ต่อจากกระทู้ที่แล้ว
http://ppantip.com/topic/30447400
มาต่อให้จบบทเลยครับ
ผมเริ่มมีรอยยิ้มบ้างเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ความสุขที่ผมได้รับแบบนี้คงไม่มีอีกแล้ว เสียงโทรศัพท์มือถือผมดังขึ้น แม่ของผมโทร. มาเอง
“คร้าบแม่ มีไหรเห้อ” ผมส่งเสียงทักทายแม่เป็นภาษาปักษ์ใต้
“ที่วัดเป็นผรือบ้าง จะรดน้ำศพแบงค์ยัง”
“ก็ยังครับแม่ ตอนนี้ยังสถานที่ไม่เสร็จที”
“พ่อกำลังอาบน้ำอยู่ ส่วนแม่แต่งตัวเสร็จแล้ว เดี๋ยวจะออกไปวัดแล้ว”
“แล้วลูกล่ะ เปลี่ยนผ้าเป็นชุดดำยัง คงหม่าได้เปลี่ยนทีช่ายหม้าย? “
“คร้าบ ยังเลย” ผมก้มหน้ามองเสื้อผ้าตนเองที่เป็นยูนิฟอร์มธนาคารสีฟ้า แบงค์มีอาการทรุดหนักหลังจากที่ผมแต่งตัวไปทำงานและเตรียมอาหารเช้าให้เขาและผม ความทรงจำในเหตุการณ์นี้ยังคุกรุ่นอยู่เลย
วันนี้แบงค์ดูสดใสกว่าทุกๆ วันราวกับแสงเทียนสุดท้ายที่โชติช่วงก่อนจะดับมอดลง เขาตื่นเช้ากว่าผมซะอีก เสียงอาบน้ำปลุกให้ผมตื่น ถ้าเขาไม่ได้ป่วยหนักผมก็รับรู้ว่าแบงค์อาบน้ำและหลับต่ออีกนิด แต่เมื่อนึกได้ว่าเขาป่วยหนักอยู่ ผมกระโดดลุกขึ้นจากเตียงไม้สี่เสาประดับผ้ามุ้ง แรงกระโดดอย่างรุนแรงผ้ามุ้งนั้นแทบจะฉีกขาด ผมทะยานตัวไปที่ประตูห้องน้ำทันที
“แบงค์ ทำไรอยู่” ผมตะโกนถามพร้อมทั้งเคาะประตูห้องน้ำดังปังๆๆ
“ผมอาบน้ำอยู่ครับเจฟ” แบงค์ส่งเสียงตอบกลับมา
“แข็งแรงดีแล้วเหรอ? แบงค์”
“ไม่ต้องห่วงหรอกเจฟ ผมแข็งแรงมากขึ้นแล้ว” ฟังจากน้ำเสียงของเขาสดใสกว่าทุกวันที่ผ่านมา ผมวางใจได้เปลาะนึงจึงไปหยิบเสื้อโปโลสีฟ้าที่เป็นเสื้อยูนิฟอร์มของธนาคารและกางเกงแสล็คสีดำมารีดผ้า เสียงอาบน้ำหยุดลง แบงค์เปิดประตู เขานุ่งผ้าเช็ดและมีผ้าเช็ดตัวอีกผืนหนึ่งไว้เช็ดตัว เขาดูสดใสจริงๆ อย่างที่เขาพูด อาการบวมของร่างกายที่เป็นอยู่นั้นแทบจะไม่ปรากฏ วันนี้ผมคงไปทำงานได้อย่างเบาใจ ไมต้องกังวลเป็นห่วงเป็นใย
(Y) น้ำค้างมองพระจันทร์ บทที่ 1.2 ตายแล้ว... ไปไหน? เขียนโดย... กัลปังหา
ต่อจากกระทู้ที่แล้ว
http://ppantip.com/topic/30447400
มาต่อให้จบบทเลยครับ
ผมเริ่มมีรอยยิ้มบ้างเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ความสุขที่ผมได้รับแบบนี้คงไม่มีอีกแล้ว เสียงโทรศัพท์มือถือผมดังขึ้น แม่ของผมโทร. มาเอง
“คร้าบแม่ มีไหรเห้อ” ผมส่งเสียงทักทายแม่เป็นภาษาปักษ์ใต้
“ที่วัดเป็นผรือบ้าง จะรดน้ำศพแบงค์ยัง”
“ก็ยังครับแม่ ตอนนี้ยังสถานที่ไม่เสร็จที”
“พ่อกำลังอาบน้ำอยู่ ส่วนแม่แต่งตัวเสร็จแล้ว เดี๋ยวจะออกไปวัดแล้ว”
“แล้วลูกล่ะ เปลี่ยนผ้าเป็นชุดดำยัง คงหม่าได้เปลี่ยนทีช่ายหม้าย? “
“คร้าบ ยังเลย” ผมก้มหน้ามองเสื้อผ้าตนเองที่เป็นยูนิฟอร์มธนาคารสีฟ้า แบงค์มีอาการทรุดหนักหลังจากที่ผมแต่งตัวไปทำงานและเตรียมอาหารเช้าให้เขาและผม ความทรงจำในเหตุการณ์นี้ยังคุกรุ่นอยู่เลย
วันนี้แบงค์ดูสดใสกว่าทุกๆ วันราวกับแสงเทียนสุดท้ายที่โชติช่วงก่อนจะดับมอดลง เขาตื่นเช้ากว่าผมซะอีก เสียงอาบน้ำปลุกให้ผมตื่น ถ้าเขาไม่ได้ป่วยหนักผมก็รับรู้ว่าแบงค์อาบน้ำและหลับต่ออีกนิด แต่เมื่อนึกได้ว่าเขาป่วยหนักอยู่ ผมกระโดดลุกขึ้นจากเตียงไม้สี่เสาประดับผ้ามุ้ง แรงกระโดดอย่างรุนแรงผ้ามุ้งนั้นแทบจะฉีกขาด ผมทะยานตัวไปที่ประตูห้องน้ำทันที
“แบงค์ ทำไรอยู่” ผมตะโกนถามพร้อมทั้งเคาะประตูห้องน้ำดังปังๆๆ
“ผมอาบน้ำอยู่ครับเจฟ” แบงค์ส่งเสียงตอบกลับมา
“แข็งแรงดีแล้วเหรอ? แบงค์”
“ไม่ต้องห่วงหรอกเจฟ ผมแข็งแรงมากขึ้นแล้ว” ฟังจากน้ำเสียงของเขาสดใสกว่าทุกวันที่ผ่านมา ผมวางใจได้เปลาะนึงจึงไปหยิบเสื้อโปโลสีฟ้าที่เป็นเสื้อยูนิฟอร์มของธนาคารและกางเกงแสล็คสีดำมารีดผ้า เสียงอาบน้ำหยุดลง แบงค์เปิดประตู เขานุ่งผ้าเช็ดและมีผ้าเช็ดตัวอีกผืนหนึ่งไว้เช็ดตัว เขาดูสดใสจริงๆ อย่างที่เขาพูด อาการบวมของร่างกายที่เป็นอยู่นั้นแทบจะไม่ปรากฏ วันนี้ผมคงไปทำงานได้อย่างเบาใจ ไมต้องกังวลเป็นห่วงเป็นใย