ผมได้รับคำถามนี้มามากพอสมควรครับ แต่ที่แน่ ๆ จะย้ำไปทุกครั้ง คือห้ามกระโดดเชือกด้วยเท้าเปล่าหรือรองเท้าแตะเด็ดขาด
การกระโดดเชือก ก็เหมือนการออกกำลังกายอื่น ๆ อีกหลายอย่าง คือมันมีแรงกระแทก จึงต้องสวมรองเท้ากีฬาด้วยทุกครั้งที่กระโดด
เพื่อดูดซับแรงกระแทก ไม่ให้กระทำกับข้อต่อต่าง ๆ ของร่างกาย ช่วยลดอาการบาดเจ็บที่อาจจะเกิดขึ้นได้
และลดโอกาสจะเป็นโรคข้อเข่าอักเสบ ข้อเข่าเสื่อมในอนาคตด้วย
การกระโดดเชือกที่ถูกวิธี ต้องเปิดส้นเท้าเล็กน้อย และลงน้ำหนักที่ปลายเท้าเป็นหลัก (ส้นเท้าไม่ควรสัมผัสพื้นเลยตลอดการกระโดด)
ดังนั้นรองเท้ากีฬาที่เหมาะสมจะต้องรองรับแรงกระแทกบริเวณส่วนหน้าเท้า หรือปลายเท้าดี ๆ และพื้นของรองเท้าตรงส่วนนี้ต้องหนาหน่อย
ซึ่งรองเท้ากีฬาที่เน้นรับแรงกระแทกบริเวณปลายเท้า มีหลายประเภทมาก โดยเฉพาะกีฬาที่เน้นการกระโดด
ไม่ว่าจะเป็น รองเท้าบาสเก็ตบอล รองเท้าแบดมินตัน รองเท้าวอลเลย์ รองเท้าอินดอร์ทั่วไป หรือรองเท้าครอสเทรนนิ่ง
โดยที่แหล่งความรู้บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของเมืองนอก ส่วนใหญ่มักจะแนะนำรองเท้าครอสเทรนนิ่งกันมากที่สุด
เนื่องจากเป็นรองเท้าอเนกประสงค์ ใช้งานได้หลากหลาย ให้การทรงตัวและเกาะพื้นได้ดี ในการเคลื่อนไหวทุกทิศทาง
รวมถึงบางรุ่นระบายความร้อนและความชื้นได้ดีใกล้เคียงกับรองเท้าวิ่งอีกด้วย ใส่กระโดดนาน ๆ แล้วไม่อับ เย็นสบายเท้าดี
แต่ส่วนตัวแล้ว ผมนิยมใช้รองเท้าวิ่งเป็นหลักในการกระโดดเชือกครับ ถึงแม้เว็บเมืองนอกจะไม่ค่อยแนะนำก็ตาม
เพราะจากที่ใส่ แล้วลองเทียบกับรองเท้าชนิดอื่น ก็ไม่ได้ให้ผลต่างกันมาก เพราะหลัก ๆ ก็กระโดดกับที่ ไม่ได้เคลื่อนไหวไปมา
จึงไม่ได้ต้องการการทรงตัวที่ดีมากนัก แล้วรองเท้าวิ่งที่ใช้ ตรงหน้าเท้ามันก็หนา รับแรงกระแทกได้ดีพอสมควร
ที่สำคัญคือ วัสดุมันเป็นผ้าโปร่ง กระโดดนาน ๆ แล้วไม่ค่อยร้อน ไม่เหมือนกับรองเท้าแบดฯ ที่เป็นหนังสังเคราะห์ ซึ่งอับเท้าและร้อนมาก
ดังนั้น จากประสบการณ์ของตัวเอง ก็ขอแย้งกูรูกระโดดเชือกฝรั่งหน่อยนะครับ ว่ารองเท้าวิ่งก็ใช้กระโดดเชือกเพื่อออกกำลังกายทั่วไปได้แน่นอน
แค่ให้ดูว่าพื้นรองเท้าตรงส่วนหน้า หนา ๆ รับแรงกระแทกได้ดี ๆ หน่อย แค่นั้นก็ใช้กระโดดเชือกได้สบายแล้วครับ
แต่สำหรับผู้ที่กระโดดเชือกแบบจริงจัง แบบฝึกท่าพลิกแพลงหลากหลาย หรือเน้นเพื่อการแข่งขัน โดยเฉพาะการกระโดดเชือกฟรีสไตล์
