นิทานชาวสวน ๕ พ.ค.๕๖
แมวอีกแล้ว
เพทาย
ผมเคยเล่าไว้ว่าครอบครัวของแมวชื่อสีเทาที่อยู่ทางหน้าบ้าน ทิ้งลูกไว้ให้ผมเลี้ยงตัวหนึ่ง ชื่อเจ้ากระดิ่ง เพราะมีหางยาวแต่ตอนปลายคดงอเหมือนงูหางกระดิ่ง ต่อมามันออกลูกมาอีกครอกหนึ่งกี่ตัวจำไม่ได้ มันมานอนให้ลูกกินนมอยู่แถวหน้าบ้านตามเดิม สุดท้ายก็เหลือตัวเดียว หน้าตาเนื้อตัวสีลายน้ำตาลอ่อนเหมือนเจ้ากระดิ่ง จึงให้ชื่อว่านังพุงขาว พออายุได้ประมาณห้าเดือนก็เอาไปทำหมันที่ห้วยขวาง คราวนี้ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ หลังผ่าตัดอาศัยอยู่ไม่กี่วันก็กลับบ้านได้ แล้วก็เป็นเพื่อนเล่นไล่จับกับเจ้ากระดิ่งพี่ชาย และนังมอมแมม ลูกครอกหลังบ้าน ที่มีอายุเท่ากันกับเจ้ากระดิ่ง
นังสีเทาก็ถือโอกาสท้องอีกครั้งหนึ่ง พอนังพุงขาวมาอยู่บ้านได้ไม่กี่เดือน นังแม่ก็ออกลูกมาอีกครอกหนึ่ง คราวนี้ไม่รู้ว่ากี่ตัวเพราะมันไปออกที่บ้านข้าง ๆ ไม่ได้ยินเสียงร้อง
วันหนึ่งก็ได้ยินเสียงลูกแมวร้องอยู่ตัวเดียวทั้งวัน จึงเที่ยวเดินหาดูก็เห็นลูกแมวตัวหนึ่งขนสีน้ำตาลอ่อนทั้งตัวไม่มีด่าง ลืมตาแล้ว แหกปากร้องอยู่ใต้พุ่มไม้ จนเสียงแหบเสียงแห้ง ก็นึกว่าเป็นกรรมของเราอีกแล้ว จึงไปเอาอ่างพลาสติกใบใหญ่เอาผ้าขี้ริ้วรองพื้น จับลูกแมวมานอนในนั้นกันไม่ให้มันปีนออก แล้วก็ไปซื้อนมมาหนึ่งกล่อง ค้นหาอุปกรณ์การป้อนนมลูกแมวของเก่าไม่พบ ก็ไปซื้อหลอดที่มีลูกยางบีบมาป้อนนม มันก็กินบ้างหกบ้าง แล้วก็ปล่อยให้มันร้องต่อไปตลอดคืน
วันรุ่งขึ้นแม่ของมันก็มาด้อม ๆ มอง ๆ อยู่ข้างกาละมังแต่ไม่ทำอะไร ลงท้ายก็นอนอยู่ใกล้ ๆ ผมแอบดูแล้วเห็นมันไม่คาบลูก ก็หอบเอาลูกไปวางใกล้ ๆ มันก็วิ่งหนีไปเสียอีก นึกว่าจะต้องเลี้ยงเองอีกแล้ว แต่พอตอนเย็นก็หายไปทั้งแม่ทั้งลูก แล้วก็ไม่ได้ยินเสียงร้องอีกเลย ผมก็ถือว่าแม่มันมารับผิดชอบไปแล้ว ก็ไม่ต้องเป็นห่วงมันอีก จนหลายวันต่อมาจึงแอบตามสะกดรอยนังแม่ที่ออกมากินอาหารเม็ด ก็พบว่ามันไปกกลูกอยู่ใต้พุ่มไม้ใกล้ ๆ ที่เดิม จึงโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง
