คำนำจากผู้เขียน
เมื่อยังเด็ก ผมมักถูกป้อนความเชื่อเข้าหัวอยู่เสมอว่า คนเก่งเท่านั้นที่เอาตัวรอดบนโลกใบนี้ได้ ...
ความรู้คือที่สุดครับ ในยุคที่เทคโนโลยีกำลังล้ำหน้า ตำราล้ำสมัยเช่นนี้ ยิ่งเหลื่อมล้ำมากขึ้นเท่าไหร่ ปัญญาคนก็ต้องสูงขึ้นตามให้ทันมากเท่านั้น
นี่จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้โลกยุคโลกาวิวัฒน์ในปัจจุบันนั้นมีการแข่งขันสูงขึ้นกว่าปกติ
ถ้าจะทำว่าทำอย่างไรจึงจะประสบความสำเร็จในชีวิต ผมตอบได้เลยว่า “ ไม่ยาก “ ครับ สำหรับเด็กวัยรุ่นยุคใหม่
หากอยากจะดังเพียงชั่วข้ามคืน ง่ายมากครับ เพียงแค่คุณทำอะไรที่บ้าๆ บอๆ เปิดยูทูปแล้วก็จัดการดีด สี ตี เป่าเต้น หรือ ร้องเพลง บรรเลง ตามสไตล์ของตนเองเลย
ถ้าน่ารักหน่อยก็โชคดีไป แอ๊บแบ๊วนิดๆหน่อยๆ ซักประเดี๋ยว “ Like “ ก็มากันให้ “ พรึ่บ “
แต่ถ้าหน้าไม่ให้ แต่ใจรักก็พยายาม “ Keep Walking “ สู้ต่อไป และ ด้านเข้าไว้ครับ พยายาม “ คิดต่าง “ แล้วทำอะไรที่แปลกใหม่ พิสดาร
เพราะ คนไทยฮือฮาง่ายครับ หากมันเป็นสิ่งที่ “ แหวกแนว “ เห็นแล้วสะกิดใจ แค่นี้ก็ได้เกิดแล้ว ! ฮ่า ฮ่า !
ที่กล่าวมาข้างต้นนี่ เขียนเอาขำนะครับ อย่าได้คิดเป็นตุเป็นตะกันไป เพียงแต่นี่คือสิ่งทีเกิดขึ้นจริง และ สะท้อนสังคมยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี …
กังนัมสไตล์ที่ว่าไม่มีอะไรก็ดังมาแล้ว หรือจะ “ Harlem Shake “ ก็ยังดังสนั่นมาทั้งเมืองได้
แต่ที่สุดนี่คงต้องยกให้ “ น้องเนย รักษ์โลก “ ครับ ผู้คนติดตามfollowกันอย่างแหลกลาน ...
ทั้งที่รู้กันอยู่เต็มอกว่า ที่โพสต์มานี่ “ ไม่ใช่ตัวจริง “
ย้อนกลับมาที่เรื่องของความรู้ ผมรู้สึกว่า ตนเองโชคดีเหลือหลายที่ได้เกิดมาในยุค “ Social Network “ เช่นนี้
หากอยากหาความรู้มาประดับภูมิใส่ตัว คิดไรไม่ออกก็บอก “ อากู๋ “ โลดเลยครับ เดี๋ยวพี่กู๋จัดให้ พร้อมบริการฟรี ไม่คิด “ สตางค์ “
เหลือบตามองรอบกาย หากอยากสอบเอนติดต้องนี่เลย “ สถาบันกวดวิชา “ ที่พร้อมจะเปิดเผยกลยุทธ์ เทคนิคพิชิตข้อสอบแบบ “ ขั้นเทพ “ ให้คุณได้ “ อึ้ง ตะลึง ทึง เสียว “ ไปกับมัน ...
เพียงแต่มีเงื่อนไขอยู่เพียงแค่ข้อเดียวเท่านั้นครับคือ “ แค่มีเงิน “
ครับ แค่มีเงินเองครับ แค่มีเงิน ........
“ แค่คุณรวย “ เท่านั้นเอง Ha Ha !
สำหรับตัวผมนั้น ครั้งล่าสุดที่เรียน เกิดขึ้นเมื่อตอนสมัย “ มัธยมต้น “ .... ส่วนในช่วงชีวิตมัธยมปลาย สมัยแอดมิชชั่นน่ะเหรอ !?
