***เพิ่มเติมล่าสุด****
ผมทำเป็นเอกสารสรุปความเห็นผมทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมา เป็นไฟล์ .pdf สามารถโหลดไปพิจารณากันว่าเชื่อหรือไม่ หรือเอาไปเผยแพร่ต่อไปได้ครับ
https://docs.google.com/file/d/0B3wlOex7DpXLTHQ4Qy1Ya01uc0E/edit?usp=sharing

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

จากกระทู้ http://ppantip.com/topic/30445784/ "เกาะกระแส detox ในเวบนี้ มีภาพด้วย สรุปว่า ดีทอก มันช่วย/ไม่ช่วยอย่างไรบ้างครับ"


ผมตอบไว้ในกระทู้นั้นแล้ว แต่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์เลยเอามาโพสต์ซ้ำอีกที เผื่อใครดูรายการ "คนค้นฅน" ช่วงนี้ แล้วจะยิ่งหลงเชื่อเข้าไปใหญ่ จะได้ชะงัก กลับมาคิดทบทวนกันหน่อย

คลิปจากรายการ คนค้นฅน .... แหว่ะทีเดียวครับ


---------------------------------
คำถาม "จาก http://detoxificationclub.blogspot.com/ ช่วยไขข้อข้องใจที สรุปมันช่วยได้จริงไหม "

คำตอบ : หลอกครับ ตับมีหน้าที่หลายอย่าง ทั้งเก็บสะสมไกลโคเจน สร้างฮอร์โมน สร้างน้ำดี ทำลายสารเคมีต่างๆ ที่เป็นพิษต่อร่างกาย  และสร้างสารอีกหลายตัวที่ใช้เมตาบอลิซึม  ตับอาศัยเส้นเลือดพาสารเข้าและออก

แต่ตับไม่ใช่อวัยวะที่อยู่ในระบบขับถ่าย น้ำมันมะกอกที่กินเข้าไปนั้นไปทางลำไส้ ไม่เกี่ยวกับเส้นเลือดไปตับ สิ่งที่เรากินเข้าไปเช่นน้ำมันมะกอกนั้นไม่สามารถไปยุ่งเกี่ยวกับตับได้ครับ

***สูตรที่เผยแพร่กันอยู่*** โดยนาย ป.
         6:00 – 8:00 น. กินดีเกลือ 1 ช้อนชาผสมน้ำมะนาว 1 ลูก ดื่มน้ำผลไม้ได้เช่นเดียวกับวันพุธ และพฤหัส หยุดดื่ม 15:00 น.
         18:00 น. และ 20:00 น. กินดีเกลือ 1 ช้อนชา ผสมน้ำมะนาว 1 ลูก อีก 2 มื้อ
         22:00 น. ดื่มน้ำมันมะกอกประมาณ 150 – 200 cc ผสมน้ำมะนาว 150 – 200 cc และเกลือป่นครึ่งช้อนชา เขย่าให้เข้ากันให้มากที่สุด ดื่มให้หมดในเวลา 10 นาที (ส่วนใหญ่ 1 นาทีก็หมดแล้ว) แนะนำให้แช่เย็นเล็กน้อย ใส่แก้วใหญ่ๆ ดื่มติดต่อกันให้หมดในคราวเดียว การจิบทีละน้อยมักไม่สำเร็จ (ใช้มะขามเปียกคลุกเกลือป่นมาป้ายลิ้นก่อนและหลังดื่มน้ำมันมะกอกจะช่วยลดความคลื่นไส้ ได้ดี)
        6:00 – 8:00 น. กินดีเกลือ 1 ช้อนชา ผสมน้ำมะนาว 1 ลูก เมื่อถ่ายอุจจาระให้สังเกตอุจจาระที่ถ่ายออกมา (ซึ่งเราเชื่อว่าจากการอดอาหารมาหลายวัน บวกกับการกินดีเกลือ (หรือสวนล้างลำไส้) ด้วย ไม่น่าจะมีอุจจาระตกค้างในสำไส้ของเราอีกแล้ว) ทุกสิ่งที่เราขับถ่ายออกมากน่าจะมาจากระบบท่อน้ำดี ในตับ, นอกตับ และถุงน้ำดี

