เชื่อ 100% ครับ เพราะเคยดูคลิปครูอ้อย ฐิตินาถที่ออกทีวีหลายๆช่อง  และดูหลายๆคลิปทางยูทูป โดยไม่ได้เสียเงินไปเข้าคอร์สสักบาท  โดยการฝึกสั่งจิตตัวเองให้มองโลกในแง่บวกในทุกๆเรื่องซ้ำๆทุกวัน ให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ โฟกัสไปในสิ่งที่เราอยากได้  อย่าคิดเรีองที่เราไม่ต้องการ เพราะจิตใต้สำนึกไม่รู้ว่าเราชอบหรือไม่ชอบอะไร  มันจะดึงดูดทุกอย่างที่เราคิด ถ้าคิดถึงอะไรบ่อยๆซ้ำแล้วซ้ำอีก พอความคิดนั้นมันก่อตัวมีพลังมากขึ้น มันจะมาหาเราครับ ดังนั้น  การที่เรามีชีวิตที่แย่ เพราะที่ผ่านมาเราคิดแต่เรื่องที่เราไม่ต้องการนั่นเอง  ผมเลยฝึกคิดแต่สิ่งที่ต้องการ หลับตา มองเห็นภาพบ้านในฝัน พ่อแม่ครอบครัวมีความสุข ได้กราบเท้าพ่อแม่(ทั้งๆที่แต่ก่อนไม่กล้า) ได้ลงทุนขายของ ฯลฯ  หลับตาเห็นตัวเองแบบที่อยากให้เป็น ทำทุกวันบ่อยๆซ้ำๆจนชิน  พอเวลาผ่านไป2-3เดือน สิ่งที่เราคิดมันเกิดขึ้นมาจริงๆครับ  ผมกลับบ้านตจว.และกราบเท้าพ่อแม่โดยที่ไม่อายอะไร เหมือนมีพลังบางอย่างสั่งให้เราทำโดยอัตโนมัติ  ผมได้ลงทุนขายของเปิดร้านเป็นของตัวเอง ทั้งๆที่แต่ก่อน เอาแต่คิดกลัว กลุ้มใจว่าลงทุนต้องเจ๊ง ต้องโน่นนี่นั่น คือคิดลบมาตลอด  พอเราฝึกคิดกลับเป็นด้านบวกบ่อยๆซ้ำๆ  มันจะมาจริงๆครับ  และได้พาพ่อแม่คนที่เรารักไปเที่ยวตามที่ต่างๆแบบที่เราอยากทำตั้งนานครับ  อยากให้ทุกคนที่ได้อ่านเม้นท์นี้แล้ว ลองฝึกดูครับ  
แรกๆจะฝืนๆครับ  เพราะสมองจะไม่ชินกับการคิดบวก ผมฝึกหัวเราะ ยิ้ม คิดบวกแรกๆจะหลอนๆในสมอง และจะมีความคิดลบๆผุดขึ้นมาเยอะเลย เช่น เมิงบ้าป่าววะ เห้ย แกทำไม่ได้หรอก  แกมันไม่ประสบความสำเร็จ  เมื่อก่อนเจอเหตุการณ์แบบนี้ แกต้องโกรธนะ  แล้วถ้าใจเราไม่เข้มแข็งพอ  เราฝึกได้ไม่กี่วัน  เราจะกลับไปเป็นคนเดิมครับ  แล้วหลายคนก็จะบอกว่า ฉันลองฝึกแล้ว ไม่เห็นดีขึ้นเลย ไม่รวยขึ้นเลย อึดอัด รู้สึกอึดอัดในใจมาก  ผมอยากจะบอกว่า ผมฝึกมา4-5เดือนเลยครับ  เวลาหลอนๆ จะกลับไปดูไปเอากำลังใจในยูทูปเรื่อยๆครับ แล้วมันทำให้เราไม่ท้อและช่วยให้กำลังใจเราได้เยอะเลยครับ  คนที่คิดลบมาทั้งขีวิต จะให้ฝึกแค่3วัน7วัน แล้วจะให้เงินล้านหล่นลงมาจากฟ้า ไม่มีทางได้ง่ายขนาดนั้นหรอกครับ  มันต้องฝึก ฝึก ฝึก  ฝึกจนสมองส่วนจิตใต้สำนึกมันชินกับความสุข ขินกับความดีใจ ความสมหวัง ฝึกคิดและบิ้วอารมณ์ให้ดีใจมีความสุขตลอดเวลาบ่อยๆเท่าที่ทำได้ในทุกๆเรื่องครับ  พอมันชินแล้ว มันก็จะดูดสิ่งที่เราต้องการมาให้เราเองครับ   ปัญหาทุกอย่างมันมี2ด้านเสมอ แล้วแต่เราจะมอง เช่น
ถ้ารถติด ให้มองหาสิ่งที่เราจะยิ้มได้ เช่น แม้รถติด ฉันก็ยังเห็นต้นไม้สวยๆข้างทาง ฉันโชคดีจังเลย
แม้เป็นหนี้ แต่ฉันก็ยังมีเงินเหลือกินข้าวในกระเป๋าตั้วเยอะ ฉันดีใจจริงๆ  
แม้บ้านฉันจะไม่ใหญ่เท่าไหร่ แต่ก็โขคดีที่ห้องนอนฉัน เป็นห้องนอนที่ทำให้ฉันนอนหลับสบายที่สุดเลย  
คิดบวกในทุกๆเรื่อง มองให้เห็นด้านดีของทุกอย่างแบบนี้บ่อยๆซ้ำๆ จนชินสมอง   สมองมันจะเก็บภาพและความรู้สึกเป็นสุขไว้ครับ พอมันมากขึ้นทุกๆวัน มันจะส่งพลังที่เราสะสมมาไปดึงดูดสิ่งดีๆมาให้เราครับ  
แต่ถ้าเราเอาแต่คิดลบๆ บ่น รำคาญ หงุดหงุด ท้อ  ไม่เคยมองกลับด้านเลย  สมองก็จะจำแต่ความรู้สึกแย่ๆไว้เช่นกัน และมันจะไปดึงดูดอะไรแย่ๆมาให้เราได้เจออีกครับ ิเพราะจิตใต้สำนึกมันจะเข้าใจว่า  อะไรที่เราคิดและรู้สึกซ้ำๆ ไม่ว่าจะลบหรือบวก มันจะดึงดูดมาให้เราครับ  เพราะมันไม่รู้ว่าเราชอบหรือไม่ชอบ  มันรู้แค่ว่า เราคิดถึงอะไรบ่อยๆมันก็จะดึงดูดสิ่งนั้นมาให้ครับ

ผมคิดถึงเงินแล้วมีความสุขกับมัน คิดว่ามีร้านขายของ มีลูกค้าอุดหนุนเยอะมากๆ ได้พาคนที่เรารักไปเที่ยว แล้วดีใจมีความสุขไปก่อนเลย  พอวันนึงมันก็เป็นแบบที่ผมคิดไว้จริงๆครับ  

บางคนชอบคิดลบ อะไรที่ยังไม่เกิดก็ซ้อมกลุ้มใจ ซ้อมกลัว ซ้อมเสียใจ ผิดหวังไปก่อนแล้ว ชีวิตก็เป็นแบบที่ซ้อมไว้เลน  แล้วทำไมล่ะครับ ทำไมเราไม่ซ้อมดีใจ ซ้อมสมหวัง ซ้อมมีความสุขไปก่อนเลย   ซ้อมบ่อยๆจนชิน ชีวิตเปลี่ยนครับ  ผมทำมาแล้วครับ มีความสุขสมหวังมากๆๆๆครับ  ขอให้ลองทำดูนะครับ