แต่เวลาล่วงไปอีกครึ่งเดือน ลูกมันก็ไม่เคยออกมาจากพุ่มไม้นั้นเลย พอไปแอบดูมันก็มองตาแป๋วแต่ไม่ร้อง และไม่คลานอย่างที่เคยเห็นลูกแมวทั่วไป เพราะคำนวนอายุแล้วน่าจะมากกว่าหนึ่งเดือน เมื่อแม่มันพาลูกอพยพมาอยู่ข้างเครื่องปรับอากาศชิดฝาบ้าน จึงซื้ออาหารลูกแมวมาใส่จานให้มันกิน มันก็ไม่ค่อยกินทั้งแม่ทั้งลูกปล่อยให้มดขึ้นเต็ม ก็เลยเลิกพยายามปล่อยไปตามยะถากรรมของมัน
วันหนึ่งมีฝนหลงฤดูตกลงมาอย่างหนัก ได้ยินเสียงลูกแมวร้องที่ข้างเครื่องปรับอากาศ จึงรีบออกไปดู ก็เห็นเจ้าสีน้ำตาลคลานหนีฝนสาด ก็อุ้มมาให้แม่มันที่นอนหลบฝนอยู่ใต้โต๊ะหน้าบ้าน ปรากฏว่ามันดันลุกหนีไปเสียอีก มีแต่พวกพี่อย่างเจ้ากระดิ่ง นังมอมแมม และนังพุงขาว มามุงดูกันเต็มแต่ก็ไม่ได้ทำอะไร ผมจึงต้องเอามันใส่อ่างพลาสติกไว้อีก แต่พอฝนหายมันก็กลับมาคาบลูกเอาไปกกอยู่ที่ข้างเครื่องปรับอากาศตามเดิม เจ้าลูกตัวนี้ยังไม่รู้ว่าเพศใด แต่ตั้งชื่อมันว่า สีน้ำตาล แทนแม่ซึ่งชื่อ สีเทา
นังสีเทาก็พาลูกของมันไปเลี้ยงเอง อยู่หลายวัน ถึงเวลาก็มากินอาหารเม็ด กินแล้วก็หายไปหาลูก ทำอย่างนั้นอยู่เกือบเดือน วันหนึ่งไปแอบมองดูมันกกลูกอยู่ในพุ่มไม้ จึงได้รู้ว่ามันไม่ได้มีลูกตัวเดียวอย่างที่เราคิด มันมีสองตัวแต่สีเหมือนกันอย่างที่แยกไม่ออกว่าตัวไหนเป็นตัวไหน ผมก็เลยไม่รู้ว่าไอ้เจ้าตัวที่อุ้มมาใส่อ่างนั้นเป็นตัวไหนกันแน่
เมื่อเจ้าสองตัวมันเดินตามแม่ออกมายังลานซีเมนต์หน้าบ้าน จึงสังเกตเห็นว่าตัวที่โต กว่า มีหางสั้นกว่าและมีขนหุ้มดูทื่อ ๆ ส่วนเจ้าตัวเล็กมีหางยาวกว่า และปลายแหลมเรียว จึงตั้งชื่อใหม่ว่า เจ้าทื่อ กับเจ้าแหลม แต่รู้สึกว่าจะเป็นตัวเมียทั้งคู่
ลูกนังสีเทาคู่นี้ดูจะไม่ค่อยแข็งแรงอย่างปกติ อายุเดือนกว่าแล้วแต่ยังเดินตุปัดตุเป๋ เวลาแม่มันเดินห่างออกไป ก็ไม่วิ่งตาม และหาแม่ไม่ค่อยเจอ มักจะเดินไปคนละทิศละทาง ต้องจับมันเข้าไปหาแม่ตอนมันนอนกลางลาน แม่มันก็เลียหัวเลียตัวลูกตา มประสาแมว แต่ไม่เห็นกระโดดโลดเต้น เหมือนครอกอื่น ๆ ที่เคยเห็นมา เมื่อพิจารณาดูให้ถนัดก็จะเห็นว่า ทั้งคู่มีพุงป่องเหมือนคนเป็นโรคท้องอืด กินแล้วไม่ถ่ายอย่างนั้น จึงคิดว่ามันจะอยู่รอดหรือไม่
แต่อีกหลายวันต่อมา เจ้าแหลมกับเจ้าทื่อก็ยังดำรงชีวิตอยู่ได้ เจ้าขาวมักจะมาเล่นด้วย โดยวิธีกระโดดเข้ามาคล่อมเขี่ยนิดเขี่ยหน่อย เจ้าตัวเล็กก็ล้มกลิ้งล้มหงาย ต้องร้องตะโกนห้ามปรามทุกครั้งที่เห็น แต่มันก็มีความอดทนไม่ร้องโวยวายอย่างที่คิด แม้ว่านังแม่จะไม่ค่อยเอาใจใส่นักก็ตาม
