สืบเนื่องจาก อ.มานพ แย้มอุทัย อดีตอาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของไทย ได้ออกมาแสดงภูมิปัญญาอันมหาศาล สอบถามปัญหาชาวเน็ตเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี เพื่อชิงรางวัล 1 ล้านจากโออิชิ ของนายตัน ผ่านหน้าเพจเฟสบุคส่วนตัวของอาจารย์...
ทั้งนี้ อาจารย์มานพได้ใช้ถ้อยคำที่แสนสุภาพอย่างหาที่สุดมิได้ จนชาวเน็ตสุดทึ่งคาดไปไม่ถึงว่าเมืองไทย จะมีอาจารย์ระดับมหาวิทยาลัยที่ทรงปัญญาเช่นนี้อยู่อีก ทำให้ชาวเน็ตต่างเพิ่มจำนวนแวะเวียนเข้าไปเยี่ยมเยียนทักทายและให้กำลังใจอาจารย์ในเพจอย่างมิขาดสาย...
ยิ่งตะลึงหนักขึ้นไป เมื่อเข้าไปในเพจส่วนตัวของอาจารย์ เพราะในเพจเต็มไปด้วยเนื้อหาสาระทางธรรมะ แสดงถึงความหมกมุ่นในทางธรรมอย่างลึกซึ้ง มีธรรมนำหน้า อันถือเป็น “คลังปัญญา”เป็นเพจที่เหมาะแก่การแสวงหาความรู้ของผู้ใหญ่(เด็กต่ำกว่า 18 ห้ามเข้า)ซึ่งอาจารย์ได้เสียสละเวลาเอามาโพสท์อย่างบรรจง เพื่อประโยชน์ต่อสังคมไทยโดยแท้...
อีกทั้งอาจารย์ ได้เมตตาขายกาแฟบำรุงธรรมะ
ยี่ห้อ “เช็คอิน” ซึ่งสรรพคุณนั้นอาจารย์บรรยายไว้ว่า หากใครกินแล้ว คุณธรรมความดีทั้งหลาย จะเดือดพล่านกระจุยกระจาย จะมีคุณธรรมความดี
“แข็งโป๊ก” จนถุงยางคือเหล่ามารร้ายไม่เหลือแน่ ต้องตายเพราะเช็คอิน ดังภาพ...
ดังนั้นเอง ชาวเน็ตทั้งหลาย จึงรุมแห่เข้าไปให้กำลังใจอาจารย์ในเพจดังกล่าวเป็นจำนวนมาก เพื่อให้อาจารย์ได้อยู่ต่อสู้กับความชั่วร้าย ยืนหยัดในคุณธรรมความดี คู่กาแฟบำรุงธรรมะ เป็นตัวอย่างของอาจารย์ในมหาวิทยาลัย จนเพจของอาจารย์เกือบล่ม
ตัวอย่างกำลังใจ...
แต่ความที่อาจารย์เป็นคนสมถะ ไม่อยากเด่นดัง เมื่อเห็นกำลังใจที่ท่วมท้น หลั่งไหลมาทั่วทุกสาระทิศ จึงเกิดความเบื่อหน่าย เอือมระอากับคำสรรเสริญเยินยอเหล่านั้น จึงออกมาขอบคุณด้วยนัยยะแห่งธรรม
ตัวอย่างคำขอบคุณของอาจารย์ ...
คำว่า
“เหอ เหอ เหอ” มีความหมายว่า
“พระ คุ้ม ครอง” จากนั้น อาจารย์จึงปิดเพจหนีความวุ่นวายนั้น เมื่อเวลาประมาณ 5 ทุ่มของคืนวันที่ 6 พค.
เพจที่อาจารย์ปิดหนี...
https://www.facebook.com/Manop.Yaemutai#!/Manop.Yaemutai
ข่าวนี้ ทำเอาชาวเน็ตต่างสุดเศร้า ที่หลายคนยังมิได้เข้าไปให้กำลังใจอาจารย์ หมดโอกาสเข้าไปแสวงหาแหล่งธรรมะอันสูงค่า ตัวอย่างความเศร้าของชาวเน็ต...
