เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า

ผมซื้อเจ้าโปติเจ้ 1.8 มาไว้ให้แม่ขับใช้งาน

ต่อมา..

แม่ผมใช้น้องเขยเอาไปล้างดูดฝุ่นทำความสะอาดที่คาร์แคร์
เจ้าโปเต้ผมซึ่งมีอาการประจำตัวข้อหนึ่งคือ "รอบเดินเบาสวิง" (ยังไม่ได้แก้ไข)
ไอ้เจ้าน้องเขย(ทำงานเป็นช่างศูนย์โตโยต้าฝึกหัด) คงเห็นรอบสวิง ๆ
จึงตัดสินใจ "รื้อ" ชุดหัวฉีด โดยไม่ถงไม่ถามปัญหาเรื่องสุขภาพซ้ากคำ  

แล้วรถก็สตาร์ทไม่ติดพังคามือช่างศูนย์(มือสมัครเล่น)
เจ้าน้องเขยเก็บเรื่องที่มันทำรถพังนี้เป็นความลับ บ่ายเบี่ยงไม่ยอมบอกว่ารถไปใหน

วันต่อมา น้องเขยให้ช่างรุ่นพี่อีกคนที่ศูนย์โตโยต้าที่มันทำงานนั่นแหละ รื้อต่อ
.... ก็ยังพังเหมือนเดิม

วันที่สาม มันยังไม่ละความพยายาม ให้เพื่อนมันซึ่งเป็นช่างฝึกหัดจบใหม่ "รื้อ" ต่อ
อีกหนึ่งคำรพ ก็ยังพัง สตาร์ทเท่าไหร่ก็ไม่ติด สตาร์ทจนน้ำมันเกือบหมดถัง

ไอ้เพื่อนน้องเขยผมคนนี้พี่ชายมันเปิดอู่ มันเลยแนะนำให้ลากรถผมเข้าอู่พี่ชายมัน

ณ ตอนนี้ในครอบครัวก็ยังไม่มีใครทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าโปเต้คันงาม

นอกจากแม่ผมที่คะยั้นคะยอถามจนมันเอ่ยปากว่าตอนนี้รถอยู่ที่อู่ โดยให้เหตุผลว่า

เห็นรอบมันสวิง ๆ เลยจะเช็คให้

/ / / / / / / / / /


หลังจากโดนแม่ผมเทศน์ไปกัณฑ์ใหญ่ จึงยอมรับว่ามันรื้อซะพังคามือ

และลากไปไว้ที่อู่พี่เพื่อนมัน หลังจากทราบเรื่องผมลางานและเดินทางกลับบ้านทันที

เพื่อไปดูใจ เจ้าโปเต้  

/ / / / / / /

อู่นี้มีชื่อว่า หนองเซอร์วิส (นามสมมติ)

มีช่างทำงานอยู่ราว ๆ เกือบสิบคนรวมเจ้าของอู่

เจ้าโปเต้จอดตากแดดนิ่งไม่ไหวติงอยู่หลังอู่

ผมเปิดฝากระโปรงทันที หัวใจแทบสลาย ชุดสายไฟต่าง ๆ ระบบหัวฉีด,

หัวเทียน และสาย ระเกะระกะ รกรุงรังอยู่ในห้องเครื่อง สายไฟอีกบางส่วนกองอยู่บนเบาะ

เจ้าโปเต้เปรียบเสมือนสาวน้อยถูกรุมโทรมข่มขืน ปู้ยี่ปู้ยำซะจนไม่มีชิ้นดี !

นี่พวกมันยำรถผมไปถึงใหนต่อให้อะไรบ้างก็ไม่อาจทราบได้ !!

/ / / / / /

เจ้าโปเต้หลังจากถูกกระทำชำเราแล้ว ได้แต่นอนรอหมอบนเตียงผู้ป่วยไร้ญาติ

ที่เขาไม่ยอมรักษาให้ รอให้ใครสักคนแสดงตัวเป็นญาติรับผิดชอบค่าใช้จ่าย หมอจึงจะยอมดูแลรักษาให้

ผมถามเจ้าของอู่ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น เขาแจ้งว่า รถเสียมาจากที่ใหนไม่รู้ถูกลากมากอง

ไว้ที่นี่ ผมถามต่อทันทีว่า รถเสียตรงใหน เขาแจ้งว่า เครื่องหลวมไม่มีกำลังอัด
อาการหนัก ต้องเปลี่ยนอะไหล่เยอะพอดู ให้เตรียมเงินค่าซ่อมเป็นจำนวนหลักหมื่นบาท



ผมรู้สึกว่ามันต้องมีอะไรผิดปกติ ถึงแม้จะเป็นรถซื้อมือสองมา และวิ่งมาแล้ว 1.7 แสนกิโล

แต่เครื่องก็ยังเดินนิ่มใช้ได้ ตัวถึงสวยคานหน้าคานหลังรักแร้ประตูไม่มีร่องรอยการชนหนักมา

จะมีปัญหาหนักใจก็คือเรื่องอาการรอบสวิงเท่านั้น แล้วมันจะมาเครื่องหลวมอะไรตอนใหน

///////// /////////

แม่ผมขออนุญาตอู่ ขอไปตามนายช่างใหญ่อู่อื่น ซึ่งรู้จักกันเป็นการส่วนตัวให้มาช่วยดู
เขาก็อนุญาตโดยไม่เต็มใจนัก (แต่ด้วยเกรงใจแม่ผมเพราะรู้จักกันมานานจึงอนุญาต)

