เห็นช่วงนี้หลายคนชอบพูดกันเรื่องเผด็จการรัฐประหาร ผมขอสวนกระแสพูดเรื่องเผด็จการรัฐสภามั่งนะครับ  ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้ศรัทธาในระบอบประชาธิปไตยอย่างไม่ลืมหูลืมตา แต่ผมเชื่อว่าระบอบประชาธิปไตยเป็นระบอบการปกครองที่ดีที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับการปกครองระบอบอื่นในเวลานี้ แต่ถ้ามองให้ลึกลงไปเผด็จการเสียงข้างมาก( tyranny of the majority)ยังเป็นช่องโหว่ของระบอบประชาธิปไตยที่สามารถเกิดขึ้นได้จริงๆ ถ้าหากประชาธิปไตย มันเดินไปพร้อมกับความยุติธรรมคนในสังคมก็คงจะเดินหน้าไปพร้อมกับระบอบประชาธิปไตยอย่างไม่เป็นปัญหา    แต่ถ้าวันหนึ่งมันเกิดกรณีที่ประชาธิปไตยซึ่งมีองค์ประกอบคือเสียงส่วนใหญ่ มันสวนทางกับ "ความยุติธรรม" คิดว่าคนในสังคมควรจะยืนอยู่ข้างประชาธิปไตย หรือ ความยุติธรรม

****คนที่มีความคิดแบบพวกเจ้าเผด็จการ
-ต้องการ สส.ไม่ต่ำกว่า 400 เสียงเพื่อปิดกั้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ (เรื่องการซื้อ สส.ลองหาข้อมูลจากคำพูดของคุณชวนทีเคยอภิปรายดู)
-แก้กฎหมายสรรพสามิตร
-ปล่อยเงินกู้ให้รัฐบาลพม่าซื้ออุปกรณ์สื่อสารของธุรกิจครอบครัวโดยยอมลดดอกเบี้ยจาก 5เปอร์เซ็นต์เหลือแค่3เปอร์เซ็นต์
-ครอบงำสื่อโดยกดดันให้ฟรีทีวีเสนอข่าวเฉพาะที่เข้าข้างรัฐ ส่วนใครไม่ยอมก็จะโดนอย่างกรณี กบฏไอทีวี  ส่วนวีดีโอเหตุการณ์ตากใบไม่มีสือช่องฟรีทีวีกล้านำเสนอแม้แต่ช่องเดียว

ผมมองว่าจุดอ่อนอย่างหนึ่งของประชาธิปไตยคือ ทำให้มาเฟีย 10 กดขี่ข่มขมเหงคนบริสุทธิ 2คนได้โดยใช้คำว่าเสียงส่วนใหญ่

ส่วนคดีอยู่ในระหว่างการรอให้กลับมาสู้คดี
เฉพาะที่ยังค้างในศาล(รอมาสู้คดี)

1.คดีเอ็กซิมแบงก์ ปล่อยเงินกู้ให้กับรัฐบาลพม่า
2.คดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษ
3.คดีธนาคารกรุงไทย อนุมัติเงินกู้ให้กับบริษัทในเครือกฤษดามหานคร
4.คดีทุจริตโครงการระบบจ่ายไฟฟ้าและเครือข่ายท่อร้อยสายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
5.คดีทุจริตออกกฎหมายแก้ไขค่าสัมปทานโทรศัพท์มือถือและดาวเทียม
6. คดีทุจริตซีทีเอ็กซ์ 9000



******************วันนี้กลับมาอ่านอีกทีรู้สึกว่าบรรยากาศในกระทู้ค่อนข้างแรงจริงๆ (จริงๆก็รู้อยู่แล้ว) แต่อยากสะท้อนความเห็นของเสียงหนึ่งที่ไม่เอาคุณทักษิณ คำว่า " เผด็จการรัฐสภา" คงสะกิดต่อมบางอย่างของใครต่อใคร ขอแปะหน้ายิ้มเพื่อลดบรรยากาศที่รุนแรงในการแสดงความคิดเห็นนะครับ**************************