คำตอบคือ “ ไม่เครับ “
สาเหตุหลักไม่ใช่อะไรหรอกครับ เพราะ “ ความขี้เกียจ “ มันนำพาผมออกห่างจากความรู้ไปต่างหาก ! [ ฮาาา ]
นอกเรื่องไปตั้งไกล สิ่งที่ผมต้องการจะสื่อในเรื่องนี้มิใช่ “ ตำรา “ หนังสือในแบบใครๆ ....
หากแต่เป็น “ ตำราชีวิต “ ต่างหาก ....
ตามที่เกริ่นไว้ต้นเรื่องเลยครับ ผมถูกสอนมาว่า “ ความรู้คือที่สุด “ ผู้ที่มีความรู้เท่านั้นที่จะสามารถอยู่รอดได้
ผมเชื่อว่าเด็กรุ่นใหม่หลายคนรุ่นเดียวกับผม หรือ ต่ำกว่านั้น ก็ถูกบ่มเพาะมาเช่นนี้เหมือนกัน ...
ไม่แปลกหรอกครับที่จะกล่าวแบบนั้น เพราะ ความรู้ก็เปรียบดั่ง “ พื้นฐาน “ ที่เราสามารถนำมันไปต่อยอดสู่ “ ความสำเร็จ “ ได้
มันเป็นพื้นฐานขั้น “ Basic “ หากเรามีความรู้ โอกาสที่จะทำเงิน และ โด่งดัง ก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ ....
หากแต่นั่นเป็นการนำเสนอ “ มุมมอง “ ในแง่เดียวครับ คนส่วนใหญ่มักตั้งเป้าที่จะ “ประสบความสำเร็จ “ ในด้านของความก้าวหน้าทางอาชีพ
แต่หลายคนคงลืมไปว่า “ ความสำเร็จทางธรรม “ ก็สำคัญไม่แพ้กัน ...
หรือพูดง่ายๆว่า “ คุณธรรม “ นั่นเอง
หากมีเพียงแค่ “ อาชีพที่ก้าวหน้า “ เพียงอย่างเดียว แต่ไร้ซึ่ง “ จรรยาบรรณ “ สังคมไทยเราก็คงไม่ต่างกับทุกวันนี้หรอกครับ
ของแบบนี้มันต้องไป “ ควบคู่ “ กัน ….
ดังนั้น “ ตำราชีวิต “ ที่ผมจะเขียนนับจากนี้ไปนั้นจะเน้นในเรื่อง “ คุณค่า และ บทเรียนในการใช้ชีวิต “ ที่เกิดขึ้นจากความผิดพลาดของตัวเราเอง
นำความผิดหวังมาแปรรูปเป็น “ บทเรียน “ ซะ หรืออาจศึกษาได้จากคนรอบข้างรอบกาย แม้กระทั่งการดูโทรทัศน์ แบบลอยๆ ก็ยังแฝงไปด้วย “ แง่คิด คารม คมคาย “ มากมาย ....
“ ตำราชีวิต “ นี้จึงถูกเขียนมาเพื่อสร้างกำลังใจ และ แรงบันดาลใจในการขับเคลื่อนชีวิตต่อไปของใครหลายๆคน ...
อาจไม่ได้ช่วยทำให้หน้าที่การงานนั้นดีขึ้น แต่อย่างน้อยๆ ผมก็หวังว่าเมื่ออ่านเล่มนี้จบแล้ว จะสามารถสร้างมุมมองใหม่ๆให้กับคนที่ “ หมดอาลัยตายอยาก “ พลิกชีวิตกลับมา “ ฮึดกับมัน “ ได้
และที่สำคัญคือ แม้มันจะไม่ได้ให้ความรู้ในเชิงวิชาการอะไรมากมาย ....
แต่ในแง่ของการใช้ชีวิตแล้ว นี่คือ “ ตำรา “ ที่หาไม่ได้ทั่วๆไป เพราะ เป็นตำราที่ทุกท่านจะไม่มีวันพบในหนังสือเรียน ...
เปรียบดั่ง “ ตำรานอกห้องเรียน “ นั่นเอง ...