(freestyle jump rope) กรณีนี้ รองเท้าครอสเทนนิ่ง จะเหมาะสมกว่าครับ
รองเท้าที่เหมาะสมกับการกระโดดเชือก
การกระโดดเชือก ก็เหมือนการออกกำลังกายอื่น ๆ อีกหลายอย่าง คือมันมีแรงกระแทก จึงต้องสวมรองเท้ากีฬาด้วยทุกครั้งที่กระโดด
เพื่อดูดซับแรงกระแทก ไม่ให้กระทำกับข้อต่อต่าง ๆ ของร่างกาย ช่วยลดอาการบาดเจ็บที่อาจจะเกิดขึ้นได้
และลดโอกาสจะเป็นโรคข้อเข่าอักเสบ ข้อเข่าเสื่อมในอนาคตด้วย
การกระโดดเชือกที่ถูกวิธี ต้องเปิดส้นเท้าเล็กน้อย และลงน้ำหนักที่ปลายเท้าเป็นหลัก (ส้นเท้าไม่ควรสัมผัสพื้นเลยตลอดการกระโดด)
ดังนั้นรองเท้ากีฬาที่เหมาะสมจะต้องรองรับแรงกระแทกบริเวณส่วนหน้าเท้า หรือปลายเท้าดี ๆ และพื้นของรองเท้าตรงส่วนนี้ต้องหนาหน่อย
ซึ่งรองเท้ากีฬาที่เน้นรับแรงกระแทกบริเวณปลายเท้า มีหลายประเภทมาก โดยเฉพาะกีฬาที่เน้นการกระโดด
ไม่ว่าจะเป็น รองเท้าบาสเก็ตบอล รองเท้าแบดมินตัน รองเท้าวอลเลย์ รองเท้าอินดอร์ทั่วไป หรือรองเท้าครอสเทรนนิ่ง
โดยที่แหล่งความรู้บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของเมืองนอก ส่วนใหญ่มักจะแนะนำรองเท้าครอสเทรนนิ่งกันมากที่สุด
เนื่องจากเป็นรองเท้าอเนกประสงค์ ใช้งานได้หลากหลาย ให้การทรงตัวและเกาะพื้นได้ดี ในการเคลื่อนไหวทุกทิศทาง
รวมถึงบางรุ่นระบายความร้อนและความชื้นได้ดีใกล้เคียงกับรองเท้าวิ่งอีกด้วย ใส่กระโดดนาน ๆ แล้วไม่อับ เย็นสบายเท้าดี
แต่ส่วนตัวแล้ว ผมนิยมใช้รองเท้าวิ่งเป็นหลักในการกระโดดเชือกครับ ถึงแม้เว็บเมืองนอกจะไม่ค่อยแนะนำก็ตาม
เพราะจากที่ใส่ แล้วลองเทียบกับรองเท้าชนิดอื่น ก็ไม่ได้ให้ผลต่างกันมาก เพราะหลัก ๆ ก็กระโดดกับที่ ไม่ได้เคลื่อนไหวไปมา
จึงไม่ได้ต้องการการทรงตัวที่ดีมากนัก แล้วรองเท้าวิ่งที่ใช้ ตรงหน้าเท้ามันก็หนา รับแรงกระแทกได้ดีพอสมควร
ที่สำคัญคือ วัสดุมันเป็นผ้าโปร่ง กระโดดนาน ๆ แล้วไม่ค่อยร้อน ไม่เหมือนกับรองเท้าแบดฯ ที่เป็นหนังสังเคราะห์ ซึ่งอับเท้าและร้อนมาก
ดังนั้น จากประสบการณ์ของตัวเอง ก็ขอแย้งกูรูกระโดดเชือกฝรั่งหน่อยนะครับ ว่ารองเท้าวิ่งก็ใช้กระโดดเชือกเพื่อออกกำลังกายทั่วไปได้แน่นอน
แค่ให้ดูว่าพื้นรองเท้าตรงส่วนหน้า หนา ๆ รับแรงกระแทกได้ดี ๆ หน่อย แค่นั้นก็ใช้กระโดดเชือกได้สบายแล้วครับ
แต่สำหรับผู้ที่กระโดดเชือกแบบจริงจัง แบบฝึกท่าพลิกแพลงหลากหลาย หรือเน้นเพื่อการแข่งขัน โดยเฉพาะการกระโดดเชือกฟรีสไตล์
(freestyle jump rope) กรณีนี้ รองเท้าครอสเทนนิ่ง จะเหมาะสมกว่าครับ