Review: Beauty at War ความรักและคำลวง ล้วนลางเลือนเหมือนภาพฝัน.. (สปอยละเอียดยิบสำหรับคนอยากรู้ แต่ไม่อยากดู)



      ในที่สุด.. ละครภาคต่อที่ทุกคนต่างเฝ้ารอคอย(ของคนฮ่องกง) ก็จบบริบูรณ์ไปเรียบร้อยแล้วเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ 2 เดือนที่ผ่านมานี้ช่างเป็นช่วงเวลาที่หวานอมขมกลืนของเรากับเจ๊เติ้งจริงๆ.. คนดูเองก็ปวดหัว คนเล่นเองก็ปวดใจ ทั้งเรตติ้ง ทั้งดราม่า แถมนางเอกของเรื่องยังถูกช่องแบนและรุมยำอย่างไม่ไว้หน้าเพื่อหวังเชือดไก่ให้ลิงดู (ล่าสุดก็สร้างเรื่องชู้สาวโดยลากโจทก์เก่าในอดีตอย่างเจียงหัวมาผสมโรงแล้วด้วย! เอาเข้าไป! เหยียบกันเข้าไป)  แต่เมื่อดูไปแล้วก็ต้องดูให้จบ อะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องยอมให้มันเกิดไป เราจึงทำใจย้อนกลับไปดูตอนจบใหม่แบบผ่านๆอีกซักรอบ ก่อนจะตัดสินใจเขียนสรุปเนื้อความอย่างหยาบๆออกมาเป็นกระทู้นี้  แต่ก่อนอื่นเราขอเตือนแฟนๆหนังจีนทุกท่านที่รักและชื่นชอบใน ศึกรักจอมราชันย์ ภาคแรกนะคะว่าควรทำใจไว้ได้เลย  ถึงตอนนี้เสียงฟีดแบ็คหลังละครจบจะดีขึ้นมากและเป็นไปในเชิงบวก แต่ก็เป็นการยากที่คนต่างชาติต่างภาษาต่างวัฒนธรรมอย่างเราๆจะเข้าใจ  ได้ข่าวว่าภาคนี้ต้องตีความและคิดกันหลายตลบเลยทีเดียวเชียวค่ะ  โดยเฉพาะตอนจบ.. ขอบอกตรงๆว่าเราหงายเงิบอ้าปากค้างค่ะ เหอๆ..

      รายละเอียด

      ชื่อ:  金枝欲孽2, Beauty at War, ศึกรักจอมราชันย์ภาค 2
      ผู้กำกับ:  Jonathan Chik
      เขียนบท:  Chow Yuk-ming
      ความยาว: 30 ตอน
      เรตติ้งตอนจบ: ยังไม่ปรากฏข้อมูล
      คะแนนจากผู้ชมออนไลน์: 7.3/10
      เพลงประกอบ:
      เพลงเปิด - Red sin ขับร้องโดย อู๋หย่งเว่ย
  
      

      เพลงปิด - Drifting Rumours of the Forbidden City ขับร้องโดย อู๋หย่งเว่ยและเฉินห้าว

      

      
      

      รายชื่อนักแสดงนำ

      เติ้งชุ่ยเหวิน   เป็น   หนิ่วหู่รู้ หยูเยียะ, หยูเฟย สนมคนโปรดของเจียชิ่งฮ่องเต้

      

      ไช่เส้าเฟิน   เป็น   เซิงหลิง แม่นมองค์ชาย 5

      

      อู๋หย่งเว่ย   เป็น   หนิ่วหู่รู้ หยวนเซ่า, ฉุนไท่เฟย (ฉุนไกวไท่เฟย)  สนมของเฉียนหลงฮ่องเต้

      

      เฉินห้าว   เป็น   โกเหลาเฟย  พระเอกงิ้วชื่อดัง

      

      หวงเต๋อปิน   เป็น   ทงกัตฮอย  ทาสในวังหลวง

      

