สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
TAF ขอสรุปการให้การของไทยในช่วงแรกวันนี้ตามนี้ครับ รายละเอียดเพิ่มเติมอ่านได้จาก http://www.thaiarmedforce.com/taf-special/595-tafspecial75.html
การให้การของไทยในรอบที่ 1
สำหรับท่านที่สนใจ ThaiArmedForce.com ได้สรุปการให้การของไทยทั้งหมดในวันแรกไว้
ไทยชี้ว่ากัมพูชาซ่อนการอุทธรณ์คดีเอาไว้ในการตีความ ไทยกับกัมพูชาไม่มีข้อพิพาทกัน ไทยได้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลทั้งหมดแล้ว แต่กัมพูชาพยายามใช้เล่ห์กลเพื่อซ่อนเจตนาที่จะอ้างสิทธิในพื้นที่ทับซ้อนไปเป็นของกัมพูชา สร้างข้อมูลเท็จเพื่อทำให้ศาลเข้าใจผิด เป็นการกระทำที่ไม่ชอบ ทั้ง ๆ ที่แผนที่ 1:200000 มีความผิดพลาดเยอะมาก ไม่สามารถวางลงในภูมิประเทศจริงได้ กัมพูชาขีดเส้นดินแดนอย่างผิดพลาดและคลาดเคลื่อนมาก และไม่มีหลักฐานว่าคำพิพากษาได้เอ่ยถึงพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม. อย่างที่กัมพูชากล่าวอ้างเลย
พื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม. ไม่เกี่ยวข้องกับคำพิพากษาเมื่อปี 2505 ก่อนหน้านั้น กัมพูชาไม่เคยประท้วงและยอมรับการดำเนินการของไทยในพื้นที่่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม. แต่ต่อมากลับรุกล้ำพื้นที่ของไทยโดยการสร้างวัดและชุมชน ซึ่งไทยประท้วงมาโดยตลอด กัมพูชาพยายามรุกรานไทยด้วยเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อการขึ้นทะเบียนมรดกโลกของกัมพูชา และยั่วยุให้ไทยต้องหาทางป้องกันตนเอง ข้อพิพาทนี้เป็นการกระทำของกัมพูชาฝ่ายเดียว คำพิพากษาเมื่อปี 2505ของศาลโลกไม่ได้พิจารณาในเรื่องเขตแดนดังกล่าว และฝ่ายกัมพูชาไม่เคยขอให้ศาลพิจารณาเขตแดน
ไทยชี้ว่าแผนที่ 1:200000 มีความคลาดเคลื่อนสูงมาก คำพิพากษาของศาลไม่ได้พูดถึงเลยว่ารับรองแผนที่ 1:200000 แผนที่ 1:200000 ไม่น่าเชื่อถือ เพราะเราต้องมีวิธีที่เหมาะสมในการถ่ายทอดแผนที่มาในยุคปัจจุบัน แต่กัมพูชาไม่มีข้อเสนอใดในการกำหนดเขตแดนในภูมิประเทศจริงเลย IBRU บอกว่ากัมพูชาไม่สามารถให้คำอธิบายที่มีเหตุผลได้ในการขีดเส้นแดน มีความคลาดเคลื่อนถึง 500 ม. และดูเหมือนเส้นเขตแดนของกัมพูชาจะเคลื่อนไหวได้ บางเส้นลากมาที่ตีนบันได้ปราสาท ถ้าเป็นอย่างนี้ กัมพูชาจะเอาแผนที่นี้มากำหนดเขตแดนได้อย่างไร การทำเช่นนี้ทำให้กัมพูชาอ้างสิทธิในพื้นที่ทับซ้อนได้โดยไม่สนใจความถูกต้องของแผนที่เลย เพราะแผนที่ของกัมพูชาเองยังขัดกันเอง ซึ่งศาลได้กำหนขอบเขตของปราสาทพระวิหารไว้แล้วในแผนที่ 85D ที่ศาลหามาเอง แต่ทนายกัมพูชากลับให้ค่ากับแผนที่ 1:200000 เยอะเกินไป ทั้งๆที่มีแผนที่มากมายที่ต้องพิจารณา
