ทำอย่างไรถึงจะทำให้ใจสงบ ไม่โกรธ ไม่เกลียด เวลาที่เราต้องเจอกับคนที่เราไม่ชอบ

กระทู้คำถาม
ไม่อยากรู้สึกแบบนี้เลย มันเหมือนไฟเผาใจเรา กับคนที่ชอบพูดเหน็บแหนม เสียดสี รู้ก็รู้ว่าเค้าพูดจาให้ร้าย ลับหลังเรา ต้องมีเหตุให้เราต้องพบต้องเจอกันคนพวกนี้ เราจะมีวิธีการคิดอย่างไร ไม่ให้ใจเราหวั่นไหวไปกับสิ่งเหล่านี้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
ให้ลดอัตตา และ เชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม ความมีชาติภพ



อัตตาความมีมานะถือตัวมันทำให้เราโกรธเวลาที่มีผู้อื่นมากระทำผิดต่อเรา...เพราะเราถือเนื้อถือตัวว่าใครจะมาพูดจาเหน็บแนมเสียดสีต่อเราไม่ได้  เรามันคนวิเศษเหนือคนอื่น  ทั้งที่ตามความเป็นจริงแล้วเราก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดาทั่วไปที่อาจมีผู้อื่นมาพูดไม่ดีต่อเราได้ตลอดเวลา....แม้แต่พระพุทธเจ้าองค์ศาสดาก็ยังมีผู้อื่นมาใส่ร้ายป้ายสีพูดจาเหน็บแนมด่าทอต่อว่าพระองค์ต่างๆ นาๆ ได้  ไฉนเลยเราคนธรรมดาจะหลุดพ้นไม่มีผู้ใดมาพูดไม่ดีต่อเราได้...ดังนั้นที่เราโกรธมันจึงเป็นเพราะอัตตามันกำเริบนั่นเอง



และหากคุณเชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม การเวียนว่ายตายเกิดตามบุพกรรม คุณจะให้อภัยในกรรมที่ผู้อื่นได้กระทำต่อตนได้โดยง่าย เพราะอย่างไรเสียคนผู้นั้นก็จักต้องได้รับผลแห่งกรรมที่เค้าได้กระทำอยู่ดี  จะโกรธแค้นให้เค้าไปหาประโยชน์อันใด



และหากกรรมที่คุณได้รับอยู่นั้น เป็นกรรมที่ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงเร้นหลบใดๆ ได้เพราะต้องมีเหตุให้พบเจอคนเช่นนั้นตลอดเวลา ชะรอยก็น่าจะเป็นกรรมเก่าที่คุณได้เคยทำต่อผู้อื่นไว้....ด้วยอำนาจแห่งกรรมมันจึงทำให้คุณไม่อาจจะหลีกเลี่ยงกรรมเหล่านั้นได้ ชาตินี้จึงต้องมีผู้อื่นมาส่งกรรมทำผิดต่อคุณโดยการพูดจาไม่ดีกับคุณอยู่บ่อยๆ อย่างไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้..... เมื่อเข้าใจอย่างนี้คุณก็จะปล่อยวางยอมรับกรรมนั้นไปโดยไม่ก่อเงื่อนกรรมใหม่แก่ตน คือไม่โกรธแค้นผู้ใดไม่โทษผู้อื่น ยอมรับในผลแห่งกรรมโดยดุษฎี....เมื่อหมดกรรมเมื่อใดคุณก็หลุดพ้นเมื่อนั้น จะโกรธแค้นผู้อื่นไปหาประโยชน์อันใด



เมื่อคุณเข้าใจได้ตามนี้จิตใจคุณก็จะสงบ ปล่อยวาง ไม่ยึดถือความเป็นตัวตนมากจนเกินไป  เข้าใจในโลกธรรมว่าการติฉินนินทาให้ร้าย การสรรเสริญเยินยอ มันเป็นธรรมดาของโลก ไม่มีผู้ใดหลุดพ้น.....แม้แต่พระพุทธเจ้าเป็นศาสดาเอกของโลกตรัสรู้โดยชอบด้วยพระองค์เอง ก็ยังทรงอยู่ภายใต้โลกธรรม คือมีทั้งคนนินทาให้ร้ายต่อพระองค์ และมีทั้งคนสรรเสริญเยินยอพระองค์ แต่พระองค์ก็หาได้ยินดียินร้ายต่อสิ่งเหล่านั้นไม่  เพราะพระองค์ไม่มีทิฐิมานะความถืออัตตาในตัวตนอีกต่อไป สิ่งใดที่ผ่านเข้ามาจึงผ่านออกไปโดยไม่ทำให้จิตใจของพระองค์ต้องหวั่นไหวยินดียินร้ายไปกับสิ่งเหล่านั้นที่เข้ามากระทบ ....ให้ดูพระพุทธเจ้าองค์ศาสดาเป็นตัวอย่างแล้วพยายามทำตามพระองค์  จะสามารถพ้นทุกข์ได้โดยเร็ววันครับ

  

ลองพิจารณาดูครับ
ความคิดเห็นที่ 16
ขี้ปากเขาน่ะค่ะ เอามาอมต่อทำไม  
(สกปรกไปไหมคะ  แต่คิดงี้สิแล้วจะรังเกียจการเอาเรื่องพวกนี้มานั่งคิดน่ะค่ะ)  อันนี้สำหรับเบื้องต้น  


ต่อมา  ใจสงบลงไว้ค่อยพิจารณาตัวเราตัวเขาว่าไปค่ะ  เขาจะพูดไม่ดี เขาจะด่า เขาจะนินทา ฯลฯ
นั่นเขาก็ทำกรรมของเขา   มันไม่เีก่ยวกับเรา  
แต่มันจะกลายเป็นกรรมของเราก็ต่อเมื่อเราคิดไม่ดีกับเขา  เราอยากด่าเขา  แล้วไปด่าเขา  ไปทะเลาะกับเขา  อันนี้นี่กรรมเรา  
เมื่อทำกรรมต้องเสวยผลของกรรม
ผลของกรรมชั่วมันแสบร้อนมากนะคะ   รักตัวอย่ามัวหมองเลย  ไม่สนุกหรอกค่ะ


ความอดทนมันขมขื่น แต่ผลของมันหวานชื่นเสมอ    กิงๆนะเออ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่