วันนี้ค่าเงินบาทแข็งค่ามากกว่าภูมิภาคประมาณร้อยละ 6 เมื่อเทียบจากข้อมูลในปีทีแล้ว หรือค่าเงินบาที่เหมาะสมควรอยู่ที่
31.4 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ในกรณีไม่รวมเงินเยน ค่าเงินบาทได้แข็งค่ามากกว่าภูมิภาคร้อยละ 4 หรือค่าเงินบาที่เหมาะสมควรอยู่ที่
30.8 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
แนวทางที่ควรพิจารณาในการสร้างเสถียรภาพค่าเงินควร
1. การสร้างเสถียรภาพค่าเงินผ่านการสื่อสาร ซึ่งส่วนนี้ ธปท ได้มีการออกมาระบุชัดเจนแล้ว แต่ควรมีรายงานชัดเจนที่ระบุว่าเงินบาทได้แข็งค่ากว่าภูมิภาคแล้วเท่าไร และเงินบาที่เหมาะสมที่อิงกับค่าเงินในภูมิภาคเท่าไร ซึ่ง ธปท ได้แสดงความเป็นห่วงและได้ระบุว่าจะใช้นโยบายในการสร้างเสถียรภาพค่าเงิน
2. พิจารณาแนวทางลดดอกเบี้ย ธปท สามารถทำได้เลย เพราะเป้าหมายเงินเฟ้อคือเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 0.5-3 ในปัจจุบัน แม้อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ 1.1 แต่ในเดือนล่าสุด อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้นเฉลี่ยที่ร้อยละ 0.5-0.7 ต่อปี ซึ่งมีความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้อื้นฐานต่ำกว่าเป้าหมายในอนาคตได้ค่อนข้างชัดเจน ธปท สามารถลดดอกเบี้ย เพื่อสร้างเสถียรภาพราคาและค่าเงินพร้อมกับได้โดยการลดดอกเบี้ย
3. การเข้าดูแลค่าเงิน ซึ่งแนวทางนี้ยังมีความจำเป็น และเริ่มเห็น ธปท เข้ามาดูแลค่าเงินให้อิงกับภูมิภาค แนวทางนี้หลายคนกังวล รวมทั้ง ดร โกร่ง ในผลขาดทุนจากการดูแลค่าเงิน ซึ่ง ธปท ควรชี้แจงแนวทางดังกล่าว เพราะในช่วงเวลานี้ ค่าเงินในเอเชีย โดยเฉพาะญี่ปุ่นค่อยข้างอ่อนค่ามาก ถ้า ธปท ใช้นโยบายอิงค่าเงินตามภูมิภาคจริง ปีนี้ ธปท ควรได้กำไรจากค่าเงิน แต่แน่นอน ธปท ยังขาดทุนจากผลต่างอัตราดอกเบี้ย ซึ่ง ธปท ควรชี้แจงประธาน ธปท ถึงแนวทางลดผลขาดทุน มากกว่าจะไม่ใช้มาตราการนี้ในการดูแลค่าเงิน
การขาดทุนจากการดูแลเสถียรภาพค่าเงินไม่ต่างจาก Bernanke ตัดสินใจใช้ QE ในช่วงปี 2008 เข้าซื้อหุ้นและตราสารหนี้ในตลาด เพื่อลดผลความรุนแรงทางเศรษฐกิจ ซึ่งวันนี้เงินที่ Bernanke เข้าแทรกแซง กลับทำให้มีกำไรมหาศาล
สิ่งหนึ่งที่ ธปท ต่างจาก FED คือ FED พิมพ์เงินได้ ถ้ารัฐบาลและ ธปท ควรพิจารณาแนวทางให้ ธปท พิมพ์เงินได้เหมือน FED โดยไม่มีต้นทุนในบางสถานการณ์ เพื่อสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและค่าเงิน จะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่สุดให้ ธปท ดูแลเสถียรภาคเศรษฐกิจได้ ไม่ว่าช่วงค่าเงินผันผวน หรือ ช่วงวิกฤตต้มยำกุ้งที่ก่อหนี้ FIDF
ข
อสรุปว่าแนวทางที่ 3 รัฐบาลและรัฐสภา ควรแก้กฎหมายให้ ธปท พิมพ์เงินได้เพื่อนำมาดูแลเสถียรภาพทางเศรษฐกิจเหมือนสหรัฐฯ ในกรณีสำคัญที่สามารถกำหนดได้ เช่น ดูแลเสถียรภาพค่าเงิน ตลาดเงิน และเศรษฐกิจ สิ่งนี้ นอกจากจะดีในส่วนช่วยดูแลค่าเงินแล้ว ยังดีในกรณีที่ไทยเกิดมีปัญหาเหมือนต้มยำกุ้ง ธปท สามารถเข้ามารักษาเสถียรภาพทางการเงินได้ทันที และมีประสิทธิภาพ
แนวทางแก้ไขค่าเงินบาท ธปท ที่จะไม่ทำให้ ธปท ขาดทุนจาก ดร โกร่งกล่าวถึง ด้วยการให้ ธปท พิมพ์เงินเหมือน FED