เมื่อผมไปซื้ออาหารแมวมาตุนไว้ ก็ถือโอกาสซื้ออาหารลูกแมวที่เป็นซอง มาเผื่อ มั นอีก ข้างในเป็นเนื้อปลาเละ ๆ น่าจะกินง่าย แต่มันก็ไม่ค่อยกิน ได้แต่และเล็มนิดหน่อย แล้วก็ปล่อยให้มดขึ้น ต้องเอาไปให้ตัวโตกินต่อ
มันอยู่ของมันสามตัวแม่ลูก อย่างที่ไม่ค่อยเห็นความเจริญก้าวหน้ามาได้อีกพักหนึ่ง เจ้าแหลมก็หายหน้าไป เหลือแต่เจ้าทื่อคอยตามแม่อยู่ตัวเดียว ผมก็เที่ยวเดินหาทุกซอกทุกมุม ว่ามันจะไปแอบนอนอยู่ที่ไหนก็ไม่พบ เจ้าทื่อก็พุงป่องมากขึ้นเห็นผนังท้องใส เมื่อเวลานังแม่นอนพัก มันก็เข้าไปดูดนม แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีน้ำนม เพราะนังสีเทาก็ผอมแห้งแรงน้อย ท่าทางไม่ค่อยแข็งแรงเหมือนกัน
ลงท้ายเจ้าทื่อก็หายไปอีกตัวหนึ่ง ผมก็เที่ยวมองหาทุกซอกทุกมุม ก็ไม่พบอย่างเคย แต่คราวนี้ได้กลิ่นเหม็นตุ ๆ อยู่ใต้ชั้นที่วางรองเท้าหน้าบ้าน ซึ่งผมก้มลงไปดูไม่ถนัด ต้องถอยออกไป ห่าง ๆ แล้วก้มหน้าลงเกือบแนบพื้นซีเมนต์ จึงเห็นเจ้าทื่อนอนนิ่งอยู่ เมื่อเอื้อมมือไปจับตัวมันก็กระดุกกระดิกได้ แต่ไม่มีเสียงร้อง จึงคิดว่าวาระสุดท้ายของมันคงจะมาถึงแล้ว ไม่อยากจะรบกวนมันให้ลำบากลำบนอีก จึงปล่อยไว้ที่เดิม
แต่ที่ไหนได้ เมื่อถึงตอนเย็นออกมาดูอีกที มันกลับลงไปนอนอยู่ในรางน้ำแฉะ ๆ ข้างรั้วบ้าน ไม่รู้มันแถกไปได้อย่างไร ตัวเปื้อนโคลนไปด้านหนึ่ง จึงอุ้มมันขึ้นมาเอาผ้าขี้ริ้วเช็ดน้ำและโคลนออก แล้วก็ให้มันนอนบนผ้าแห้งใกล้ ๆ กับที่แม่มันนอนอยู่ เมื่อผมถอยออกมาก็เห็นนังสีเทาเดินเข้าไปนอนใกล้ ๆ ลูกแล้วก็เลียเนื้อตัวที่เปียกเปื้อนนั้น ตั้งแต่หัวจรดหาง เลียซ้ำซากอยู่อย่างนั้น จนผมเดินเข้าบ้าน
แต่กลิ่นเหม็นตุ ๆ นั้นยังอยู่ จึงฉุกคิดว่า เมื่อเจ้าทื่อยังไม่ตาย กลิ่นนั้นก็ต้องเป็นของเจ้าแหลมแน่ ผมจึงก้มลงไปดูอีกครั้ง ก็พบร่างของเจ้าแหลมเปื่อยเละอยู่ใต้ชั้นไกลสุดมือเอื้อมถึงอย่างที่คิด
ผมจัดการกับศพของเจ้าแหลม ด้วยความสังเวชใจเป็นอย่างยิ่ง นังสีเทานี้มีลูกครอกแรกก็เหลือตัวเดียวคือเจ้ากระดิ่ง ส่วนพี่น้องของมันที่หายสาบสูญไป ผมก็ไม่ได้พบศพ ครอกที่สองก็เหลือตัวเดียวคือนังพุงขาว ซึ่งได้พาไปทำหมันแล้ว กลับมาก็ร่าเริงเป็นปกติอยู่เป็นเพื่อนเจ้ากระดิ่ง
