กระทู้นิยายบทก่อนๆ
http://ppantip.com/topic/30447400
http://ppantip.com/topic/30448112
http://ppantip.com/topic/30452010
http://ppantip.com/topic/30456248
http://ppantip.com/topic/30461165
“พี่ไม่นอนนะคืนนี้ กลับบ้านไปนอนกับลูกกับเมียดีกว่า พี่นุสะพายเป้ไว้บนหลังพร้อมที่จะกลับบ้านแล้ว “น้ำเก็บของเสร็จยัง คืนนี้เจฟกลับไปนอนที่บ้านชมดาวเถอะ อย่านอนเลย”
“ไม่เป็นไรครับพี่ ถึงผมนอนคนเดียวก็ต้องอยู่ให้ได้ครับ”
“แน่ใจนะเจฟว่าอยู่ได้คนเดียวจริงๆ” พี่น้ำสำทับผม ถามย้ำอีกครั้ง
“ได้สิครับ ไร้สาระน่ะพี่น้ำ ถ้าผมกลัวแบงค์ เขาคงจะไม่ได้ตายในอ้อมกอดผมหรอก” และแล้วทุกคนจากผมให้อยู่คนเดียวในค่ำคืนนี้ ผมปูที่นอนตรงหลังโซฟาสำหรับประธานฝ่ายสงฆ์ ผมหลับไม่ค่อยสนิทเท่าใดนักเพราะมีเสียงกุกกักดังรบกวน ผมคิดว่าเสียงเหล่านี้มีที่มาจากหลายสิ่งหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นระบบการทำงานของโลงเย็น ลมที่พัดกระทบกับประตูเหล็ก สุนัขแมววิ่งไล่ฟัดกัน ถ้าความกลัวมาก่อนเหตุผลผมก็คงนึกถึงผีสางเป็นตัวการสำคัญที่บันดาลให้เกิดเสียงเหล่านั้น
“ผีข้างนอกหลอกหลอนไม่เท่าไหร่หรอกเจฟ แต่ผีข้างในหลอกหลอนน่ากลัวยิ่งกว่า” แบงค์สอนธรรมะผมขณะที่เราสองคนดูรายการเกี่ยวกับผีวิญญาณด้วยกัน
“ผีข้างนอกกับข้างในคืออะไรเหรอ?” มันคงจะเหมือนผีเข้าผีออกกระมัง พูดเสียให้หรูเทียว
“ผีข้างนอกก็คือผีที่เขาไล่ล่ากันในรายการนั่นแหละ บางคนเห็นบางคนสัมผัสได้ แต่ผีข้างในก็คือกิเลสทั้งหลายแหล่ บางคนโดนมันสิงก็ยังไม่รู้ตัว ทำสิ่งชั่วทำสิ่งเลว สุดท้ายผีข้างในก็หลอกหลอนหนักหนาสาหัสจนเอาชีวิตไม่รอด”
“ปิดทีวีเถอะ ในห้องนอนมีผีนะ เราสัมผัสได้”
“จะไปล่าผีผ้าห่มเรอะ ขอโทษนะวันนี้วันพระ งดกิจกรรมทางเพศนะเจฟ ง่วงก็ไปนอนซะ คืนนี้ผมนอนห้องพระ” แบงค์ดักคอผมจนหมดอารมณ์ เราสองจึงต้องแยกย้ายกันนอนคนละห้อง
ความทรงจำของผมกับแบงค์มีทั้งสุขใจและทุกข์ใจ นับจากนี้มีแต่อดีตให้ระลึกถึง มาวันนี้แบงค์นอนในโลง ผมไม่อาจจะนอนเคียงข้างเขาได้ สิ่งที่ผมทำได้คือนอนเฝ้าศพเขา
(Y) น้ำค้างมองพระจันทร์ บทที่ 3.2 บรื๋อ! เขียนโดย... กัลปังหา
กระทู้นิยายบทก่อนๆ
http://ppantip.com/topic/30447400
http://ppantip.com/topic/30448112
http://ppantip.com/topic/30452010
http://ppantip.com/topic/30456248
http://ppantip.com/topic/30461165
“พี่ไม่นอนนะคืนนี้ กลับบ้านไปนอนกับลูกกับเมียดีกว่า พี่นุสะพายเป้ไว้บนหลังพร้อมที่จะกลับบ้านแล้ว “น้ำเก็บของเสร็จยัง คืนนี้เจฟกลับไปนอนที่บ้านชมดาวเถอะ อย่านอนเลย”
“ไม่เป็นไรครับพี่ ถึงผมนอนคนเดียวก็ต้องอยู่ให้ได้ครับ”
“แน่ใจนะเจฟว่าอยู่ได้คนเดียวจริงๆ” พี่น้ำสำทับผม ถามย้ำอีกครั้ง
“ได้สิครับ ไร้สาระน่ะพี่น้ำ ถ้าผมกลัวแบงค์ เขาคงจะไม่ได้ตายในอ้อมกอดผมหรอก” และแล้วทุกคนจากผมให้อยู่คนเดียวในค่ำคืนนี้ ผมปูที่นอนตรงหลังโซฟาสำหรับประธานฝ่ายสงฆ์ ผมหลับไม่ค่อยสนิทเท่าใดนักเพราะมีเสียงกุกกักดังรบกวน ผมคิดว่าเสียงเหล่านี้มีที่มาจากหลายสิ่งหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นระบบการทำงานของโลงเย็น ลมที่พัดกระทบกับประตูเหล็ก สุนัขแมววิ่งไล่ฟัดกัน ถ้าความกลัวมาก่อนเหตุผลผมก็คงนึกถึงผีสางเป็นตัวการสำคัญที่บันดาลให้เกิดเสียงเหล่านั้น
“ผีข้างนอกหลอกหลอนไม่เท่าไหร่หรอกเจฟ แต่ผีข้างในหลอกหลอนน่ากลัวยิ่งกว่า” แบงค์สอนธรรมะผมขณะที่เราสองคนดูรายการเกี่ยวกับผีวิญญาณด้วยกัน
“ผีข้างนอกกับข้างในคืออะไรเหรอ?” มันคงจะเหมือนผีเข้าผีออกกระมัง พูดเสียให้หรูเทียว
“ผีข้างนอกก็คือผีที่เขาไล่ล่ากันในรายการนั่นแหละ บางคนเห็นบางคนสัมผัสได้ แต่ผีข้างในก็คือกิเลสทั้งหลายแหล่ บางคนโดนมันสิงก็ยังไม่รู้ตัว ทำสิ่งชั่วทำสิ่งเลว สุดท้ายผีข้างในก็หลอกหลอนหนักหนาสาหัสจนเอาชีวิตไม่รอด”
“ปิดทีวีเถอะ ในห้องนอนมีผีนะ เราสัมผัสได้”
“จะไปล่าผีผ้าห่มเรอะ ขอโทษนะวันนี้วันพระ งดกิจกรรมทางเพศนะเจฟ ง่วงก็ไปนอนซะ คืนนี้ผมนอนห้องพระ” แบงค์ดักคอผมจนหมดอารมณ์ เราสองจึงต้องแยกย้ายกันนอนคนละห้อง
ความทรงจำของผมกับแบงค์มีทั้งสุขใจและทุกข์ใจ นับจากนี้มีแต่อดีตให้ระลึกถึง มาวันนี้แบงค์นอนในโลง ผมไม่อาจจะนอนเคียงข้างเขาได้ สิ่งที่ผมทำได้คือนอนเฝ้าศพเขา