สิ่งที่พวกเราเคยได้เห็นกันมีทั้งไขมัน, ตะกอนน้ำดี (bile salt) ไปจนถึงนิ่ว (stone) จากถุงน้ำดี ส่วนใหญ่จะมีกลิ่นเหม็น กว่าอุจจาระปกติ ตลอดวันเสาร์ และอาทิตย์ อาจมีการถ่ายอุจจาระอีกหลายครั้งขึ้นอยู่กับการทำงานของลำไส้ในแต่ละคน

***วิธีการหลอก***

ไอ้เม็ดเขียวๆ ที่เห็นออกมาพร้อมกับอึ หลังจากทำ detox แบบนี้ จริงๆ ก็คือก้อน "สบู่" ที่เกิดจากน้ำมันมะกอกนั่นแหล่ะ เกิดขึ้นจากปฏิกิริยาระหว่างเอนไซม์ไลเปสในระบบย่อยอาหารกับไตรเอซีลกรีเซอรอลที่เป็นองค์ประกอบของน้ำมันมะกอก ทำให้เกิดกรดคาร์บอกซีลิกที่เป็นพันธะสายยาว (ส่วนใหญ่เป็น กรดโอเลอิก) กระบวนนี้ถูกกระทำต่อด้วยกระบวนการซาปอนิฟิเคชั่น จนกลายเป็นก้อนไขมันขนาดใหญ่ไม่ละลายน้ำของโพแทสเซียมคาร์บอกซีเลต เนื่องจากน้ำมะนาวมีโพแทสเซียมอยู่ในความเข้มข้นสูง ได้เป็นก้อน "นิ่วสบู่" ไม่ละลายน้ำ ส่วนสีเขียวๆ ก็มาจากน้ำดีนั่นเอง
(saponification คือ ปฏิกิริยาการสร้างสบู่ เมื่อเอาน้ำมันมาผสมกับด่าง แล้วกลายเป็นกรดไขมัน+กรีเซอรีน หรือสบู่นั่นเอง)


(***มีแก้ไข เมื่อ 07-05-2013 เปลี่ยนเรื่อง เบสจากน้ำดี เป็นปฏิกิริยาของโพแทสเซียมคาร์บอกซีเลตข้างต้น ตามเปเปอร์ของนิวซีแลนด์)

ที่นี้ก็ขึ้นกับว่ากินอะไรเสริมเข้าไปอีก เช่น น้ำมะนาว น้ำแอปเปิ้ล หรือสารต่างๆ มันก็จะได้สีแปลกๆ ยิ่งขึ้น ส่วนดีเกลือนั้น เอาไว้เป็นยาระบายให้ออกมาเร็วๆ แล้วรู้สึกสบายตัวสบายท้อง  ร่วมกับการให้ไปอดอาหารซึ่งจะช่วยให้ร่างกายหลั่งเอนดอร์ฟินออกมา หลอกให้เรารู้สึกสบายเข้าไปอีก

ดูรูป "สบู่" ที่สร้างขึ้นจาก "น้ำมันมะกอกผสมน้ำดี" ตรงนี้ แหว่ะหน่อยครับ พึ่งออกมาสดๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

จุดจับผิดที่สำคัญอีกอย่างคือ ไอ้นิ่วสบู่เนี่ย มันลอยน้ำครับ (ถ้านิ่วจริง จะจมน้ำ)
ดูรูปยืนยันได้ แต่แหว่ะมากนะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