มาครอกที่สามนี้ ได้เห็นเป็นศพไปตัวหนึ่งแล้ว ยังเหลืออีกตัวหนึ่งก็นอนไม่กระดิกกระเดี้ย ให้แม่เลียแล้วเลียอีกอยู่ในขณะนี้ ดูแล้วก็ไม่มีโอกาสที่จะรอดมาวิ่งเล่นได้เลย
แม้ผมจะเห็นความตายของแมวในบ้าน ที่ไม่ได้เจตนาจะเลี้ยงมาหลายตัวแล้ว ตลอดเวลาสิบกว่าปีที่ออกจากราชการมา จนชักจะชินแล้ว แต่ก็อดเวทนาในชะตากรรมของมันไม่ได้ มันมีกรรมอะไรจึงต้องเกิดมาเป็นแมว เกิดแล้วก็อด ๆ อยาก ๆ แล้วก็ออกลูก แล้วก็ตายไป แล้วก็มีไอ้ที่เกิดใหม่มาทดแทน วนเวียนอยู่เช่นนี้
ผมไม่รู้ว่าหมาแมวที่ตายไปแล้ว มีสิทธิ์จะเกิดเป็นคนหรือไม่ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าอย่างผม ถ้าตายแล้วจะได้เกิดเป็นหมาหรือแมว หรือไม่ ก็ไม่รู้จะไปถามใคร ได้แต่ปล่อยให้เป็นไปตามกรรม
เช่นเดียวกับเจ้าทื่อ ซึ่งนางสีเทาแม่ของมัน ที่เลิกเลียเนื้อตัวลูกแล้ว แต่มันก็ยังนอนอยู่ไม่ไกล ไม่เกินสายตา โดยมันหันหน้ามามองลูกอยู่ตลอดเวลา มันทั้งสองก็อยู่ด้วยกรรมของมันเอง
ผมอยากรู้ว่า มันจะอยู่อย่างนั้นจนถึงเช้าหรือไม่.
############
นิทานชาวสวน ๕ พ.ค.๕๖
แมวอีกแล้ว
เพทาย
ผมเคยเล่าไว้ว่าครอบครัวของแมวชื่อสีเทาที่อยู่ทางหน้าบ้าน ทิ้งลูกไว้ให้ผมเลี้ยงตัวหนึ่ง ชื่อเจ้ากระดิ่ง เพราะมีหางยาวแต่ตอนปลายคดงอเหมือนงูหางกระดิ่ง ต่อมามันออกลูกมาอีกครอกหนึ่งกี่ตัวจำไม่ได้ มันมานอนให้ลูกกินนมอยู่แถวหน้าบ้านตามเดิม สุดท้ายก็เหลือตัวเดียว หน้าตาเนื้อตัวสีลายน้ำตาลอ่อนเหมือนเจ้ากระดิ่ง จึงให้ชื่อว่านังพุงขาว พออายุได้ประมาณห้าเดือนก็เอาไปทำหมันที่ห้วยขวาง คราวนี้ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ หลังผ่าตัดอาศัยอยู่ไม่กี่วันก็กลับบ้านได้ แล้วก็เป็นเพื่อนเล่นไล่จับกับเจ้ากระดิ่งพี่ชาย และนังมอมแมม ลูกครอกหลังบ้าน ที่มีอายุเท่ากันกับเจ้ากระดิ่ง
นังสีเทาก็ถือโอกาสท้องอีกครั้งหนึ่ง พอนังพุงขาวมาอยู่บ้านได้ไม่กี่เดือน นังแม่ก็ออกลูกมาอีกครอกหนึ่ง คราวนี้ไม่รู้ว่ากี่ตัวเพราะมันไปออกที่บ้านข้าง ๆ ไม่ได้ยินเสียงร้อง
