สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
ให้ลดอัตตา และ เชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม ความมีชาติภพ
อัตตาความมีมานะถือตัวมันทำให้เราโกรธเวลาที่มีผู้อื่นมากระทำผิดต่อเรา...เพราะเราถือเนื้อถือตัวว่าใครจะมาพูดจาเหน็บแนมเสียดสีต่อเราไม่ได้ เรามันคนวิเศษเหนือคนอื่น ทั้งที่ตามความเป็นจริงแล้วเราก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดาทั่วไปที่อาจมีผู้อื่นมาพูดไม่ดีต่อเราได้ตลอดเวลา....แม้แต่พระพุทธเจ้าองค์ศาสดาก็ยังมีผู้อื่นมาใส่ร้ายป้ายสีพูดจาเหน็บแนมด่าทอต่อว่าพระองค์ต่างๆ นาๆ ได้ ไฉนเลยเราคนธรรมดาจะหลุดพ้นไม่มีผู้ใดมาพูดไม่ดีต่อเราได้...ดังนั้นที่เราโกรธมันจึงเป็นเพราะอัตตามันกำเริบนั่นเอง
และหากคุณเชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม การเวียนว่ายตายเกิดตามบุพกรรม คุณจะให้อภัยในกรรมที่ผู้อื่นได้กระทำต่อตนได้โดยง่าย เพราะอย่างไรเสียคนผู้นั้นก็จักต้องได้รับผลแห่งกรรมที่เค้าได้กระทำอยู่ดี จะโกรธแค้นให้เค้าไปหาประโยชน์อันใด
และหากกรรมที่คุณได้รับอยู่นั้น เป็นกรรมที่ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงเร้นหลบใดๆ ได้เพราะต้องมีเหตุให้พบเจอคนเช่นนั้นตลอดเวลา ชะรอยก็น่าจะเป็นกรรมเก่าที่คุณได้เคยทำต่อผู้อื่นไว้....ด้วยอำนาจแห่งกรรมมันจึงทำให้คุณไม่อาจจะหลีกเลี่ยงกรรมเหล่านั้นได้ ชาตินี้จึงต้องมีผู้อื่นมาส่งกรรมทำผิดต่อคุณโดยการพูดจาไม่ดีกับคุณอยู่บ่อยๆ อย่างไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้..... เมื่อเข้าใจอย่างนี้คุณก็จะปล่อยวางยอมรับกรรมนั้นไปโดยไม่ก่อเงื่อนกรรมใหม่แก่ตน คือไม่โกรธแค้นผู้ใดไม่โทษผู้อื่น ยอมรับในผลแห่งกรรมโดยดุษฎี....เมื่อหมดกรรมเมื่อใดคุณก็หลุดพ้นเมื่อนั้น จะโกรธแค้นผู้อื่นไปหาประโยชน์อันใด
เมื่อคุณเข้าใจได้ตามนี้จิตใจคุณก็จะสงบ ปล่อยวาง ไม่ยึดถือความเป็นตัวตนมากจนเกินไป เข้าใจในโลกธรรมว่าการติฉินนินทาให้ร้าย การสรรเสริญเยินยอ มันเป็นธรรมดาของโลก ไม่มีผู้ใดหลุดพ้น.....แม้แต่พระพุทธเจ้าเป็นศาสดาเอกของโลกตรัสรู้โดยชอบด้วยพระองค์เอง ก็ยังทรงอยู่ภายใต้โลกธรรม คือมีทั้งคนนินทาให้ร้ายต่อพระองค์ และมีทั้งคนสรรเสริญเยินยอพระองค์ แต่พระองค์ก็หาได้ยินดียินร้ายต่อสิ่งเหล่านั้นไม่ เพราะพระองค์ไม่มีทิฐิมานะความถืออัตตาในตัวตนอีกต่อไป สิ่งใดที่ผ่านเข้ามาจึงผ่านออกไปโดยไม่ทำให้จิตใจของพระองค์ต้องหวั่นไหวยินดียินร้ายไปกับสิ่งเหล่านั้นที่เข้ามากระทบ ....ให้ดูพระพุทธเจ้าองค์ศาสดาเป็นตัวอย่างแล้วพยายามทำตามพระองค์ จะสามารถพ้นทุกข์ได้โดยเร็ววันครับ
ลองพิจารณาดูครับ
อัตตาความมีมานะถือตัวมันทำให้เราโกรธเวลาที่มีผู้อื่นมากระทำผิดต่อเรา...เพราะเราถือเนื้อถือตัวว่าใครจะมาพูดจาเหน็บแนมเสียดสีต่อเราไม่ได้ เรามันคนวิเศษเหนือคนอื่น ทั้งที่ตามความเป็นจริงแล้วเราก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดาทั่วไปที่อาจมีผู้อื่นมาพูดไม่ดีต่อเราได้ตลอดเวลา....แม้แต่พระพุทธเจ้าองค์ศาสดาก็ยังมีผู้อื่นมาใส่ร้ายป้ายสีพูดจาเหน็บแนมด่าทอต่อว่าพระองค์ต่างๆ นาๆ ได้ ไฉนเลยเราคนธรรมดาจะหลุดพ้นไม่มีผู้ใดมาพูดไม่ดีต่อเราได้...ดังนั้นที่เราโกรธมันจึงเป็นเพราะอัตตามันกำเริบนั่นเอง
และหากคุณเชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม การเวียนว่ายตายเกิดตามบุพกรรม คุณจะให้อภัยในกรรมที่ผู้อื่นได้กระทำต่อตนได้โดยง่าย เพราะอย่างไรเสียคนผู้นั้นก็จักต้องได้รับผลแห่งกรรมที่เค้าได้กระทำอยู่ดี จะโกรธแค้นให้เค้าไปหาประโยชน์อันใด
และหากกรรมที่คุณได้รับอยู่นั้น เป็นกรรมที่ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงเร้นหลบใดๆ ได้เพราะต้องมีเหตุให้พบเจอคนเช่นนั้นตลอดเวลา ชะรอยก็น่าจะเป็นกรรมเก่าที่คุณได้เคยทำต่อผู้อื่นไว้....ด้วยอำนาจแห่งกรรมมันจึงทำให้คุณไม่อาจจะหลีกเลี่ยงกรรมเหล่านั้นได้ ชาตินี้จึงต้องมีผู้อื่นมาส่งกรรมทำผิดต่อคุณโดยการพูดจาไม่ดีกับคุณอยู่บ่อยๆ อย่างไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้..... เมื่อเข้าใจอย่างนี้คุณก็จะปล่อยวางยอมรับกรรมนั้นไปโดยไม่ก่อเงื่อนกรรมใหม่แก่ตน คือไม่โกรธแค้นผู้ใดไม่โทษผู้อื่น ยอมรับในผลแห่งกรรมโดยดุษฎี....เมื่อหมดกรรมเมื่อใดคุณก็หลุดพ้นเมื่อนั้น จะโกรธแค้นผู้อื่นไปหาประโยชน์อันใด
เมื่อคุณเข้าใจได้ตามนี้จิตใจคุณก็จะสงบ ปล่อยวาง ไม่ยึดถือความเป็นตัวตนมากจนเกินไป เข้าใจในโลกธรรมว่าการติฉินนินทาให้ร้าย การสรรเสริญเยินยอ มันเป็นธรรมดาของโลก ไม่มีผู้ใดหลุดพ้น.....แม้แต่พระพุทธเจ้าเป็นศาสดาเอกของโลกตรัสรู้โดยชอบด้วยพระองค์เอง ก็ยังทรงอยู่ภายใต้โลกธรรม คือมีทั้งคนนินทาให้ร้ายต่อพระองค์ และมีทั้งคนสรรเสริญเยินยอพระองค์ แต่พระองค์ก็หาได้ยินดียินร้ายต่อสิ่งเหล่านั้นไม่ เพราะพระองค์ไม่มีทิฐิมานะความถืออัตตาในตัวตนอีกต่อไป สิ่งใดที่ผ่านเข้ามาจึงผ่านออกไปโดยไม่ทำให้จิตใจของพระองค์ต้องหวั่นไหวยินดียินร้ายไปกับสิ่งเหล่านั้นที่เข้ามากระทบ ....ให้ดูพระพุทธเจ้าองค์ศาสดาเป็นตัวอย่างแล้วพยายามทำตามพระองค์ จะสามารถพ้นทุกข์ได้โดยเร็ววันครับ
ลองพิจารณาดูครับ
ความคิดเห็นที่ 16
ขี้ปากเขาน่ะค่ะ เอามาอมต่อทำไม
(สกปรกไปไหมคะ แต่คิดงี้สิแล้วจะรังเกียจการเอาเรื่องพวกนี้มานั่งคิดน่ะค่ะ) อันนี้สำหรับเบื้องต้น
ต่อมา ใจสงบลงไว้ค่อยพิจารณาตัวเราตัวเขาว่าไปค่ะ เขาจะพูดไม่ดี เขาจะด่า เขาจะนินทา ฯลฯ
นั่นเขาก็ทำกรรมของเขา มันไม่เีก่ยวกับเรา
แต่มันจะกลายเป็นกรรมของเราก็ต่อเมื่อเราคิดไม่ดีกับเขา เราอยากด่าเขา แล้วไปด่าเขา ไปทะเลาะกับเขา อันนี้นี่กรรมเรา
เมื่อทำกรรมต้องเสวยผลของกรรม
ผลของกรรมชั่วมันแสบร้อนมากนะคะ รักตัวอย่ามัวหมองเลย ไม่สนุกหรอกค่ะ
ความอดทนมันขมขื่น แต่ผลของมันหวานชื่นเสมอ กิงๆนะเออ
(สกปรกไปไหมคะ แต่คิดงี้สิแล้วจะรังเกียจการเอาเรื่องพวกนี้มานั่งคิดน่ะค่ะ) อันนี้สำหรับเบื้องต้น
ต่อมา ใจสงบลงไว้ค่อยพิจารณาตัวเราตัวเขาว่าไปค่ะ เขาจะพูดไม่ดี เขาจะด่า เขาจะนินทา ฯลฯ
นั่นเขาก็ทำกรรมของเขา มันไม่เีก่ยวกับเรา
แต่มันจะกลายเป็นกรรมของเราก็ต่อเมื่อเราคิดไม่ดีกับเขา เราอยากด่าเขา แล้วไปด่าเขา ไปทะเลาะกับเขา อันนี้นี่กรรมเรา
เมื่อทำกรรมต้องเสวยผลของกรรม
ผลของกรรมชั่วมันแสบร้อนมากนะคะ รักตัวอย่ามัวหมองเลย ไม่สนุกหรอกค่ะ
ความอดทนมันขมขื่น แต่ผลของมันหวานชื่นเสมอ กิงๆนะเออ
แสดงความคิดเห็น
ทำอย่างไรถึงจะทำให้ใจสงบ ไม่โกรธ ไม่เกลียด เวลาที่เราต้องเจอกับคนที่เราไม่ชอบ