จุดจับผิดที่เหลือ ได้แก่
- นิ่วสบู่เนี่ย ทิ้งไว้นานหรือโดนความร้อน มันจะละลายกลายเป็นก้อนน้ำมันเหนียวๆ  .... สำนักพวกนี้ เค้าจะบอกเราให้แช่เย็นไว้ ถ้าอยากเก็บ
- นิ่วสบู่ รูปทรงจะบิดๆ เบี้ยวๆ  ขณะที่นิ่วจริงมักจะกลมเพราะมันเสียดสีกันในอวัยวะนั้น
- นิ่วสบู่จะมันๆ ลื่นๆ นิ่มๆ ขณะที่นิ่วจริงจะแข็งมากๆๆๆ แตกยาก ผิวแห้งๆ ไม่ลื่น
- นิ่วจริงจะเอามีดมาหั่นไม่ได้ง่ายๆ ขณะที่นิ่วสบู่ หั่นได้ ดังรูป ซึ่งจะเห็นเป็นสีเขียว แสงผ่านได้ (นิ่วจริง ต้องทึบแสง)

เปรียบเทียบกับนิ่วจริง เวลาผ่าครึ่ง

อ้อ... อีกอย่าง นิ่วในถุงน้ำดีเนี่ย ขนาดประมาณ 5 มิลครับ ถ้าออกมาขนาด 2 เซน เป็น 10 ลูกอย่างที่ทำกันเนี่ย ถุงน้ำดีตัน หรือ แตกไปนานแล้วครับ  

อันนี้รูปนิ่วจริงในถุงน้ำดีครับ


****เพิ่มเติม*****

เนื่องจากมีหลายท่านที่ดูจะยังไม่ convince จากนักชีวะ ชาวไทย อย่างผมพูด ก็คงจะได้แต่เอาเอกสารของหมอเมืองนอก (นิวซีแลนด์) มาสนับสนุนแล้วกัน ซึ่งได้ตีพิมพ์เผยแพร่แล้วในวารสารที่มีชื่อเสียงตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 ว่า "ก้อนนิ่วที่ว่านั้น เป็นก้อนสบู่"  เผื่อจะพอมีน้ำหนักมากขึ้น
เรื่อง Could these be gallstones? ตีพิมพ์ใน The Lancet, Volume 365, Issue 9468, Page 1388, 16 April 2005
ดูรายละเอียดคำแปลใน http://ppantip.com/topic/30447055/comment84

****เพิ่มเติม 2*****
เรื่องยาสมุนไพรที่เค้าให้เราชงกินด้วยระหว่างทำการล้างพิษนี้ ซึ่งความจริงแล้วในยาสมุนไพรมีผง Psyllium husk ที่เป็นเส้นใยและเมือกสำหรับช่วยระบาย และน่าจะเป็นสาเหตุของ "ตะกัน" หลายๆ แบบที่ออกมาพร้อมกับก้อนนิ่วสบู่นั้นด้วย
ดู http://ppantip.com/topic/30447055/comment120 ครับ

****เพิ่มเติม 3*****
ได้คลิปวิดีโอของหมอฝรั่งที่ช่วยอธิบายว่า การล้างพิษตับให้ได้ก้อนนิ่วออกมานั้นเป็นเรื่อง Fake

Dr. Stokes debunks gall Bladder Flushes. Many people do these gallbladder flushes everyday and believe that the result is a clearing of gall stones out of the body. Unfortunately, this is NOT what is happening here. There is absolutely no release of gall stones from these flushes. Basically you take in oil and some other materials and your body puts them together and makes soap. Yup, basically what you are seeing in your toilet is just soap balls. Really there is no reason to do this. SS

แถมด้วยคลิปข่าวคอร์สล้างพิษตับที่ไต้หวัน ซึ่งหมอออกมายืนยันกันว่าเป็นเรื่องหลอกลวง


***เพิ่มเติม 4 วันที่ 8 พ.ค.***
เพิ่มเติมเนื้อหาเกี่ยวกับการทดลองพิสูจน์ว่า ก้อนสีเขียวที่อ้างว่าเป็นนิ่วในถุงน้ำดี ที่ออกมาจากการล้างพิษตับนั้น แท้จริงแล้วเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นในร่างกายหลังจากที่กินน้ำมันมะกอก+น้ำผลไม้เข้าไป โดยใช้วิธีการย้อมสีแดงลงไปในน้ำมันมะกอกด้วย แล้วพบว่าก้อนที่ออกมานั้นกลายเป็นสีแดง
ดูความเห็นที่ 193 http://ppantip.com/topic/30447055/comment193


