เราก็ท้อเป็นเหมือนกันนะ....

ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นนะครับ....และขออนุญาต จบกระทู้ลงตรงนี้นะครับ  ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์  

อยากบอกว่า เรื่องราวบางอย่าง มันก็มาจากมุมมองของผมแค่คนเดียว บางครั้งผมคิดเองคนเดียว  หรือบอกรายละเอียดไม่หมด  

เมื่อวาน...ผมได้คุยกับที่บ้าน  และที่บ้านได้มาอ่านกระทู้ที่ผมตั้งแล้วครับ...โดยบังเอิญ    ซึ่งคำตอบที่ออกมาก็คือ....ผมชี้แจงไม่ละเอียด และเป็นแต่มุมมองของผมครับ....ยังมีอีกหลายเรื่องที่ผมไม่รู้  และอีกหลายเรื่องที่ผมตีตนไปก่อนไข้  และหลายเรื่องที่ผมใช้คำพูดบั่นทอนกำลังใจ ของคนใกล้ชิด....และหลายเรื่อง...ที่ผมมีความเข้าใจมาผิดๆ  โดยที่ไม่ได้คุยกับที่บ้านให้เรียบร้อยก่อน....ผมขออนุญาตจบกระทู้ลงนะครับ  เพราะไม่อยากสร้างความบาดหมางให้เกิดขึ้นกับครอบครัวของผม......

แต่อย่างน้อย  ก็ทำให้รู้ว่า  อย่างไรก็แล้วแต่  การมาตั้งกระทู้ลับหลังแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่ดีเลยครับ...คนเรามีอะไร  ไม่พอใจ  ก็ควรพูดมาตรงๆไปเลยดีกว่า  เพราะบางครั้งเราอาจจะมองอีกอย่าง และที่บ้านอาจจะมองอีกอย่าง  พอไม่ได้พูดหรือคุยกัน  หรือเคยคุยกัน แต่บางคนลืมไป   หรือทำไม่ได้ตามที่พูด  แล้วนิ่ง ไม่บอกกัน   มาระบายในรูปแบบนี้....ผมก็รู้สึกแย่แทนครอบครัวผมครับ....

ผมขอโทษจากใจจริงนะครับ...จริงๆอาจเป็นผมเอง...ที่ไม่ได้เรื่องซะมากกว่า...แล้วสร้างความเข้าใจผิดๆให้กับคนรอบตัวมากกว่า...แต่ผมไม่รู้ตัว....ขอบคุณมากครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
สังคมไทยมันน่าเบื่อก็ตรงนี้แหละครับ

บางทีผมมองว่าครอบครัวคนไทยเองก็มักจะชอบทำอะไรกันแบบแปลกๆ เช่น พยายามกู้เงินมาส่งเสียลูกเรียน
แล้วถ้าลูกบางคนมันไม่ได้รักเรียน การทำแบบนี้ก็เหมือนฆ่าตัวตาย นอกจากเสียเงินแล้วยังไม่มีประโยชน์

ในทางกลับกัน บางครอบครัวก็ให้ความคาดหวังกับลูกมากเกินไป โดยเฉพาะการคาดหวังกับการเลี้ยงดู
หวังว่าลูกจะอย่างงั้นอย่างงี้ อยากให้ลูกเป็นแบบนั้นแบบนี้ สุดท้ายกงกรรมกงเกวียนก็วนเวียนกันอยู่แค่นี้
บางคนเท่าที่ผมเห็น ต้องเจอภาระครอบครัว เลี้ยงดูพ่อแม่ (พ่อแม่ข้าราชการมีบำนาญทั้งคู่แต่บ่นว่าไม่พอต้องเลี้ยงหมาแมว)
ทั้งที่เพื่อนคนนี้เท่าที่ผมเห็นก็เก่งมาก เรียนได้เกียรตินิยมมาตลอด มีหลายบริษัทต้องการจ้างงาน และให้ทำงานต่างประเทศ
ซึ่งเงินเดือนสูงกว่าเดิมหลายเท่าตัว โอกาสก้าวหน้าก็ไปได้อีกไกล กลายเป็นว่าก็ต้องมาหมกจมอยู่กับครอบครัว

จริงอยู่ว่าการตอบแทนพ่อแม่นั้นเป็นสิ่งที่ดี ควรทำ แต่ในบางครอบครัวบางครั้งผมก็เห็นถึงความเห็นแก่ตัวของคนในครอบครัว
เช่นพ่อแม่เอง บางครอบครัวก็ไม่ได้ขยันทำมาหากิน พ่อทำงานราชการ แม่ไม่ทำอะไร อยู่บ้านเฉยๆ มีน้องอีกสองคนวัยเรียน
มีพี่ชายเป็นหัวแรงใหญ่ สรุปแล้วถ้าคนในครอบครัวมันไม่ช่วยกัน แล้วมันจะไปกันรอดหรอกหรือ