แต่ด้วยความอุตสาห์วิริยะของชาวเน็ต ในยุคที่ต้องการคุณธรรมความดี เชิดชูคนดีเพื่อให้อยู่คู่สังคมไทยต่อไป จึงสามารถค้นหาเฟสบุคของอาจารย์จนพบ อีกครั้ง นี่คือเฟสของอาจารย์...
https://www.facebook.com/myaemutai?ref=ts&fref=ts
จากคุณธรรมและความดีอันสูงส่งของอาจารย์นี่เอง เป็นผลให้อาจารย์ได้รับแต่งตั้งให้เป็น “คณะอนุกรรมาธิการ พิจารณา ศึกษา ติดตาม และตรวจสอบการดำเนินงานด้านสิทธิและเสรีภาพ” ประจำวุฒิสภา เคียงคู่ไปกับ สว.ผู้รักชาติอย่างท่านประสาร มฤคพิทักษ์ และท่านสมชาย แสวงกาม..เอ๊ยแสวงการ อย่างสง่างามยิ่ง ดังภาพ
เพชรย่อมเป็นเพชรวันยังค่ำ แม้อาจารย์จะเกษียณไปแล้ว แต่อาจารย์ก็สามารถทำให้สถาบันที่เคยสอนอยู่ หรือสถาบันที่เกี่ยวของกับอาจารย์มีชื่อเสียงโด่งดัง เพราะความสามารถของอาจารย์ล้วนๆ ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้จริงๆ นี่แหละ อ.มานพ แย้มอุทัย
บอกกล่าวไว้ในที่นี้ คนดีอย่างอาจารย์ ไม่ว่าจะอยู่ ณ ที่แห่งใด พวกเราจะตามไปให้กำลังใจ เพื่อสังคมไทย จะได้มีคนดีอย่างนี้อยู่คู่ต่อไป ตราบนิรันดร์เทอญ....สาธุ !!!
...ชาวเน็ตเศร้า อ.มานพปิดเพจหนี เพราะรับกำลังใจที่หลั่งไหลมาอย่างท่วมท้นไม่ไหว...
ทั้งนี้ อาจารย์มานพได้ใช้ถ้อยคำที่แสนสุภาพอย่างหาที่สุดมิได้ จนชาวเน็ตสุดทึ่งคาดไปไม่ถึงว่าเมืองไทย จะมีอาจารย์ระดับมหาวิทยาลัยที่ทรงปัญญาเช่นนี้อยู่อีก ทำให้ชาวเน็ตต่างเพิ่มจำนวนแวะเวียนเข้าไปเยี่ยมเยียนทักทายและให้กำลังใจอาจารย์ในเพจอย่างมิขาดสาย...
ยิ่งตะลึงหนักขึ้นไป เมื่อเข้าไปในเพจส่วนตัวของอาจารย์ เพราะในเพจเต็มไปด้วยเนื้อหาสาระทางธรรมะ แสดงถึงความหมกมุ่นในทางธรรมอย่างลึกซึ้ง มีธรรมนำหน้า อันถือเป็น “คลังปัญญา”เป็นเพจที่เหมาะแก่การแสวงหาความรู้ของผู้ใหญ่(เด็กต่ำกว่า 18 ห้ามเข้า)ซึ่งอาจารย์ได้เสียสละเวลาเอามาโพสท์อย่างบรรจง เพื่อประโยชน์ต่อสังคมไทยโดยแท้...
อีกทั้งอาจารย์ ได้เมตตาขายกาแฟบำรุงธรรมะ ยี่ห้อ “เช็คอิน” ซึ่งสรรพคุณนั้นอาจารย์บรรยายไว้ว่า หากใครกินแล้ว คุณธรรมความดีทั้งหลาย จะเดือดพล่านกระจุยกระจาย จะมีคุณธรรมความดี“แข็งโป๊ก” จนถุงยางคือเหล่ามารร้ายไม่เหลือแน่ ต้องตายเพราะเช็คอิน ดังภาพ...
