ความสงสัยในพระรัตนตรัยและความย้อนแย้งของหลักธรรม

เกริ่นไว้ก่อนนะครับว่า ไม่มีเจตนาที่จะสร้างความแตกแยกอะไรทั้งสิ้น ที่ตั้งกระทู้เป็นเพราะความสงสัยส่วนตัวล้วน ๆ ครับ
อ้างอิงจาก http://www.larnbuddhism.com/grammathan/sangyot.html ครับ

สังโยชน์ 10 ในข้อ วิจิกิจฉา ในเว็บนี้ได้อธิบายไว้ว่า
"วิจิกิจฉา แปลว่า สงสัย คือสงสัยในความดีของพระพุทธเจ้า สงสัยในความดีของพระธรรมคำสั่งสอน สงสัยในความดีของพระอริยสงฆ์ สงสัยว่า พระพุทธเจ้ามีจริงหรือไม่ เมื่อสงสัยเข้าก็ไม่เชื่อ ถ้ามีอารมณ์อย่างนี้ ต้องลงอบายภูมิ
เพราะฉะนั้นจงอย่ามีในใจ ใช้ปัญญาพิจารณานิดเดียว ก็จะเข้าใจว่า พระพุทธเจ้าพูดถูก พูดจริง ยอมรับนับถือคำสั่งสอนของพระองค์"

เมื่อเป็นเช่นนี้ สมมติมีคนดีคนหนึ่งที่ไม่เคยทำชั่วอะไรเลย แต่เขาเพียงแค่สงสัยว่าพระพุทธเจ้ามีจริงหรือเปล่า พระไตรปิฎกเป็นคำสอนของพระพุทธองค์หรือเปล่า เพียงแค่นี้ทำให้เขาต้องลงอบายภูมิเลยหรือครับ ความดีที่เขาทำไม่สามารถช่วยอะไรได้เลยหรือครับ

มันจะย้อนแย้งกับหลักกาลามสูตรในข้อ "อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างคัมภีร์หรือตำรา" และ "อย่าเพิ่งเชื่อว่าผู้พูดนั้นเป็นครูของเรา" ไหมครับ
หรือว่านี่เป็นข้อยกเว้น

ผมพอเข้าใจว่า ในเว็บที่อ้างอิงได้บอกไว้ว่า "ให้ใช้ปัญญาพิจารณา ก็จะเข้าใจว่า พระพุทธเจ้าพูดถูก พูดจริง ยอมรับนับถือคำสั่งสอนของพระองค์" ซึ่งก็ตรงกับหลักกาลามสูตรที่ว่าให้ใช้ปัญญาไตร่ตรองก่อนจะเชื่อ

แล้วปัญญาในที่นี้คืออะไรครับ ปัญญาของวิจิกิจฉากับปัญญาของกาลามสูตรคือปัญญาอันเดียวกันหรือไม่ครับ
ถ้าให้ผมใช้ปัญญาพิจารณาผมคงตอบได้ยากว่า พระพุทธเจ้ามีจริง หรือพระไตรปิฎกเป็นพุทธวจนะของพระพุทธเจ้าหรือไม่ เพราะไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด นอกจากสังเวชนียสถานกับพระไตรปิฎกซึ่งก็ไม่รู้ว่าพุทธสาวกได้แต่งเติมอะไรไปบ้างหรือเปล่า

ด้วยความสงสัยตรงนี้ ผมใช้ปัญญาตรงตามหลักกาลามสูตรหรือไม่ครับ แล้วผมจะต้องลงอบายภูมิหรือเปล่าครับ

ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่