      กวนหลี่เจี๋ย   เป็น   เช่าหยวน  

      



      เนื้อเรื่องย่อ (เน้นตอนใกล้จบเรื่อง)

      หนิ่วหู่รู้ หยูเยียะ และหนิ่วหู่รู้ หยวนเซ่า (เขียนตามซับอังกฤษ) สองพี่น้องร่วมบิดาสกุลหนิ่วหู่รู้ ถูกส่งตัวเข้าวังหลวงเพื่อคัดเลือกเป็นนางสนมในเฉียนหลงฮ่องเต้พร้อมๆกัน ทว่าจู่ๆหยูเยียะก็เกิดป่วยกระทันหันจึงถูกส่งตัวกลับบ้าน หยวนเซ่าผู้น้องจึงถูกคัดเลือกไปเป็นสนมของฮ่องเต้แทน  แต่โชคชะตากลับไม่เป็นใจ เมื่อองค์เฉียนหลงฮ่องเต้กลับเสด็จสวรรคตไปภายในเวลาอันรวดเร็ว  ทิ้งให้สนมหมาดๆอย่างหยวนเซ่าต้องตกพุ่มหม้ายตั้งแต่ยังสาว  เท่านั้นยังไม่พอ.. ทันทีที่ฮ่องเต้องค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ หยวนเซ่าถึงกับตกต้องตะลึงเมื่อพบว่า พี่สาวร่วมสายเลือดของตน ได้เชิดหน้าชูตาอยู่ในวังในฐานะสนมคนโปรดของฮ่องเต้เจียชิ่งไปซะได้!  หยวนเซ่าจึงตระหนักว่าผู้เป็นพี่คงจะอ่านการณ์ไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว จึงเสแสร้งแกล้งเป็นป่วย เพื่อผลักให้ชะตากรรมอันโหดร้ายนี้มาอยู่กับตนแทน  ไฟแค้นจึงก่อตัวขึ้นในใจของหยวนเซ่าในทันใด

      เมื่อหยูเยียะเข้ามาอยู่ร่วมกันในอาณาเขตกำแพงแดง หยวนเซ่าจึงคิดหาสารพัดวิธีเพื่อกลั่นแกล้งรังแกพี่สาวให้เจ็บปวด  ซึ่งแผนที่ใช้ได้ดีนักนั่นก็คือการปล่อยข่าวลือเรื่องความร้ายกาจต่างๆนาๆของผู้เป็นพี่ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นความเท็จให้กระฉ่อนไปทั่วทั้งในและนอกวัง จนขุนน้ำขุนนางตลอดจนชาวบ้านต่างพากันหลงเชื่อและวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนาๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งแม่นมขององค์ชาย 5 ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของหยูเยียะอย่าง เซิงหลิง แต่หยูเยียะกลับนิ่งเงียบไม่ยอมตอบโต้เสมอมา ก็ด้วยความรู้สึกผิด ความรักและความเข้าอกเข้าใจความรู้สึกของผู้เป็นน้องนั่นเอง

      เซิงหลิงหาทางเข้าใกล้หยูเยียะเพื่อสืบข่าวให้สามีผู้เป็นขุนนางนำไปขาย แม้นางจะไม่เต็มใจก็ไม่อาจขัดขืน จนทำให้เกิดความเข้าใจผิดและบาดหมางกันกับลูกเลี้ยงอย่างมุคโดยีเสมอมา  เมื่อนางใกล้ชิดกับหยูเยียะนานวันเข้า เซิงหลิงจึงตัดสินใจเพิกเฉยต่อคำสั่งของสามี และหันมารับใช้หยูเยียะด้วยความเต็มใจในที่สุด  แต่ถึงแม้เซิงหลิงจะพยายามดูแลสุขภาพความเป็นอยู่ขององค์ชายน้อยดีเพียงใด ทว่าสุขภาพขององค์ชายก็ยังย่ำแย่ 3 วันดี 4 วันไข้ไม่สร่างซา  ซึ่งนั่นก็มาจากพันธุกรรมที่ติดตัวมาแต่กำเนิดของหยูเยียะผู้เป็นมารดานั่นเอง  หยูเยียะรู้เรื่องนี้ดี และรู้สึกผิดต่อองค์ฮ่องเต้เสมอมา  ยี่โหนางกำนัลคนสนิทจึงเสนอให้หยูเยียะดึงหมอหลวงหยางมาเข้าพวก เพื่อช่วยรักษาชีวิตองค์ชายไว้ให้นานที่สุด
      