ดังนั้นเอง ชาวเน็ตทั้งหลาย จึงรุมแห่เข้าไปให้กำลังใจอาจารย์ในเพจดังกล่าวเป็นจำนวนมาก เพื่อให้อาจารย์ได้อยู่ต่อสู้กับความชั่วร้าย ยืนหยัดในคุณธรรมความดี คู่กาแฟบำรุงธรรมะ เป็นตัวอย่างของอาจารย์ในมหาวิทยาลัย จนเพจของอาจารย์เกือบล่ม
ตัวอย่างกำลังใจ...
แต่ความที่อาจารย์เป็นคนสมถะ ไม่อยากเด่นดัง เมื่อเห็นกำลังใจที่ท่วมท้น หลั่งไหลมาทั่วทุกสาระทิศ จึงเกิดความเบื่อหน่าย เอือมระอากับคำสรรเสริญเยินยอเหล่านั้น จึงออกมาขอบคุณด้วยนัยยะแห่งธรรม
ตัวอย่างคำขอบคุณของอาจารย์ ...
คำว่า “เหอ เหอ เหอ” มีความหมายว่า “พระ คุ้ม ครอง” จากนั้น อาจารย์จึงปิดเพจหนีความวุ่นวายนั้น เมื่อเวลาประมาณ 5 ทุ่มของคืนวันที่ 6 พค.
เพจที่อาจารย์ปิดหนี...
https://www.facebook.com/Manop.Yaemutai#!/Manop.Yaemutai
ข่าวนี้ ทำเอาชาวเน็ตต่างสุดเศร้า ที่หลายคนยังมิได้เข้าไปให้กำลังใจอาจารย์ หมดโอกาสเข้าไปแสวงหาแหล่งธรรมะอันสูงค่า ตัวอย่างความเศร้าของชาวเน็ต...
แต่ด้วยความอุตสาห์วิริยะของชาวเน็ต ในยุคที่ต้องการคุณธรรมความดี เชิดชูคนดีเพื่อให้อยู่คู่สังคมไทยต่อไป จึงสามารถค้นหาเฟสบุคของอาจารย์จนพบ อีกครั้ง นี่คือเฟสของอาจารย์...
https://www.facebook.com/myaemutai?ref=ts&fref=ts
จากคุณธรรมและความดีอันสูงส่งของอาจารย์นี่เอง เป็นผลให้อาจารย์ได้รับแต่งตั้งให้เป็น “คณะอนุกรรมาธิการ พิจารณา ศึกษา ติดตาม และตรวจสอบการดำเนินงานด้านสิทธิและเสรีภาพ” ประจำวุฒิสภา เคียงคู่ไปกับ สว.ผู้รักชาติอย่างท่านประสาร มฤคพิทักษ์ และท่านสมชาย แสวงกาม..เอ๊ยแสวงการ อย่างสง่างามยิ่ง ดังภาพ
เพชรย่อมเป็นเพชรวันยังค่ำ แม้อาจารย์จะเกษียณไปแล้ว แต่อาจารย์ก็สามารถทำให้สถาบันที่เคยสอนอยู่ หรือสถาบันที่เกี่ยวของกับอาจารย์มีชื่อเสียงโด่งดัง เพราะความสามารถของอาจารย์ล้วนๆ ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้จริงๆ นี่แหละ อ.มานพ แย้มอุทัย
บอกกล่าวไว้ในที่นี้ คนดีอย่างอาจารย์ ไม่ว่าจะอยู่ ณ ที่แห่งใด พวกเราจะตามไปให้กำลังใจ เพื่อสังคมไทย จะได้มีคนดีอย่างนี้อยู่คู่ต่อไป ตราบนิรันดร์เทอญ....สาธุ !!!