วันหนึ่งก็ได้ยินเสียงลูกแมวร้องอยู่ตัวเดียวทั้งวัน จึงเที่ยวเดินหาดูก็เห็นลูกแมวตัวหนึ่งขนสีน้ำตาลอ่อนทั้งตัวไม่มีด่าง ลืมตาแล้ว แหกปากร้องอยู่ใต้พุ่มไม้ จนเสียงแหบเสียงแห้ง ก็นึกว่าเป็นกรรมของเราอีกแล้ว จึงไปเอาอ่างพลาสติกใบใหญ่เอาผ้าขี้ริ้วรองพื้น จับลูกแมวมานอนในนั้นกันไม่ให้มันปีนออก แล้วก็ไปซื้อนมมาหนึ่งกล่อง ค้นหาอุปกรณ์การป้อนนมลูกแมวของเก่าไม่พบ ก็ไปซื้อหลอดที่มีลูกยางบีบมาป้อนนม มันก็กินบ้างหกบ้าง แล้วก็ปล่อยให้มันร้องต่อไปตลอดคืน
วันรุ่งขึ้นแม่ของมันก็มาด้อม ๆ มอง ๆ อยู่ข้างกาละมังแต่ไม่ทำอะไร ลงท้ายก็นอนอยู่ใกล้ ๆ ผมแอบดูแล้วเห็นมันไม่คาบลูก ก็หอบเอาลูกไปวางใกล้ ๆ มันก็วิ่งหนีไปเสียอีก นึกว่าจะต้องเลี้ยงเองอีกแล้ว แต่พอตอนเย็นก็หายไปทั้งแม่ทั้งลูก แล้วก็ไม่ได้ยินเสียงร้องอีกเลย ผมก็ถือว่าแม่มันมารับผิดชอบไปแล้ว ก็ไม่ต้องเป็นห่วงมันอีก จนหลายวันต่อมาจึงแอบตามสะกดรอยนังแม่ที่ออกมากินอาหารเม็ด ก็พบว่ามันไปกกลูกอยู่ใต้พุ่มไม้ใกล้ ๆ ที่เดิม จึงโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง
แต่เวลาล่วงไปอีกครึ่งเดือน ลูกมันก็ไม่เคยออกมาจากพุ่มไม้นั้นเลย พอไปแอบดูมันก็มองตาแป๋วแต่ไม่ร้อง และไม่คลานอย่างที่เคยเห็นลูกแมวทั่วไป เพราะคำนวนอายุแล้วน่าจะมากกว่าหนึ่งเดือน เมื่อแม่มันพาลูกอพยพมาอยู่ข้างเครื่องปรับอากาศชิดฝาบ้าน จึงซื้ออาหารลูกแมวมาใส่จานให้มันกิน มันก็ไม่ค่อยกินทั้งแม่ทั้งลูกปล่อยให้มดขึ้นเต็ม ก็เลยเลิกพยายามปล่อยไปตามยะถากรรมของมัน
วันหนึ่งมีฝนหลงฤดูตกลงมาอย่างหนัก ได้ยินเสียงลูกแมวร้องที่ข้างเครื่องปรับอากาศ จึงรีบออกไปดู ก็เห็นเจ้าสีน้ำตาลคลานหนีฝนสาด ก็อุ้มมาให้แม่มันที่นอนหลบฝนอยู่ใต้โต๊ะหน้าบ้าน ปรากฏว่ามันดันลุกหนีไปเสียอีก มีแต่พวกพี่อย่างเจ้ากระดิ่ง นังมอมแมม และนังพุงขาว มามุงดูกันเต็มแต่ก็ไม่ได้ทำอะไร ผมจึงต้องเอามันใส่อ่างพลาสติกไว้อีก แต่พอฝนหายมันก็กลับมาคาบลูกเอาไปกกอยู่ที่ข้างเครื่องปรับอากาศตามเดิม เจ้าลูกตัวนี้ยังไม่รู้ว่าเพศใด แต่ตั้งชื่อมันว่า สีน้ำตาล แทนแม่ซึ่งชื่อ สีเทา
นังสีเทาก็พาลูกของมันไปเลี้ยงเอง อยู่หลายวัน ถึงเวลาก็มากินอาหารเม็ด กินแล้วก็หายไปหาลูก ทำอย่างนั้นอยู่เกือบเดือน วันหนึ่งไปแอบมองดูมันกกลูกอยู่ในพุ่มไม้ จึงได้รู้ว่ามันไม่ได้มีลูกตัวเดียวอย่างที่เราคิด มันมีสองตัวแต่สีเหมือนกันอย่างที่แยกไม่ออกว่าตัวไหนเป็นตัวไหน ผมก็เลยไม่รู้ว่าไอ้เจ้าตัวที่อุ้มมาใส่อ่างนั้นเป็นตัวไหนกันแน่
