ความเดิมตอนที่แล้ว
เบื้องหลังกำแพงแดงคือดินแดนต้องห้ามที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกร แต่ใครเลยจะรู้ว่า.. สถานที่แห่งนี้กลับเต็มไปด้วยเรื่องโกหกพกลม ข่าวลือจอมปลอม ความทะเยอทะยานและความอิจฉาริษยา ที่ทำให้พี่น้องร่วมสายเลือดต้องหันหน้าเข้าห้ำหั่นกันอย่างไม่ปราณี
ฉุนไท่เฟย สนมของอดีตฮ่องเต้องค์ก่อน วางแผนกุเรื่องเลวร้ายต่างๆนาๆ เพื่อป้ายสีพี่สาวร่วมสายเลือดอย่าง
สนมหยู ให้มัวหมอง เพื่อสนองตอบความคับแค้นของตัวเอง เพราะนางเชื่ออย่างหมดใจว่า ที่นางต้องเป็นม่าย ต้องทนทุกข์ทรมาณอยู่ในวังหลวงแห่งนี้ ก็เพราะแผนการณ์อันร้ายกาจของผู้เป็นพี่นั่นเอง ด้วยเหตุนี้นางจึงวางแผนให้ทุกคนทั้งในและนอกวังเข้าใจว่าพี่สาวของตัวเองเป็นสนมที่ร้ายกาจโหดเหี้ยมเพียงใด ทั้งที่ความจริงเป็นเช่นไรไม่มีใครล่วงรู้เลย
ข่าวลือไม่เพียงส่งผลกระทบถึงสนมหยูโดยตรงเท่านั้น หากยังส่งผลถึงทุกก้าวย่างของผู้คนในอีกด้วย จึงเกิดธุรกิจสืบหาความจริงเพื่อหาประโยชน์จากข่าวลือขึ้น และหนึ่งในนั้นก็คือผู้ที่รับใช้ใกล้ชิดสนมหยูและองค์ชาย 5 มากที่สุดคนหนึ่งนั่นก็คือ แม่นม
เซิงหลิง แม่นมขององค์ชาย 5 นั่นเอง (ขออภัยที่กระทู้่ก่อนเรียกเฉิงหลิง)
เพิ่มเติม:http://ppantip.com/topic/30398573
ตอน 2
หลังว่างเว้นจากงานแสดง เหลาเฟย มักจะใช้เวลาพักผ่อนด้วยการเข้าบ่อนเดิมพันอยู่เสมอ และน่าแปลกที่เค้าเป็นคนดวงดีอย่างน่าทึ่ง เดิมพัน 20 ครั้ง ไม่เคยพลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทุกคนจึงพากันแทงตามเค้าจนได้เงินเป็นกอบเป็นกำ แต่มีชายอยู่คนหนึ่งซึ่งไม่คิดว่าเขาจะโชคดีได้ตลอดไป แต่ก็พลาดท่าเสียเงินจนได้ เหลาเฟยจึงบอกกับเจ้ามือว่าจะขอจ่ายหนี้ทั้งหมดให้เค้าด้วยตัวเอง
ในคณะอุปรากรจีนมีชื่อ ใครเลยจะรู้ว่าเบื้องหน้าที่แสนตื่นตาตระการใจของสองพระนางอย่างเหลาเฟยและ
เช่าหยวน (Chau-yuen) จะเต็มไปด้วยความขัดแย้งทะเลาะเบาะแว้งไม่เว้นว่าง เหลาเฟยมักจะค่อนแคะและดูถูกเช่าหยวนว่าอิจฉาริษยาตน เพราะเช่าหยวนรับบทเป็นตัวนาง ซึ่งหามีใครสนใจใคร่ดูไม่!