วันนี้ค่าเงินบาทแข็งค่ามากกว่าภูมิภาคประมาณร้อยละ 6 เมื่อเทียบจากข้อมูลในปีทีแล้ว หรือค่าเงินบาที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 31.4 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ในกรณีไม่รวมเงินเยน ค่าเงินบาทได้แข็งค่ามากกว่าภูมิภาคร้อยละ 4 หรือค่าเงินบาที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 30.8 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
แนวทางที่ควรพิจารณาในการสร้างเสถียรภาพค่าเงินควร
1. การสร้างเสถียรภาพค่าเงินผ่านการสื่อสาร ซึ่งส่วนนี้ ธปท ได้มีการออกมาระบุชัดเจนแล้ว แต่ควรมีรายงานชัดเจนที่ระบุว่าเงินบาทได้แข็งค่ากว่าภูมิภาคแล้วเท่าไร และเงินบาที่เหมาะสมที่อิงกับค่าเงินในภูมิภาคเท่าไร ซึ่ง ธปท ได้แสดงความเป็นห่วงและได้ระบุว่าจะใช้นโยบายในการสร้างเสถียรภาพค่าเงิน
2. พิจารณาแนวทางลดดอกเบี้ย ธปท สามารถทำได้เลย เพราะเป้าหมายเงินเฟ้อคือเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 0.5-3 ในปัจจุบัน แม้อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ 1.1 แต่ในเดือนล่าสุด อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้นเฉลี่ยที่ร้อยละ 0.5-0.7 ต่อปี ซึ่งมีความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้อื้นฐานต่ำกว่าเป้าหมายในอนาคตได้ค่อนข้างชัดเจน ธปท สามารถลดดอกเบี้ย เพื่อสร้างเสถียรภาพราคาและค่าเงินพร้อมกับได้โดยการลดดอกเบี้ย
3. การเข้าดูแลค่าเงิน ซึ่งแนวทางนี้ยังมีความจำเป็น และเริ่มเห็น ธปท เข้ามาดูแลค่าเงินให้อิงกับภูมิภาค แนวทางนี้หลายคนกังวล รวมทั้ง ดร โกร่ง ในผลขาดทุนจากการดูแลค่าเงิน ซึ่ง ธปท ควรชี้แจงแนวทางดังกล่าว เพราะในช่วงเวลานี้ ค่าเงินในเอเชีย โดยเฉพาะญี่ปุ่นค่อยข้างอ่อนค่ามาก ถ้า ธปท ใช้นโยบายอิงค่าเงินตามภูมิภาคจริง ปีนี้ ธปท ควรได้กำไรจากค่าเงิน แต่แน่นอน ธปท ยังขาดทุนจากผลต่างอัตราดอกเบี้ย ซึ่ง ธปท ควรชี้แจงประธาน ธปท ถึงแนวทางลดผลขาดทุน มากกว่าจะไม่ใช้มาตราการนี้ในการดูแลค่าเงิน
การขาดทุนจากการดูแลเสถียรภาพค่าเงินไม่ต่างจาก Bernanke ตัดสินใจใช้ QE ในช่วงปี 2008 เข้าซื้อหุ้นและตราสารหนี้ในตลาด เพื่อลดผลความรุนแรงทางเศรษฐกิจ ซึ่งวันนี้เงินที่ Bernanke เข้าแทรกแซง กลับทำให้มีกำไรมหาศาล สิ่งหนึ่งที่ ธปท ต่างจาก FED คือ FED พิมพ์เงินได้ ถ้ารัฐบาลและ ธปท ควรพิจารณาแนวทางให้ ธปท พิมพ์เงินได้เหมือน FED โดยไม่มีต้นทุนในบางสถานการณ์ เพื่อสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและค่าเงิน จะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่สุดให้ ธปท ดูแลเสถียรภาคเศรษฐกิจได้ ไม่ว่าช่วงค่าเงินผันผวน หรือ ช่วงวิกฤตต้มยำกุ้งที่ก่อหนี้ FIDF
ขอสรุปว่าแนวทางที่ 3 รัฐบาลและรัฐสภา ควรแก้กฎหมายให้ ธปท พิมพ์เงินได้เพื่อนำมาดูแลเสถียรภาพทางเศรษฐกิจเหมือนสหรัฐฯ ในกรณีสำคัญที่สามารถกำหนดได้ เช่น ดูแลเสถียรภาพค่าเงิน ตลาดเงิน และเศรษฐกิจ สิ่งนี้ นอกจากจะดีในส่วนช่วยดูแลค่าเงินแล้ว ยังดีในกรณีที่ไทยเกิดมีปัญหาเหมือนต้มยำกุ้ง ธปท สามารถเข้ามารักษาเสถียรภาพทางการเงินได้ทันที และมีประสิทธิภาพ