Master Reed
ตำราชีวิต ตอน " กำลังใจ "
เมื่อยังเด็ก ผมมักถูกป้อนความเชื่อเข้าหัวอยู่เสมอว่า คนเก่งเท่านั้นที่เอาตัวรอดบนโลกใบนี้ได้ ...
ความรู้คือที่สุดครับ ในยุคที่เทคโนโลยีกำลังล้ำหน้า ตำราล้ำสมัยเช่นนี้ ยิ่งเหลื่อมล้ำมากขึ้นเท่าไหร่ ปัญญาคนก็ต้องสูงขึ้นตามให้ทันมากเท่านั้น
นี่จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้โลกยุคโลกาวิวัฒน์ในปัจจุบันนั้นมีการแข่งขันสูงขึ้นกว่าปกติ
ถ้าจะทำว่าทำอย่างไรจึงจะประสบความสำเร็จในชีวิต ผมตอบได้เลยว่า “ ไม่ยาก “ ครับ สำหรับเด็กวัยรุ่นยุคใหม่
หากอยากจะดังเพียงชั่วข้ามคืน ง่ายมากครับ เพียงแค่คุณทำอะไรที่บ้าๆ บอๆ เปิดยูทูปแล้วก็จัดการดีด สี ตี เป่าเต้น หรือ ร้องเพลง บรรเลง ตามสไตล์ของตนเองเลย
ถ้าน่ารักหน่อยก็โชคดีไป แอ๊บแบ๊วนิดๆหน่อยๆ ซักประเดี๋ยว “ Like “ ก็มากันให้ “ พรึ่บ “
แต่ถ้าหน้าไม่ให้ แต่ใจรักก็พยายาม “ Keep Walking “ สู้ต่อไป และ ด้านเข้าไว้ครับ พยายาม “ คิดต่าง “ แล้วทำอะไรที่แปลกใหม่ พิสดาร
เพราะ คนไทยฮือฮาง่ายครับ หากมันเป็นสิ่งที่ “ แหวกแนว “ เห็นแล้วสะกิดใจ แค่นี้ก็ได้เกิดแล้ว ! ฮ่า ฮ่า !
ที่กล่าวมาข้างต้นนี่ เขียนเอาขำนะครับ อย่าได้คิดเป็นตุเป็นตะกันไป เพียงแต่นี่คือสิ่งทีเกิดขึ้นจริง และ สะท้อนสังคมยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี …
กังนัมสไตล์ที่ว่าไม่มีอะไรก็ดังมาแล้ว หรือจะ “ Harlem Shake “ ก็ยังดังสนั่นมาทั้งเมืองได้
แต่ที่สุดนี่คงต้องยกให้ “ น้องเนย รักษ์โลก “ ครับ ผู้คนติดตามfollowกันอย่างแหลกลาน ...
ทั้งที่รู้กันอยู่เต็มอกว่า ที่โพสต์มานี่ “ ไม่ใช่ตัวจริง “
ย้อนกลับมาที่เรื่องของความรู้ ผมรู้สึกว่า ตนเองโชคดีเหลือหลายที่ได้เกิดมาในยุค “ Social Network “ เช่นนี้
หากอยากหาความรู้มาประดับภูมิใส่ตัว คิดไรไม่ออกก็บอก “ อากู๋ “ โลดเลยครับ เดี๋ยวพี่กู๋จัดให้ พร้อมบริการฟรี ไม่คิด “ สตางค์ “
เหลือบตามองรอบกาย หากอยากสอบเอนติดต้องนี่เลย “ สถาบันกวดวิชา “ ที่พร้อมจะเปิดเผยกลยุทธ์ เทคนิคพิชิตข้อสอบแบบ “ ขั้นเทพ “ ให้คุณได้ “ อึ้ง ตะลึง ทึง เสียว “ ไปกับมัน ...
เพียงแต่มีเงื่อนไขอยู่เพียงแค่ข้อเดียวเท่านั้นครับคือ “ แค่มีเงิน “
ครับ แค่มีเงินเองครับ แค่มีเงิน ........
“ แค่คุณรวย “ เท่านั้นเอง Ha Ha !
สำหรับตัวผมนั้น ครั้งล่าสุดที่เรียน เกิดขึ้นเมื่อตอนสมัย “ มัธยมต้น “ .... ส่วนในช่วงชีวิตมัธยมปลาย สมัยแอดมิชชั่นน่ะเหรอ !?
