ผมไปเจอแนวคิดนึงมาน่าสนใจมากเลยอยากจะมาเล่าให้ฟังกันครับ
คนที่เล่าเขาปักใจเชื่อว่าจักรวาลนี้กําลังขยายตัวออกไปจริงๆก็เลยเกิดแนวคิดนี้ขึ้นมา
คือถ้าเปรียบจักรวาลเป็นลูกระเบิดที่อยู่ในสระนํ้านิ่งๆเมื่อมันระเบิดมันจะผลักนํ้าที่อยู่รอบๆมันออกไปด้วย
ซึ่งถึงแม้ว่าแรงระเบิดจะนําหน้าไปไกลแล้วแต่ภายในเสี้ยววินาทีหนึ่งมันก็ยังมีหยดนํ้าบางหยดที่ถูกแรงระเบิดผลักออกไปเช่นกันแต่ยังตามไม่ทัน
ถ้าสมมุติให้วัถุหนึ่งอยู่ๆก็เกิดขึ้นมาในแรงระเบิดนั้นหลังจากที่มันระเบิดไปแล้วถ้ามันสามารเกาะหยดนํ้าหยดนั้นไว้ได้มันก็จะสามารเดินทางได้ด้วยความเร็วเท่ากับแรงระเบิดคล้ายๆกับนกที่เกาะลมบินไป
แต่ในชีวิตจริงแรงระเบิดมันไม่ได้รุนแรงขนาดนั้นและนอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องของแรงดึงดูดเข้ามาเกี่ยวข้องอีก
ถ้าสมมุติว่าในอนาคตเราสามารต้านทานแรงดึงดูดเหล่านั้นได้และรู้วิธีใช้มันแต่จากแนวคิดนี้มันก็คงจะเป็นได้เพียงแค่เที่ยวบินไปไม่กลับเท่านั้นไม่ต่างอะไรจากขีปนาวุธ
สรุปแล้วแนวคิดนี้มันมีอะไรจริงบ้างและถ้ามองในมุมมองเพ้อฝันเราจะสามารควบคุมมันได้อย่างไร
ในอนาคตเราจะสามารเดินทางด้วยความเร็วเท่ากับการขยายตัวของจักรวาลได้หรือไม่
คนที่เล่าเขาปักใจเชื่อว่าจักรวาลนี้กําลังขยายตัวออกไปจริงๆก็เลยเกิดแนวคิดนี้ขึ้นมา
คือถ้าเปรียบจักรวาลเป็นลูกระเบิดที่อยู่ในสระนํ้านิ่งๆเมื่อมันระเบิดมันจะผลักนํ้าที่อยู่รอบๆมันออกไปด้วย
ซึ่งถึงแม้ว่าแรงระเบิดจะนําหน้าไปไกลแล้วแต่ภายในเสี้ยววินาทีหนึ่งมันก็ยังมีหยดนํ้าบางหยดที่ถูกแรงระเบิดผลักออกไปเช่นกันแต่ยังตามไม่ทัน
ถ้าสมมุติให้วัถุหนึ่งอยู่ๆก็เกิดขึ้นมาในแรงระเบิดนั้นหลังจากที่มันระเบิดไปแล้วถ้ามันสามารเกาะหยดนํ้าหยดนั้นไว้ได้มันก็จะสามารเดินทางได้ด้วยความเร็วเท่ากับแรงระเบิดคล้ายๆกับนกที่เกาะลมบินไป
แต่ในชีวิตจริงแรงระเบิดมันไม่ได้รุนแรงขนาดนั้นและนอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องของแรงดึงดูดเข้ามาเกี่ยวข้องอีก
ถ้าสมมุติว่าในอนาคตเราสามารต้านทานแรงดึงดูดเหล่านั้นได้และรู้วิธีใช้มันแต่จากแนวคิดนี้มันก็คงจะเป็นได้เพียงแค่เที่ยวบินไปไม่กลับเท่านั้นไม่ต่างอะไรจากขีปนาวุธ
สรุปแล้วแนวคิดนี้มันมีอะไรจริงบ้างและถ้ามองในมุมมองเพ้อฝันเราจะสามารควบคุมมันได้อย่างไร