เมื่อเจ้าสองตัวมันเดินตามแม่ออกมายังลานซีเมนต์หน้าบ้าน จึงสังเกตเห็นว่าตัวที่โต กว่า มีหางสั้นกว่าและมีขนหุ้มดูทื่อ ๆ ส่วนเจ้าตัวเล็กมีหางยาวกว่า และปลายแหลมเรียว จึงตั้งชื่อใหม่ว่า เจ้าทื่อ กับเจ้าแหลม แต่รู้สึกว่าจะเป็นตัวเมียทั้งคู่
ลูกนังสีเทาคู่นี้ดูจะไม่ค่อยแข็งแรงอย่างปกติ อายุเดือนกว่าแล้วแต่ยังเดินตุปัดตุเป๋ เวลาแม่มันเดินห่างออกไป ก็ไม่วิ่งตาม และหาแม่ไม่ค่อยเจอ มักจะเดินไปคนละทิศละทาง ต้องจับมันเข้าไปหาแม่ตอนมันนอนกลางลาน แม่มันก็เลียหัวเลียตัวลูกตา มประสาแมว แต่ไม่เห็นกระโดดโลดเต้น เหมือนครอกอื่น ๆ ที่เคยเห็นมา เมื่อพิจารณาดูให้ถนัดก็จะเห็นว่า ทั้งคู่มีพุงป่องเหมือนคนเป็นโรคท้องอืด กินแล้วไม่ถ่ายอย่างนั้น จึงคิดว่ามันจะอยู่รอดหรือไม่
แต่อีกหลายวันต่อมา เจ้าแหลมกับเจ้าทื่อก็ยังดำรงชีวิตอยู่ได้ เจ้าขาวมักจะมาเล่นด้วย โดยวิธีกระโดดเข้ามาคล่อมเขี่ยนิดเขี่ยหน่อย เจ้าตัวเล็กก็ล้มกลิ้งล้มหงาย ต้องร้องตะโกนห้ามปรามทุกครั้งที่เห็น แต่มันก็มีความอดทนไม่ร้องโวยวายอย่างที่คิด แม้ว่านังแม่จะไม่ค่อยเอาใจใส่นักก็ตาม
เมื่อผมไปซื้ออาหารแมวมาตุนไว้ ก็ถือโอกาสซื้ออาหารลูกแมวที่เป็นซอง มาเผื่อ มั นอีก ข้างในเป็นเนื้อปลาเละ ๆ น่าจะกินง่าย แต่มันก็ไม่ค่อยกิน ได้แต่และเล็มนิดหน่อย แล้วก็ปล่อยให้มดขึ้น ต้องเอาไปให้ตัวโตกินต่อ
มันอยู่ของมันสามตัวแม่ลูก อย่างที่ไม่ค่อยเห็นความเจริญก้าวหน้ามาได้อีกพักหนึ่ง เจ้าแหลมก็หายหน้าไป เหลือแต่เจ้าทื่อคอยตามแม่อยู่ตัวเดียว ผมก็เที่ยวเดินหาทุกซอกทุกมุม ว่ามันจะไปแอบนอนอยู่ที่ไหนก็ไม่พบ เจ้าทื่อก็พุงป่องมากขึ้นเห็นผนังท้องใส เมื่อเวลานังแม่นอนพัก มันก็เข้าไปดูดนม แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีน้ำนม เพราะนังสีเทาก็ผอมแห้งแรงน้อย ท่าทางไม่ค่อยแข็งแรงเหมือนกัน
ลงท้ายเจ้าทื่อก็หายไปอีกตัวหนึ่ง ผมก็เที่ยวมองหาทุกซอกทุกมุม ก็ไม่พบอย่างเคย แต่คราวนี้ได้กลิ่นเหม็นตุ ๆ อยู่ใต้ชั้นที่วางรองเท้าหน้าบ้าน ซึ่งผมก้มลงไปดูไม่ถนัด ต้องถอยออกไป ห่าง ๆ แล้วก้มหน้าลงเกือบแนบพื้นซีเมนต์ จึงเห็นเจ้าทื่อนอนนิ่งอยู่ เมื่อเอื้อมมือไปจับตัวมันก็กระดุกกระดิกได้ แต่ไม่มีเสียงร้อง จึงคิดว่าวาระสุดท้ายของมันคงจะมาถึงแล้ว ไม่อยากจะรบกวนมันให้ลำบากลำบนอีก จึงปล่อยไว้ที่เดิม