      ในตอนแรกหมอหลวงหยางก็ทุ่มเทกำลังรักษาองค์ชายน้อยตลอดมา แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นกับนางกำนัลคนสนิทของหยวนเซ่าจนนางต้องวิกลจริต หมอหลวงหยางจึงปักใจเชื่อว่าเป็นฝีมือของหยูเยียะ ประกอบกับที่หย่งไกวไท่เฟยซึ่งหมั่นไส้หยูเยียะเป็นการส่วนตัวคอยเป่าหูและข่มขู่ หมอหลวงหยางจึงไม่ได้ทุ่มเทดูแลองค์ชายน้อยอย่างเต็มที่  ในที่สุด..  องค์ชายน้อยก็สิ้นพระชนม์ไปก่อนวัยอันควร  หยูเยียะและเซิงหลิงต่างใจสลายไปตามๆกัน  อันอุปนิสัยใจคอของมนุษย์นั้นเสมอเหมือนกับธรรมชาติ ย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ความรักและความเจ็บปวด หยูเยียะก็เช่นกัน..  ความเปลี่ยนแปลงของนางเปลี่ยนไปทีละน้อยโดยที่ไม่มีใครคาดคิด  เมื่อพบว่าศรัทธาในพระพุทธศาสนากับการยึดมั่นในความดีไม่ได้ทำให้พระพุทธองค์เห็นใจ  และหยวนเซ่าผู้น้องกำลังทำผิดด้วยการหลงรักพระเอกงิ้วอย่างเหลาเฟย  ประกอบกับการแบกรับชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลเอาไว้บนบ่า   หยูเยียะจึงต้องตัดไฟแต่ต้นลม ด้วยการวางกับดักให้เหลาเฟยเดินเข้าไปติด เพื่อกำจัดเค้าออกไปจากชีวิตของน้องสาวเสีย

      แผนการณ์กำจัดเหลาเฟยเริ่มขึ้นพร้อมๆกับความจริงอันน่าปวดร้าวใจของเซิงหลิง  เมื่อองค์ชายน้อยสิ้นพระชนม์ เวลาที่เซิงหลิงรอคอยตลอดชีวิตก็มาถึง ขณะที่นางกำลังมีความสุขที่จะได้กลับบ้านไปอยู่กับลูกน้อยก็ต้องรู้ความจริงที่น่าโหดร้าย เมื่อพบว่าลูกน้อยทั้ง 3 ได้ละจากโลกใบนี้ไปหลายปีแล้ว!  คนที่บอกความจริงเรื่องนี้กับนางก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากเหลาเฟยนั่นเอง  ความผิดหวังในตัวสามีและการสูญเสียลูกน้อยทั้ง 3 ทำให้เซิงหลิงไม่มีที่ไป เมื่อเหลาเฟยหยิบยื่นความรักมาให้ เซิงหลิงจึงรับรักนั้นไว้ในใจอย่างง่ายดาย  แต่อนิจจา.. เรื่องราวทั้งหมดเป็นแผนการณ์ของหยูเยียะนี่เอง!  แต่เซิงหลิงไม่รู้..  ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกเจ้านายที่นางไว้ใจใช้เป็นเครื่องมือ!!

