำอย่างไรได้บ้าง (ตอนนั้นอยู่ประมาณ ม.ต้นค่ะ) พ่อกับแม่ก็ไม่เคยซื้อบ้านมาก่อน เป็นคน ตจว. ก็เลยอยู่มาเรื่อยๆ จน ปัจจุบัน (ต่อ)
บ้านกำลังจะถูกยึด ขอคำแนะนำหน่อยค่ะ
หวังว่าจะเป็นบ้านหลังแรกที่ซื้อจากน้ำพักน้ำแรง
วันที่ทำสัญญา พ่อเราได้ทำ สัญญาจะซื้อจะขาย โดยวางเงินดาวน์ไป 10,000บาท และมัดจำ 50,000 กับ นาย อ. เจ้าของโครงการ
ราคาบ้านทาวเฮ้าส์หลังนี้ราคา 1,040,000 บาท ยังก่อสร้างไม่เสร็จ ตอนนั้นเรายังเด็กอยู่ไม่รู้ว่าพ่อกับแม่กำลังจะถูกเจ้าของโครงการหลอก เนื่องจากในโครงการนี้มีทาวเฮ้าส์ที่สร้างเสร็จและมีผู้เข้าอยู่บ้างแล้วรวมทั้งไม่มีปัญหาในการโอนโฉนด ดังนั้นพ่อเราจึงวางใจ
ระหว่างการก่อสร้าง ผู้รับเหมาไม่สามารถดำเนินงานให้เสร็จได้ เนื่องจาก นาย อ. ไม่จ่ายค่าแรง ดังนั้นพ่อเราจึงโทรไปไถ่ถาม
นาย อ.บอกว่าให้พ่อเราจ่ายค่าแรงและค่าสิ่งก่อสร้างไปก่อนแล้วค่อยมาเบิกจ่ายทีหลัง รวมเบ็ดเสร็จกว่าบ้านจะเสร็จปาเข้าไปเกือบ 3 แสน
หลังจากบ้านเราสร้างเสร็จ ก็มีปัญหาในการโอนโฉนดคือไม่สามารถโอนได้ และเราสังเกตว่าบ้านหลังอื่นก็พบปัญหาเช่นกัน
มีบ้านหลายหลังที่ยังสร้างไม่เสร็จ และ บางหลังที่สร้างเสร็จก็พบปัญหาโอนโฉนดเช่นเดียวกับบ้านเรา
หลังจากนั้นบ้านเราก็ย้ายเข้ามาอยู่ และพยายามติดต่อ นาย อ. แต่ปรากฏว่านาย อ.นั้นหนีไป จนสุดท้ายได้ข่าวว่านาย อ.นั้นถูกฟ้องล้มละลาย(หลอกเค้าไว้หลายโครงการในละแวกเดียวกัน)
จากนั้นบ้านในโครงการนี้ (เฉพาะหลังที่ยังไม่ได้โอน)ก็ตกเป็นทรัพย์สินของธนาคาร เราก็เข้าใจว่าส่วนที่เหลือที่เราจะต้องผ่อนต่ออีก 9แสนกว่านั้น เราสามารถผ่อนต่อกับธนาคารได้ แต่ก็ไม่มีวี่แววการติดต่อใดๆ ซึ่งขั้นตอนตรงนั้นเราไม่ทราบว่าจะต้องติดต่อใครหรือจะสามารถทำอย่างไรได้บ้าง (ตอนนั้นอยู่ประมาณ ม.ต้นค่ะ) พ่อกับแม่ก็ไม่เคยซื้อบ้านมาก่อน เป็นคน ตจว. ก็เลยอยู่มาเรื่อยๆ จน ปัจจุบัน (ต่อ)