แต่ที่ไหนได้ เมื่อถึงตอนเย็นออกมาดูอีกที มันกลับลงไปนอนอยู่ในรางน้ำแฉะ ๆ ข้างรั้วบ้าน ไม่รู้มันแถกไปได้อย่างไร ตัวเปื้อนโคลนไปด้านหนึ่ง จึงอุ้มมันขึ้นมาเอาผ้าขี้ริ้วเช็ดน้ำและโคลนออก แล้วก็ให้มันนอนบนผ้าแห้งใกล้ ๆ กับที่แม่มันนอนอยู่ เมื่อผมถอยออกมาก็เห็นนังสีเทาเดินเข้าไปนอนใกล้ ๆ ลูกแล้วก็เลียเนื้อตัวที่เปียกเปื้อนนั้น ตั้งแต่หัวจรดหาง เลียซ้ำซากอยู่อย่างนั้น จนผมเดินเข้าบ้าน
แต่กลิ่นเหม็นตุ ๆ นั้นยังอยู่ จึงฉุกคิดว่า เมื่อเจ้าทื่อยังไม่ตาย กลิ่นนั้นก็ต้องเป็นของเจ้าแหลมแน่ ผมจึงก้มลงไปดูอีกครั้ง ก็พบร่างของเจ้าแหลมเปื่อยเละอยู่ใต้ชั้นไกลสุดมือเอื้อมถึงอย่างที่คิด
ผมจัดการกับศพของเจ้าแหลม ด้วยความสังเวชใจเป็นอย่างยิ่ง นังสีเทานี้มีลูกครอกแรกก็เหลือตัวเดียวคือเจ้ากระดิ่ง ส่วนพี่น้องของมันที่หายสาบสูญไป ผมก็ไม่ได้พบศพ ครอกที่สองก็เหลือตัวเดียวคือนังพุงขาว ซึ่งได้พาไปทำหมันแล้ว กลับมาก็ร่าเริงเป็นปกติอยู่เป็นเพื่อนเจ้ากระดิ่ง
มาครอกที่สามนี้ ได้เห็นเป็นศพไปตัวหนึ่งแล้ว ยังเหลืออีกตัวหนึ่งก็นอนไม่กระดิกกระเดี้ย ให้แม่เลียแล้วเลียอีกอยู่ในขณะนี้ ดูแล้วก็ไม่มีโอกาสที่จะรอดมาวิ่งเล่นได้เลย
แม้ผมจะเห็นความตายของแมวในบ้าน ที่ไม่ได้เจตนาจะเลี้ยงมาหลายตัวแล้ว ตลอดเวลาสิบกว่าปีที่ออกจากราชการมา จนชักจะชินแล้ว แต่ก็อดเวทนาในชะตากรรมของมันไม่ได้ มันมีกรรมอะไรจึงต้องเกิดมาเป็นแมว เกิดแล้วก็อด ๆ อยาก ๆ แล้วก็ออกลูก แล้วก็ตายไป แล้วก็มีไอ้ที่เกิดใหม่มาทดแทน วนเวียนอยู่เช่นนี้
ผมไม่รู้ว่าหมาแมวที่ตายไปแล้ว มีสิทธิ์จะเกิดเป็นคนหรือไม่ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าอย่างผม ถ้าตายแล้วจะได้เกิดเป็นหมาหรือแมว หรือไม่ ก็ไม่รู้จะไปถามใคร ได้แต่ปล่อยให้เป็นไปตามกรรม
เช่นเดียวกับเจ้าทื่อ ซึ่งนางสีเทาแม่ของมัน ที่เลิกเลียเนื้อตัวลูกแล้ว แต่มันก็ยังนอนอยู่ไม่ไกล ไม่เกินสายตา โดยมันหันหน้ามามองลูกอยู่ตลอดเวลา มันทั้งสองก็อยู่ด้วยกรรมของมันเอง
ผมอยากรู้ว่า มันจะอยู่อย่างนั้นจนถึงเช้าหรือไม่.
############