ช่างใหญ่มาถึงก็ขออนุญาตเปิดฝากระโปรงดูทันที หลังจากวิเคราะห์เบื้องต้นแล้ว
จึงขอยืมประแจและเครื่องมืออู่2-3ชิ้น ประกอบ ชุดสายไฟ ชุดหัวฉีด เก็บงาน
เช็ดขี้เช็ดเยี่ยวที่ไอ้พวกช่างใหม่มันทำเอาไว้ ท่ามกลางแดดที่แผดเผาจนเหงื่อไหลเป็นน้ำ
(โดยมีผมเป็นลูกมือ)หลังจากประกอบเบื้องต้นดูแล้ว ก็ลองสตาร์ทดู เจ้าโปเต้พยายามเบ่งพลัง
สตาร์ทตัวเองอยู่ ไอโครกครากเหมือนคนป่วยอยู่ประมาณ 5 นาที ช่างใหญ่บอกให้ผม
ไปซื้อน้ำมันเบ็นซินมาเติม 1 แกลลอน เพราะน้ำมันที่มีอยู่ก้นถังปั๊มดูดขึ้นไม่สะดวก

ครึ่งชั่วโมงต่อมาผมก็มาพร้อมน้ำมัน 1 แกลลอน จัดแจงเติมทันที
และลองสตาร์ทดูอีกครั้ง เจ้าโปเต้พยายามให้ความร่วมมือ เบ่งพลังเต็มที่
ไอโครกครากอยู่แป๊บนึง ช่างใหญ่ขยับสายคันเร่งเข้าออกจนเครื่องติด!
บรื้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน................

ควันโขมงเต็มอู่หนองเซอร์วิส

/ / / / / / / / / / // / / /

อู่หนองเซอร์วิสมีช่างอยู่กันเป็นสิบซ่อมให้เครื่องติดไม่ได้

ช่างใหญ่เดินเข้าไปหนึ่งชั่วโมง บรืนนนน ขับออกมาได้ !



ผมว่าอู่นี้เขาไม่ได้กากหรอก แต่เขากะจะฟันค่าซ่อมผมมากกว่า

มาถึงบอกกำลังอัดหายส่งเดช รถผมไม่ได้เป็นอะไร รอบเครื่องเดินนิ่มดี

มันมาพังเพราะช่างปัญญาอ่อนรื้อมั่วแค่นั้น หลังจากขับออกมาได้ ผมพาเข้าโปเต้

ไปเติมพลังเบ็นซินที่ปั๊มน้ำมันก่อน พบว่า เครื่องรวน เดินสะดุด ทำงานไม่ครบสูบ

กำลังหาย ขึ้นสะพานลำบาก เปิดแอร์เบาดับ ควันท่วมเป็นรถขายไก่ย่างสูตรน้ำจิ้มแจ่วฯลฯ

หลังจากเติมน้ำมันผมเบิ่งรถขายไก่ย่าง ปุเลง ปุเลง ไปอู่ช่างใหญ่ทันที

/////////////////

เบื้องต้นพบว่าการจุดระเบิดคร่อมจังหวะกัน ช่างใหญ่ลองสลับสายหัวเทียนดูก่อน
เพราะไอ่คนถอดมันไม่ได้ทำมาร์กเอาไว้ว่าสูบใหนเป็นสูบใหน ถู ๆ ไถ ๆ จนถูกต้องสี่สูบ
ดีขึ้ันนิดหน่อยแต่ก็ยังควันท่วมอยู่เหมือนเดิม ช่างใหญ่ถอดหัวเทียนออกมาเช็คดูว่า
มีหัวใหนบอดหรือไม่ หลังจากถอดหัวเทียน ช่างให้ผมลองสตาร์ตโดยไม่มีหัวเทียนดู
ปรากฏว่า มีน้ำมันเบ็นซินถูกอัดพุ่งกระฉูดดุจปลาวาฬพ่นน้ำ ออกมาจากสูบที่สี่

ช่างเอาไฟฉายส่องทันที จากนั้นจึงให้ผมดูด้วยตาของตนเองผ่านช่องหัวเทียน

ภาพที่เห็นคือ มีน้ำมันท่วมอยู่เต็มกระบอกสูบ ชนิดคนรักปลาสวยงามสามารถเลี้ยงปลาหางนกยูงไว้ในนั้นได้เลยทีเดียว

นี่มันอะไรกัน!!!!!!!

สรุปอาการตอนนี้คือ หัวฉีดเน่า 1 หัว มันคงเอ๋อจนลืมชาติกำเนิดไปว่า

มันคือหัวฉีด มันแปรสภาพตัวเองเป็นก๊อกน้ำตราซันว่า ปล่อยน้ำมันไหลโจ๊ก ๆ

เข้าไปสะสมในกระบอกสูบเพื่อเลี้ยงปลาหางนกยูงไปซะฉิบ

อู่ปิดพอดี วันนี้ช่างใหญ่เมตตาดูรถโปเต้ให้ผมจนดึก ผมจึงหยุดรบกวนเขา

แล้ววันรุ่งขึ้นค่อยว่ากันใหม่

ผมจะทำยังไงต่อไปดีครับ