ทางด้านวังหลวง แม้จะยิ่งใหญ่ถึงเพียงใด ก็ไม่อาจขวางกั้นหัวใจรักของหนุ่มสาวภายในได้ นางกำนัลน้อยใหญ่มักจะแอบมาทำสัญลักษณ์แทนใจด้วยการเรียงหินเป็นตัวอักษรคำว่า "หัวใจ"
ชุนหลัม (Chun-Lum) สาวใช้ของเซิงหลิงก็เช่นกัน นางลอบเอาร่มคันหนึ่งไปวางไว้หน้าประตูเพื่อรอให้คนผู้หนึ่งได้หยิบขึ้นใช้ ความพยายามของนางไม่ไร้ความหมาย ชายในฝันของนางหยิบร่มคันนั้นขึ้นใช้จริงๆ ชุนหลัมได้แต่มองดูทั้งตัวเปียกปอนด้วยความปลาบปลื้มใจ ระหว่างเดินทางกลับ ปรากฏว่าก้อนหินรูปอักษร "หัวใจ" ที่มีนางกำนัลคนหนึ่งมาวางเรียงไว้ ถูกผู้อื่นมาเติมเต็มจนกลายเป็นคำว่า "คิดถึง" เรียบร้อยแล้ว
หลังจากกลับมาทั้งตัวเปียกปอน ชุนหลัมก็ถูกเซิงหลิงตำหนิเรื่องผ้าปัก ที่มีความหมายสื่อไปในเชิงรักใคร่ เซิงหลิงกล่าวว่าตนรู้ว่าชายในฝันของชุนหลัมนั้นเป็นใคร ทั้งยังรู้ด้วยว่านางแอบไปเฝ้ามองเค้าอยู่บ่อยๆ ชุนหลัมตกใจกลัว รีบเอ่ยปากขออภัยต่อนายหญิง บอกว่าจะไม่ทำเช่นนั้นอีกต่อไป เซิงหลิงกล่าวว่านางเข้าใจความรู้สึกของหญิงสาวที่ไม่อาจต้านทานความรัก แต่การทำเช่นนี้อาจนำมาซึ่งความตายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องข่าวลือในวังหลวง ชุนหลัมแย้งว่ามันไม่ใช่ข่าวลืออีกต่อไปแล้ว เพราะทุกคนที่นี่ต่างได้ยินเพลงขลุ่ยที่มีบุคคลลึกลับขับกล่อมในยามราตรีกันทั้งนั้น
เช่าหยวนคุยกับผู้เป็นภรรยาเกี่ยวกับพฤติกรรมของเหลาเฟย ที่ออกไปเที่ยวเตร่หาความสำราญ ทั้งสุรานารี ฝิ่น พนัน เพราะความเจ็บปวดในเรื่องความรัก เช่าหยวนถามภรรยาว่าทำไมจึงนำจดหมายที่
หยวนชิง (Yuen-Ching) อดีตคนรักของเหลาเฟยไปซ่อน เช่าหยวนบอกนางว่าการทำเช่นนั้นจะไม่เกิดผลดีต่อตัวเหลาเฟยและหยวนชิง ดังนั้นเค้าจึงตั้งใจจะไปพบกับหยวนชิงด้วยตัวเค้าเอง
คืนนั้นเหลาเฟยต้องตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง เมื่อนางงิ้วที่ร่วมแสดงกับเค้าบนเวที หาใช่เช่าหยวนไม่ ทว่าเป็นหยวนชิงต่างหาก ทั้งสองจึงร่วมแสดงด้วยความโศกเศร้า (ซึ่งแฟนละครฮ่องกงหลายคนกล่าวว่า การแสดงงิ้วเรื่องดังกล่าวมีนัยที่สื่อถึงความสัมพันธ์ของคนทั้งสอง แต่ผู้ชมจำต้องมีความรู้ในเรื่องนี้พอสมควรจึงจะเข้าใจได้) หลังจากเหตุการณ์คราวนั้น เหลาเฟยจึงรู้สึกโกรธเคืองเช่าหยวนเป็นอย่างมาก แต่เช่าหยวนต่อว่าเค้าว่าเอาแต่ทำร้ายจิตใจผู้อื่น และไม่ได้รักหยวนชิงเลยแม้แต่น้อย เค้ารักแต่ตัวเองเท่านั้น เหลาเฟยไม่สนใจ ขึ้นเกี้ยวจากไปในทันที บนถนนที่ผู้คนเดินขวักไขว่ เกี้ยวสีทองและเงินที่สวนทางกันไปนั้น ก็คือเกี้ยวของหยวนชิงและเหลาเฟยนั่นเอง
กลางดึกคืนนั้น.. จู่ๆเพลงขลุ่ยก็ดังกังวาลไปทั่วอีกครั้งหนึ่ง ปลุกให้หัวหน้านางกำนัล
มัคโดยี (Muk-do-yee) ที่กรำงานหนักจนฟุบหลับไปตื่นจากนิทรา แล้วจึงเที่ยวตามหามือขลุ่ยคนนั้น ในที่สุดนางก็พบตัวชายผู้นั้นพร้อมๆกันกับบรรดานายทหาร.