บางครอบครัวเท่าที่ผมเห็น ที่เป็นครอบครัวรวยมาก คนที่รู้จัก อายุวัย 40-50 ปี ทำงานที่ธนาคารแห่งหนึ่ง รายได้เดือนนึงหลายแสนบาท
ปัจจุบันลาออกแล้ว เลิกทำงานทุกอย่าง เพราะได้เงินครบตามเป้าหมายของชีวิตที่มีกว่าร้อยล้านบาท
แต่การเลี้ยงดูครอบครัว คุณป้าท่านนี้มีลูกชาย 2 คน และป้าเขาบอกกับลูกชายเขาแค่ว่า จะส่งเสียเรียนแค่ปริญญาตรีเท่านั้น
อยากเรียนสูงกว่านี้ต้องไปหาเงินเอง และไม่ต้องคาดหวังว่าจะขอเกาะพ่อแม่กิน เพราะเงินพ่อแม่หา พ่อแม่จะใช้ ลูกอยากได้อะไร ไปหาเอง
และหลังจากจบปริญญาตรี ก็ต้องออกไปทำงาน ออกไปอยู่บ้านเองข้างนอก ไม่ให้อยู่ในบ้านอีกต่อไป นั่นหมายถึง ปล่อยเกาะ
ไม่ต้องให้ลูกเข้ามาวุ่นวายกับพ่อแม่ ไม่ต้องส่งเสีย ไม่ต้องเลี้ยงดู พ่อแม่ จะไม่เป็นภาระของลูก และลูกก็ห้ามเป็นภาระของพ่อแม่

พูดง่ายๆว่าเลี้ยงลูกตามแบบเมืองนอก โดยที่ลูกเองก็ไม่ต้องคาดหวังมรดกพ่อแม่ เพราะท้ายที่สุดมรดกหลังพ่อแม่ตาย จะเข้ามูลนิธิทั้งหมด

สุดท้ายผมก็มองว่า มันก็ไม่ผิด ที่บางครอบครัว หรือบางสังคม อาจมีความคาดหวังต่อตัวลูกมาก เพราะเขาอาจไม่มีปัญญา
หรือความสามารถที่จะไปหาเงินมากๆ เพื่อมาเลี้ยงตัวเขาเองได้ จึงต้องพึ่งพาลูกที่เขาพยายามส่งเสียเลี้ยงดู
หรือบางครอบครัวก็ด้วยความเป็นนิสัยเห็นแก่ตัวแต่เดิม เห็นว่ามีที่พึ่งก็ไม่เคยคิดจะทำอะไร งอมืองอเท้า รอความหวังกันตลอด

หรือไม่ สุดท้ายและท้ายที่สุดก็อาจเป็นเพราะกรรม ที่เราเคยไปเอามาจากเขาเมื่อชาติที่แล้ว ชาตินี้จึงต้องไปชดใช้
ความคิดเห็นที่ 10
คุณก็เป็นมนุษย์คนนึงเหมือนกัน สมควรที่จะได้รับความสุข ความรัก ความอิสระในชีวิต

ก็ช่วยที่บ้านเท่าที่ช่วยได้แต่อย่าเบียดเบียนตนเองค่ะ

ปล. ถ้าเป็นดิฉันคงหนีหายไปซักพัก ดูซิจะเห็นค่าเราบ้างมั้ย ฮาาาา แต่ดิฉันพวกเลือดกรุ๊ปบีน่ะ อย่าทำตามเลย
ความคิดเห็นที่ 55
ตกใจครับ!!!     มาอ่านดู.....ล่าสุดขึ้นเป็นกระทู้แนะนำแล้ว....มันเป็นกำลังใจให้ผมมากเลยครับ....เพราะอย่างน้อย   มันก็ทำให้รู้ว่า  เราไม่ได้สู้อยู่คนเดียว  ไม่ได้ลำบากคนดียว  และมีคนอีกมากมายที่เข้าใจเรา  แม้ไม่ได้รู้จักหน้าค่าตากันมาก่อนก็ตาม....  ขอบคุณจริงๆนะครับ  ขอบคุณ pantip  มากๆ  เพราะแม้ว่าบางที เพื่อนๆร่วมสายอาชีพของผมจะมองว่า มันคือ webboard ไร้สาระ......แต่ผมอยากบอกว่า  ก็เพราะwebboard ไร้สาระ ที่พวกเพื่อนๆผมว่ากันนี่แหละ    ผมจึง  ตั้งตัวใหม่ได้  หากำลังใจ ที่จะทำดีได้  และมีแนวทางที่จะบริหารชีวิตของผมได้

