เอกชนปูดเงินใต้โต๊ะพุ่ง 50%

เอกชนปูดเงินใต้โต๊ะพุ่ง 50%

วันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน 2556 เวลา 18:27 น.

หอการค้าไทย เผยขบวนการงาบหัวคิว 50% ชี้แต่ละปีงบประมาณเสียหาย 2-3 แสนล้านบาท เหตุคอร์รัปชั่นเพิ่มไม่หยุด เพราะตรวจสอบยาก ไม่มีใบเสร็จ จี้รัฐบาลเร่งแก้ไข สร้างความโปร่งใส เอาแบบอย่างเกาหลี มาเลเซีย

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยในการประชุมชี้แจง แนวทางประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ที่จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่า การจัดอันดับการทุจริตคอร์รัปชั่นของประเทศไทยโดยสถาบันต่างประเทศ พบว่าไทยสอบตกมาโดยตลอด อีกทั้งจากการศึกษาพบว่า ปัญหาการคอร์รัปชั่นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการคอร์รัปชั่นเรียกรับเงินใต้โต๊ะ หรือรับเงินพิเศษโครงการต่าง ๆ เพิ่มขึ้นจากอดีตที่เรียกเพียง 10% ของมูลค่าโครงการ เพิ่มขึ้นเป็น 25–30% บาง และขณะนี้บางโครงการรับเงินใต้โต๊ะถึง 50 %

นอกจากนี้ จากการสำรวจความเห็นนักธุรกิจไทยเกี่ยวกับปัญหาคอรัปชั่น ร่วมกับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ได้รับการยืนยันข้อมูลจากนักธุรกิจว่า งานก่อสร้างบางโครงการในพื้นที่ต่างจังหวัด มีการหักตั้งราคาค่าหัวคิวการดำเนินงานโครงการไว้สูงถึง 50% ของราคางานก่อสร้างทั้งหมด โดยนักธุรกิจรายหนึ่งให้ข้อมูลว่า มีงานก่อสร้างของหน่วยงานราชการบางแห่ง ตั้งวงเงินการดำเนินงานไว้สูงเกินกว่าความเป็นจริง 1 เท่าตัว เช่น งานก่อสร้างราคาจริงอาจมีตัวเลข 100 ล้านบาท แต่ไปตั้งราคางานก่อสร้างไว้ 200 ล้านบาท ทำให้ยอดหัวคิวงานโครงการนี้มีราคาสูงถึง 50% ของราคาจริง ขณะเดียวกันจากการสำรวจข้อมูลยังพบว่า ตัวเลขหัวคิวงานก่อสร้างสาธารณูปโภคทั่วไปอยู่ที่ 25-30% งานจัดซื้อครุภัณฑ์ค่าหัวคิวอยู่ที่ 10-15%

“ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตัวเลขหักหัวคิวปรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะการตรวจสอบปัญหาการทุจริตช่วงที่ผ่านมาทำได้ยาก ไม่มีใบเสร็จปรากฏเป็นหลักฐานชัดเจน และไม่มีใครกล้าเปิดเผยข้อมูล หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบจึงทำงานลำบาก ทำให้ตัวเลขงบประมาณที่ไทยเสียหายจากการทุจริตคอรัปชั่น เป็นจำนวนสูงถึง 2-3 แสนล้านบาท”

ทั้งนี้ทางออกเดียวที่ทำได้ คือ คนในสังคมต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา ส่งข้อมูลให้กับหน่วยงานราชการที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบ ขณะที่หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ก็ต้องเพิ่มแนวทางการตรวจสอบให้เข้มขึ้น โดยเฉพาะการตรวจสอบข้อมูลราคางานในการก่อสร้างโครงการแต่ละโครงการ ที่ตั้งไว้มีความถูกต้องมากน้อย และราคาเหมาะสมหรือไม่ เช่น โครงการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท โครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท รัฐบาลต้องเปิดเผยข้อมูลตั้งแต่ขั้นตอนมูลค่าโครงการ การจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อให้เกิดความโปร่งใส

นายธนวรรธน์กล่าวว่า ปัญหาการคอรัปชั่นในประเทศไทย นับวันจะมีแนวโน้มแรงขึ้น ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย จัดการแก้ปัญหานี้ได้ดีกว่า ส่วนเกาหลีใต้มีการทำงานเพิ่มประสิทธิภาพอย่างจริงจัง จนปัจจุบันตัวเลขการทุจริตคอรัปชั่นในประเทศลดลงไม่ถึง 1% จากตัวเลขเดิมซึ่งอยู่ที่ 4-5% และที่ผ่านมาก็เคยนำตัวอดีตผู้นำของประเทศ คนใกล้ชิด และข้าราชการระดับสูงมาลงโทษไปแล้วหลายราย

http://www.dailynews.co.th/businesss/199909
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่