      หลังจากนั้นมา.. เซิงหลิงกับเหลาเฟยก็รักและดูแลกันอย่างดีมาโดยตลอด  เซิงหลิงที่เคารพรักหยูเยียะประหนึ่งพี่สาวแท้ๆ  มักจะคอยบอกเล่าเรื่องราวความรักของตนให้หยูเยียะฟังเสมอๆ  หยูเยียะเองก็เห็นดีเห็นงามและคอยส่งเสริมคนทั้งสองเสมอมา  ส่วนหยวนเซ่า.. ความจริงแล้วนางไม่ได้รักปักใจอะไรเหลาเฟยเลยแม้แต่น้อย  อาจเป็นเพราะความเหงาหรืออะไรก็ตามที่ทำให้นางหวั่นไหวไปชั่วครู่ชั่วคราวเท่านั้น  กัตฮอยต่างหากที่นางรัก และพึ่งรู้ตัวว่ารัก แต่กัตฮอยไม่ได้รักนาง ที่เขาทำทุกอย่างเพื่อนาง ช่วยเหลือนาง ก็เพียงเพราะอยากให้นางช่วยทูลขอฮ่องเต้และปลดปล่อยเค้าให้เป็นอิสระเท่านั้นเอง  แถมกัตฮอยยังสนิทสนมกับมุคโดยีเป็นพิเศษ และดูเหมือนจะชอบพอกันอยู่เสียด้วย

        ระหว่างที่เหลาเฟยและเช่าหยวนอยู่ในวังหลวง  เช่าหยวนพยายามเอาชนะคะคานเหลาเฟยด้วยการป้อยอบรรดานางสนมจนเป็นที่โปรดปรานไปถ้วนหน้า แม้ฝีมือการแสดงของเค้าจะไม่ดีเท่าเหลาเฟย แต่นับได้ว่าตอนนี้เค้ามีอำนาจเหนือกว่าเหลาเฟยยิ่งนัก แม้กระทั่งยี่โห นางกำนัลคนสนิทของหยูเยียะ ก็ยังหลงใหลได้ปลื้มเช่าหยวนไปกับเค้าด้วย  เช่าหยวนหลงระเริงอยู่ในวังหลวงจนละเลยภรรยาที่คอยอยู่ ทำให้นางเศร้าเสียใจจนต้องหันหน้าเข้าหาฝิ่นและติดฝิ่นไปในที่สุด

      สัจธรรมของชีวิตคือมีทุกข์ก็ย่อมมีสุข แต่ความสุขมักอยู่กับคนเราได้ไม่นานนัก ในที่สุดเซิงหลิงก็รู้ความจริงว่าถูกหยูเยียะหลอกใช้และชักใยอยู่เบื้องหลังมาโดยตลอด  นางเอาเรื่องนี้ไปบอกเหลาเฟยแต่เหลาเฟยกลับมีท่าทีเฉยชา และรู้เรื่องนี้มาแต่แรกแล้ว เซิงหลิงหัวใจสลายอีกครั้ง ความเจ็บปวดผลักให้นางกลับมาแก้แค้น นางคิดแผนการณ์เอาคืนหยูเยียะ ด้วยการแต่งเรื่องว่าเหลาเฟยไม่ได้รักนางแต่รักหยูเยียะ  หยูเยียะที่รู้สึกหวั่นไหวแต่แรกเนื่องจากได้ฟังเรื่องราวของเซิงหลิงกับเหลาเฟยมามาก จึงปักใจเชื่ออย่างง่ายดาย  เซิงหลิงทั้งสะใจ ทั้งเคืองแค้น และซึมเศร้า  นางทำร้ายตัวเองหลายครั้งจนเลือดตกยางออก  หยูเยียะเห็นแล้วก็เวทนา พยายามปลอบโยนให้เซิงหลิงลืมผู้ชายเลวๆที่ทำร้ายจิตใจของนางไปเสีย  แต่เซิงหลิงทำไม่ได้  ขณะที่เซิงหลิงกำลังเปิดอกคุยกับหยูเยียะ(อย่างเสแสร้ง) กบฏก็บุกเข้าวังโดยไม่มีใครล่วงรู้  หยูเยียะและเซิงหลิงพากันหาทางหนี