(ขออภัยที่ตอนนี้มาแบบสั้นๆ เพราะเน้นเรื่องงิ้วมากเหลือเกิน
อีกอย่างตอนนี้หยูเฟยและฉุนไท่เฟยไม่ออกซักฉาก เลยขอรวบรัดตัดตอน)
ตบท้ายด้วย 紫禁飘谣 เพลง Ending ของละครเรื่องนี้ที่ขับร้องโดยเจ๊อู๋และเฉินห้าวค่ะ
เรื่องย่อละคร "ศึกรักจอมราชันย์ภาค 2" ตอน 2-4
ความเดิมตอนที่แล้ว
เบื้องหลังกำแพงแดงคือดินแดนต้องห้ามที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกร แต่ใครเลยจะรู้ว่า.. สถานที่แห่งนี้กลับเต็มไปด้วยเรื่องโกหกพกลม ข่าวลือจอมปลอม ความทะเยอทะยานและความอิจฉาริษยา ที่ทำให้พี่น้องร่วมสายเลือดต้องหันหน้าเข้าห้ำหั่นกันอย่างไม่ปราณี
ฉุนไท่เฟย สนมของอดีตฮ่องเต้องค์ก่อน วางแผนกุเรื่องเลวร้ายต่างๆนาๆ เพื่อป้ายสีพี่สาวร่วมสายเลือดอย่าง สนมหยู ให้มัวหมอง เพื่อสนองตอบความคับแค้นของตัวเอง เพราะนางเชื่ออย่างหมดใจว่า ที่นางต้องเป็นม่าย ต้องทนทุกข์ทรมาณอยู่ในวังหลวงแห่งนี้ ก็เพราะแผนการณ์อันร้ายกาจของผู้เป็นพี่นั่นเอง ด้วยเหตุนี้นางจึงวางแผนให้ทุกคนทั้งในและนอกวังเข้าใจว่าพี่สาวของตัวเองเป็นสนมที่ร้ายกาจโหดเหี้ยมเพียงใด ทั้งที่ความจริงเป็นเช่นไรไม่มีใครล่วงรู้เลย
ข่าวลือไม่เพียงส่งผลกระทบถึงสนมหยูโดยตรงเท่านั้น หากยังส่งผลถึงทุกก้าวย่างของผู้คนในอีกด้วย จึงเกิดธุรกิจสืบหาความจริงเพื่อหาประโยชน์จากข่าวลือขึ้น และหนึ่งในนั้นก็คือผู้ที่รับใช้ใกล้ชิดสนมหยูและองค์ชาย 5 มากที่สุดคนหนึ่งนั่นก็คือ แม่นมเซิงหลิง แม่นมขององค์ชาย 5 นั่นเอง (ขออภัยที่กระทู้่ก่อนเรียกเฉิงหลิง)
เพิ่มเติม:http://ppantip.com/topic/30398573
ตอน 2
หลังว่างเว้นจากงานแสดง เหลาเฟย มักจะใช้เวลาพักผ่อนด้วยการเข้าบ่อนเดิมพันอยู่เสมอ และน่าแปลกที่เค้าเป็นคนดวงดีอย่างน่าทึ่ง เดิมพัน 20 ครั้ง ไม่เคยพลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทุกคนจึงพากันแทงตามเค้าจนได้เงินเป็นกอบเป็นกำ แต่มีชายอยู่คนหนึ่งซึ่งไม่คิดว่าเขาจะโชคดีได้ตลอดไป แต่ก็พลาดท่าเสียเงินจนได้ เหลาเฟยจึงบอกกับเจ้ามือว่าจะขอจ่ายหนี้ทั้งหมดให้เค้าด้วยตัวเอง
ในคณะอุปรากรจีนมีชื่อ ใครเลยจะรู้ว่าเบื้องหน้าที่แสนตื่นตาตระการใจของสองพระนางอย่างเหลาเฟยและเช่าหยวน (Chau-yuen) จะเต็มไปด้วยความขัดแย้งทะเลาะเบาะแว้งไม่เว้นว่าง เหลาเฟยมักจะค่อนแคะและดูถูกเช่าหยวนว่าอิจฉาริษยาตน เพราะเช่าหยวนรับบทเป็นตัวนาง ซึ่งหามีใครสนใจใคร่ดูไม่!