.....ผมเข้าห้องชานเรือน  เพราะผมกำลังจะแต่งงาน   ศึกษา ดูชีวิตคู่ ของหลายๆคู่ที่เป็นปัญหา  ทั้งกับ ภรรยา กับ พ่อตา แม่ยาย  และทำให้เรารู้ว่า การอลุ้มอล่วยกัน  เป็นเรื่องที่ดี  และความอดทน และให้กำลังใจกัน เห็นความสำคัญของกันและกัน คือสิ่งที่สำคัญที่สุด ในการที่จะทำให้ชีวิตคู่นั้น......ไปรอด

.....ผมเข้าห้องศาลาประชาคม   เพราะเป็นห้องที่คนส่วนใหญ่ เวลามีปัญหา ก็จะมาขอความช่วยเหลือ  และคำแนะนำและกำลังใจที่ดีจากห้องนี้ก็ช่วยผมได้จริงๆ

.....ส่วนห้องสินธร    ตอนนี้ผมลงทุนกับกองทุนรวมอยู่  แม้จะแค่เริ่มต้น  แต่ความรู้ที่ได้ บวกกับแนวทางในการออมเงิน และการทำบัญชีรายรับรายจ่าย  ก็ทำให้ผมสามารถที่จะปลดหนี้บัตรเครดิตของตัวเองที่ติดอยู่ราว3แสนได้ครับ  ขอบคุณมากจริงๆ

ถึงตรงนี้    ผมตัดสินใจว่า.....ก็จะเดินหน้าทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุดต่อไปครับ....และหวังว่าสิ่งดีๆที่ผมได้ทำ จะทำให้ชีวิตผมและครอบครัวดีขึ้นยิ่งๆขึ้นไปครับ.......นอกจากนี้  ขออวยพร  ให้ทุกๆคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ เม้นบ้างไม่เม้นบ้าง  รวมถึงคนที่ให้ข้อคิดดีๆต่างๆ   ได้รับสิ่งดีๆจากที่ได้อวยพรและให้กำลังใจผม  เป็นร้อยเท่าพันทวีเลยนะครับ   ขอบคุณครับ
ความคิดเห็นที่ 77
จขกท. ครอบครัวคนจีนหรือเปล่าคะ

สามีเราเป็นลูกคนโตก็เจอภาระคล้าย ๆ  กันค่ะ
พี่ชายคนโตต้องจ่ายตลอด เพราะใคร ๆ มักจะมองว่ารายได้ดีกว่าน้อง ๆ
แต่พวกน้อง ๆ บางคนรายได้เดือนละเกือบแสน ยังไม่เคยให้เงินแม่รายเดือนเลย มีให้แค่ตรุษจีน
ไปกินข้าวกับใครไม่ว่าจะเป็นโอกาสอะไร มีแค่แม่สามีกับตัวสามีที่ผลัดกันจ่ายเท่านั้นเอง
น้องคนอื่น ๆ ไม่เคยควักกระเป๋าจ่ายตังค์เลย น้องคนรองอายุห่างจากสามีเราแค่ 1 ปีเท่านั้น
คนอื่นหาได้เก็บเข้ากระเป๋าตัวเอง ภาระที่บ้านไม่ต้องรับผิดชอบ
ก่อนแต่งงานสามีเราต้องรับภาระค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ทุกอย่างในบ้าน
พอแต่งงานแล้ว คนที่รับภาระต่อจากสามีเราคือแม่สามี

บางครั้งคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็มีมุมมองแปลก ๆ เหมือนกันนะ
อย่างเราชอบทำงานหาเงินเองตั้งแต่เรียนหนังสือ
เก็บเงินซื้อทองให้ตัวเองตั้งแต่อายุ 16 ปี
พอแม่เห็นว่าเรามีทองเก็บ แม่ก็เอาเงินไปซื้อให้พี่สาวกับน้องสาวบ้าง
เราถามว่าแล้วทำไมไม่ซื้อให้เราบ้าง เราก็เป็นลูกเหมือนกัน
แม่บอกว่าเพราะเรามีแล้ว เรางงมาก การที่เราหาเงินซื้อทองเองมันทำให้แม่ไม่ต้องซื้อให้เราหรือ
ตั้งแต่เด็กอยากได้อะไรเราต้องเก็บเงินซื้อเอง เพราะแม่ก็ไม่ค่อยมีตังค์ไม่อยากรบกวนท่าน

แต่การที่เราดิื้นรนหาทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตัวเอง
กลับทำให้เราไม่ได้รับอะไรจากแม่เลย

เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้นะคะ
คิดซะว่าเราเกิดมาเพื่อชดใช้กรรม บางครั้งพูดอะไรมากไปก็จะเหมือนคนอกตัญญู
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่