      อีกด้าน.. หยวนเซ่าเองก็เปิดอกคุยกับกัตฮอยเช่นกัน  นางว่าตลอดทั้งชีวิตไม่เคยรักชายใดมาก่อนแม้กระทั่งสามี แต่นางรักเค้า.. ทาสในวังผู้ต่ำต้อยคนนี้  กัตฮอยสารภาพว่าเค้าไม่ได้รักนาง หยวนเซ่าจึงไล่ให้กัตฮอยไปซะ ไปสู่อิสรภาพที่เค้าต้องการ เพราะถึงอย่างไรเสียคนทั้งสองก็ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้  หยวนเซ่าผู้ร้ายกาจกลับแข็งแกร่งพอจะปล่อยให้ชายที่รักเดินจากไปทั้งน้ำตา  นางกำนัลคนสนิทของหยวนเซ่ากระหืดกระหอบมารายงานว่ากบฏบุกวังแล้วให้หยวนเซ่ารีบหนี  ประจวบเหมาะกับหยูเยียะตามหานางจนพบพอดี ทุกคนจึงพากันหนีเอาตัวรอดไปด้วยกัน  หยูเยียะตัดสินใจที่จะหนีออกนอกวังและมั่นใจว่าฮ่องเต้จะต้องเข้าใจและให้อภัยกับสิ่งที่เกิดขึ้น เนื่องจากเป็นเหตุสุดวิสัย แต่หยวนเซ่าเกิดดื้อดึงไม่ยอมไป นางว่านางยอมตาย หยูเยียะจะได้ไม่ต้องมาคอยกังวลว่านางจะทำผิดจนเสื่อมเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูลอีก หยูเยียะทั้งโกรธทั้งเสียใจ นางร้องห่มร้องไห้และตบหยวนเซ่าไปทั้งน้ำตาก่อนจะพรั่งพรูความในใจออกมาว่านางรักน้องมากแค่ไหน แต่ก็ไม่เป็นผล.. หยวนเซ่าหันหลังจากไป ทิ้งให้หยูเยียะทรุดลงกับพื้นด้วยใจสลาย

      เมื่อใกล้ถึงประตูทางออก จู่ๆเช่าหยวนก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมปิ่นปักผมของยี่โห  เช่าหยวนบอกหยูเยียะว่ายี่โหตายแล้ว ทำให้หยูเยียะเสียใจเป็นอย่างมาก  เซิงหลิงคิดจะฝ่าวงล้อมการต่อสู้ออกไปหาเหลาเฟย  เพราะนางรู้ว่าเค้ากำลังจะถูกฆ่าตายด้วยยาพิษ และเค้าเองก็รักนาง ความรู้สึกของคนทั้งคู่ไม่ใช่สิ่งจอมปลอม  เซิงหลิงดันทุรังจะไปให้ได้และบอกว่านางไม่สนใจว่าหยูเยียะจะอยู่หรือตาย คนที่นางสนใจมีเพียงคนเดียวเท่านั้นก็คือเหลาเฟย พูดจบเซิงหลิงก็วิ่งตรงไปที่ประตูทางออกโดยมีหยูเยียะวิ่งตามไปติดๆพร้อมร้องห้าม  จู่ๆธนูดอกหนึ่งก็ลอยมาปักที่กลางหลังอยู่เซิงหลิงต่อหน้าต่อตาหยูเยียะ  แต่ไม่ทันทีที่หยูเยียะจะตกใจ นางก็ถูกใครบางคนชนจนหัวกระแทกเกวียนแล้วสลบลงไปตรงนั้น..

      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .


      ต่อจากนี้จะขอเน้นๆช่วงตอนจบ เพราะว่าเป็นประเด็นที่สำคัญมาก..
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่