ทางด้านวังหลวง แม้จะยิ่งใหญ่ถึงเพียงใด ก็ไม่อาจขวางกั้นหัวใจรักของหนุ่มสาวภายในได้ นางกำนัลน้อยใหญ่มักจะแอบมาทำสัญลักษณ์แทนใจด้วยการเรียงหินเป็นตัวอักษรคำว่า "หัวใจ" ชุนหลัม (Chun-Lum) สาวใช้ของเซิงหลิงก็เช่นกัน นางลอบเอาร่มคันหนึ่งไปวางไว้หน้าประตูเพื่อรอให้คนผู้หนึ่งได้หยิบขึ้นใช้ ความพยายามของนางไม่ไร้ความหมาย ชายในฝันของนางหยิบร่มคันนั้นขึ้นใช้จริงๆ ชุนหลัมได้แต่มองดูทั้งตัวเปียกปอนด้วยความปลาบปลื้มใจ ระหว่างเดินทางกลับ ปรากฏว่าก้อนหินรูปอักษร "หัวใจ" ที่มีนางกำนัลคนหนึ่งมาวางเรียงไว้ ถูกผู้อื่นมาเติมเต็มจนกลายเป็นคำว่า "คิดถึง" เรียบร้อยแล้ว
หลังจากกลับมาทั้งตัวเปียกปอน ชุนหลัมก็ถูกเซิงหลิงตำหนิเรื่องผ้าปัก ที่มีความหมายสื่อไปในเชิงรักใคร่ เซิงหลิงกล่าวว่าตนรู้ว่าชายในฝันของชุนหลัมนั้นเป็นใคร ทั้งยังรู้ด้วยว่านางแอบไปเฝ้ามองเค้าอยู่บ่อยๆ ชุนหลัมตกใจกลัว รีบเอ่ยปากขออภัยต่อนายหญิง บอกว่าจะไม่ทำเช่นนั้นอีกต่อไป เซิงหลิงกล่าวว่านางเข้าใจความรู้สึกของหญิงสาวที่ไม่อาจต้านทานความรัก แต่การทำเช่นนี้อาจนำมาซึ่งความตายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องข่าวลือในวังหลวง ชุนหลัมแย้งว่ามันไม่ใช่ข่าวลืออีกต่อไปแล้ว เพราะทุกคนที่นี่ต่างได้ยินเพลงขลุ่ยที่มีบุคคลลึกลับขับกล่อมในยามราตรีกันทั้งนั้น
เช่าหยวนคุยกับผู้เป็นภรรยาเกี่ยวกับพฤติกรรมของเหลาเฟย ที่ออกไปเที่ยวเตร่หาความสำราญ ทั้งสุรานารี ฝิ่น พนัน เพราะความเจ็บปวดในเรื่องความรัก เช่าหยวนถามภรรยาว่าทำไมจึงนำจดหมายที่หยวนชิง (Yuen-Ching) อดีตคนรักของเหลาเฟยไปซ่อน เช่าหยวนบอกนางว่าการทำเช่นนั้นจะไม่เกิดผลดีต่อตัวเหลาเฟยและหยวนชิง ดังนั้นเค้าจึงตั้งใจจะไปพบกับหยวนชิงด้วยตัวเค้าเอง
คืนนั้นเหลาเฟยต้องตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง เมื่อนางงิ้วที่ร่วมแสดงกับเค้าบนเวที หาใช่เช่าหยวนไม่ ทว่าเป็นหยวนชิงต่างหาก ทั้งสองจึงร่วมแสดงด้วยความโศกเศร้า (ซึ่งแฟนละครฮ่องกงหลายคนกล่าวว่า การแสดงงิ้วเรื่องดังกล่าวมีนัยที่สื่อถึงความสัมพันธ์ของคนทั้งสอง แต่ผู้ชมจำต้องมีความรู้ในเรื่องนี้พอสมควรจึงจะเข้าใจได้) หลังจากเหตุการณ์คราวนั้น เหลาเฟยจึงรู้สึกโกรธเคืองเช่าหยวนเป็นอย่างมาก แต่เช่าหยวนต่อว่าเค้าว่าเอาแต่ทำร้ายจิตใจผู้อื่น และไม่ได้รักหยวนชิงเลยแม้แต่น้อย เค้ารักแต่ตัวเองเท่านั้น เหลาเฟยไม่สนใจ ขึ้นเกี้ยวจากไปในทันที บนถนนที่ผู้คนเดินขวักไขว่ เกี้ยวสีทองและเงินที่สวนทางกันไปนั้น ก็คือเกี้ยวของหยวนชิงและเหลาเฟยนั่นเอง
กลางดึกคืนนั้น.. จู่ๆเพลงขลุ่ยก็ดังกังวาลไปทั่วอีกครั้งหนึ่ง ปลุกให้หัวหน้านางกำนัล มัคโดยี (Muk-do-yee) ที่กรำงานหนักจนฟุบหลับไปตื่นจากนิทรา แล้วจึงเที่ยวตามหามือขลุ่ยคนนั้น ในที่สุดนางก็พบตัวชายผู้นั้นพร้อมๆกันกับบรรดานายทหาร.
(ขออภัยที่ตอนนี้มาแบบสั้นๆ เพราะเน้นเรื่องงิ้วมากเหลือเกิน
อีกอย่างตอนนี้หยูเฟยและฉุนไท่เฟยไม่ออกซักฉาก เลยขอรวบรัดตัดตอน)
ตบท้ายด้วย 紫禁飘谣 เพลง Ending ของละครเรื่องนี้ที่ขับร้องโดยเจ๊อู๋และเฉินห้าวค่ะ