คำตอบคือ “ ไม่เครับ “
สาเหตุหลักไม่ใช่อะไรหรอกครับ เพราะ “ ความขี้เกียจ “ มันนำพาผมออกห่างจากความรู้ไปต่างหาก ! [ ฮาาา ]
นอกเรื่องไปตั้งไกล สิ่งที่ผมต้องการจะสื่อในเรื่องนี้มิใช่ “ ตำรา “ หนังสือในแบบใครๆ ....
หากแต่เป็น “ ตำราชีวิต “ ต่างหาก ....
ตามที่เกริ่นไว้ต้นเรื่องเลยครับ ผมถูกสอนมาว่า “ ความรู้คือที่สุด “ ผู้ที่มีความรู้เท่านั้นที่จะสามารถอยู่รอดได้
ผมเชื่อว่าเด็กรุ่นใหม่หลายคนรุ่นเดียวกับผม หรือ ต่ำกว่านั้น ก็ถูกบ่มเพาะมาเช่นนี้เหมือนกัน ...
ไม่แปลกหรอกครับที่จะกล่าวแบบนั้น เพราะ ความรู้ก็เปรียบดั่ง “ พื้นฐาน “ ที่เราสามารถนำมันไปต่อยอดสู่ “ ความสำเร็จ “ ได้
มันเป็นพื้นฐานขั้น “ Basic “ หากเรามีความรู้ โอกาสที่จะทำเงิน และ โด่งดัง ก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ ....
หากแต่นั่นเป็นการนำเสนอ “ มุมมอง “ ในแง่เดียวครับ คนส่วนใหญ่มักตั้งเป้าที่จะ “ประสบความสำเร็จ “ ในด้านของความก้าวหน้าทางอาชีพ
แต่หลายคนคงลืมไปว่า “ ความสำเร็จทางธรรม “ ก็สำคัญไม่แพ้กัน ...
หรือพูดง่ายๆว่า “ คุณธรรม “ นั่นเอง
หากมีเพียงแค่ “ อาชีพที่ก้าวหน้า “ เพียงอย่างเดียว แต่ไร้ซึ่ง “ จรรยาบรรณ “ สังคมไทยเราก็คงไม่ต่างกับทุกวันนี้หรอกครับ
ของแบบนี้มันต้องไป “ ควบคู่ “ กัน ….
ดังนั้น “ ตำราชีวิต “ ที่ผมจะเขียนนับจากนี้ไปนั้นจะเน้นในเรื่อง “ คุณค่า และ บทเรียนในการใช้ชีวิต “ ที่เกิดขึ้นจากความผิดพลาดของตัวเราเอง
นำความผิดหวังมาแปรรูปเป็น “ บทเรียน “ ซะ หรืออาจศึกษาได้จากคนรอบข้างรอบกาย แม้กระทั่งการดูโทรทัศน์ แบบลอยๆ ก็ยังแฝงไปด้วย “ แง่คิด คารม คมคาย “ มากมาย ....
“ ตำราชีวิต “ นี้จึงถูกเขียนมาเพื่อสร้างกำลังใจ และ แรงบันดาลใจในการขับเคลื่อนชีวิตต่อไปของใครหลายๆคน ...
อาจไม่ได้ช่วยทำให้หน้าที่การงานนั้นดีขึ้น แต่อย่างน้อยๆ ผมก็หวังว่าเมื่ออ่านเล่มนี้จบแล้ว จะสามารถสร้างมุมมองใหม่ๆให้กับคนที่ “ หมดอาลัยตายอยาก “ พลิกชีวิตกลับมา “ ฮึดกับมัน “ ได้
และที่สำคัญคือ แม้มันจะไม่ได้ให้ความรู้ในเชิงวิชาการอะไรมากมาย ....
แต่ในแง่ของการใช้ชีวิตแล้ว นี่คือ “ ตำรา “ ที่หาไม่ได้ทั่วๆไป เพราะ เป็นตำราที่ทุกท่านจะไม่มีวันพบในหนังสือเรียน ...
เปรียบดั่ง “ ตำรานอกห้องเรียน “ นั่นเอง ...
Master Reed