***เพิ่มเติม 6 วันที่ 9 พ.ค.***
มาถึงความเห็นที่ 206 นี้ (มาเยอะเกินคาดเฮะ กระทู้ต้นเรื่องยังแค่ 12 ความเห็นเลย)
ผมสรุปว่า
หลังจากวันนี้ไป หลังจากที่ผมได้มาอธิบายถึงความจริงของการเกิด "นิ่วสบู่" หลังจากทำการล้างพิษตับด้วยน้ำมันมะกอกผสมน้ำผลไม้นี้แล้ว

- ถ้าสำนักไหน บ้านไหน องค์กรไหน รายการทีวีไหน ยังบอกว่ามาทำการล้างพิษตับด้วยน้ำมันมะกอกผสมน้ำผลไม้นี้แล้ว จะได้ก้อนสีเขียวๆ นั่นและเศษซากอื่นๆ และวินิจฉัยต่อว่ามันเป็นนิ่วจากถุงน้ำดี เป็นซากมะเร็ง เป็นไขมันพอกตับ ฯลฯ โดยไม่ได้นำมาทดสอบทางการแพทย์ต่อ ..... การล้างพิษตับแบบนั้นเป็นการหลอกลวง ไม่ควรส่งเสริมครับ


ตัวอย่างเช่นการวินิจฉัยไปเรื่อยเปื่อยว่า เป็นนิ่ว เซลล์มะเร็ง เม็ดเลือดแดง ไขมัน ฯลฯ จากการดูของที่ "ลอย" น้ำอยู่เช่นนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


- ถ้าสำนักไหน บ้านไหน องค์กรไหน รายการทีวีไหน เข้าใจกระทู้นี้แล้ว และบอกว่ามาทำการล้างพิษตับด้วยน้ำมันมะกอกผสมน้ำผลไม้ จะได้ก้อนสบู่เกลือไขมันจากน้ำมันมะกอกนั้นและเศษซากอื่นๆ จากยาชงสมุนไพร ออกมาช่วยผลักดันให้ของเสียในลำไส้ออกมาเยอะๆ ถ่ายคล่อง ระบายคล่อง แถมการทำกิจกรรมอื่นๆ เช่น นั่งสมาธิ กินมังสะวิรัติ ฯลฯ จะช่วยให้จิตใจสบายขึ้น ..... การทำกิจกรรมนี้ก็ไม่เป็นการหลอกลวงครับ แม้ว่าผมจะไม่ได้ส่งเสริมให้ทำ และอยากเรียกร้องให้เลิกเรียกมันให้เกิดความเข้าใจผิดว่า "การล้างพิษตับ" ด้วย

***เพิ่มเติม 7***
คุณ  827311  (หรือคุณ ผู้ที่เคยล้างพิษตับ ) ได้หาและแปลเรียบเรียง "ข้อห้ามของผู้ที่จะทำการล้างพิษตับ " จากหนังสือ The amazing Liver and Gallblader Flush ของ Andreas Moritz  ฉบับ E-book 2012 มาให้เพิ่มเติมครับ เหมาะสำหรับท่านที่ยังตัดสินใจจะทำ แต่ก็ควรจะรับรู้ไว้ถึงโรคต่างๆ ที่แม้แต่ฝรั่งผู้ที่ส่งเสริมการล้างพิษนี้ยังเตือนไว้เลยว่าไม่ควรทำ ..... ซึ่งน่าสังเกตว่าพวกที่จัดคอร์สอย่างนี้กันเกร่อในไทยเรา ไม่ค่อยจะออกมาเตือนกันซักเท่าไหร่
ดูได้ที่ความเห็น http://ppantip.com/topic/30447055/comment218