หลักฐานที่ IBRU คำนวณให้เห็นว่าแผนที่ 1:200000 มีความผิดพลาดและคลาดเคลื่อนสูงมาก เขตแดนจะบิดเบี้ยวเหมือนคนเมา ไม่สามารถพล็อตลงในภูมิประเทศจริงได้ นำไปใช้จริงไม่ได้ แม้แต่กัมพูชาเองก็ยังไม่รู้เลยว่าจะเอาเส้นไหนดี และไม่รู้ว่าจะถ่ายทอดเส้นนี้ลงในภูมิประเทศจริงได้อย่างไร แต่กลับพยายามขอร้องให้ใช้แผนที่ 1:200000 เพื่อผลประโยชน์ตนเอง ซึ่งถ้าเราไม่สามารถวางเส้นเขตแดนได้ เราควรดูเจตนาของผู้เขียนแผนที่ ซึ่งก็คือเขตแดนควรเป็นตามสันปันน้ำ แต่แผนที่ version ที่กัมพูชาชอบที่สุดนั้นกัมพูชาก็ยังไม่มีใช้เอง ศาลก็ไม่มี ไทยก็ไม่มี และกัมพูชาก็ไม่มีความสามารถในการพล็อตเส้นเหล่านี้ลงภูมิประเทศจริงได้
กัมพูชาต้องการขยายอาณาเขตของตนมายังพื้นที่ 4.6 ตร.กม. ทั้งที่กัมพูชาเห็นด้วยกับไทยว่าเส้นเขตแดนระหว่างสองประเทศนั้นต้องแบ่งตามสันปันน้ำ ซึ่งพื้นที่ชายแดนอื่นที่ติดกับไทยนั้นกัมพูชาก็ยอมรับว่าต้องใช้สันปันน้ำ แต่ทำไมในพื้นที่นี้กัมพูชากลับปฏิเสธที่จะใช้สันปันน้ำ
กัมพูชายอมรับแนวรั้วของไทยแล้ว และไม่เคยคัดค้านเลย ป้ายของไทยมีการกำหนดไว้ชัดว่าจะวางไว้ที่ใด นี่เป็นการดำเนินการตามคำพิพากษาว่าบริเวณปราสาทคือจุดนี้ ถ้ากัมพูชาไม่เห็นด้วยก็แค่แจ้งต่อศาล แต่กัมพูชาไม่เคยโต้แย้งเลย เมื่อไทยแปลงเส้นเขตแดนในแผนที่มาลงบนพื้นดินตามแผนที่ 85D ของศาลโลก กัมพูชาก็ไม่เคยโต้แย้ง การฉลองชัยชนะของกัมพูชาก็เฉลิมฉลองในพื้นที่ตามมติครม. 2505 ของไทย ท่านสีหนุยังชื่นชมตำรวจไทยที่มาช่วยดูแลความปลอดภัย และยินดีและยอมรับกับรั้วลวดหนามของไทยแล้ว
ท่านสีหนุบอกแล้วว่ายอมรับแนวรั้วของไทย แต่ตอนนี้กัมพูชากำลังกลับคำพูดของประมุขของตนเอง
สีหนุบอกว่าแนวรั๊วของไทยอาจจะเบี่ยงเบนไปเพียง1-2ม. แต่นั่นทำให้เราต้องมาตีความคำพิพากษาหรือ เหมือนดูถูกศาล ทั้งนี้ ไทยและกัมพูชาลงนามใน MoU 2543 ซึ่งเป็นการปักปันเขตแดน ซึ่ง
MoU ไม่ได้พูดถึงคำพิพากษา แต่เป็นการกำหนดเขตแดนตลอดแนว ซึ่งรวมถึงพื้นที่ทับซ้อนด้วย
เมื่อตอนที่ปราสาทเปิดให้นักท่องเที่ยวเยี่ยมชม ก็เป็นการเปิดร่วมกันของทั้งไทยและกัมพูชา มีป้ายและประตูของไทยที่ห้วยตะขบและห้วยตานี มีด่านของไทยในพื้นที่ทับซ้อน ซึ่งกัมพูชาไม่เคยคัดค้านเลย แต่ไทยลังเลที่จะไปสร้างห้องน้ำบนปราสาทพระวิหาร เพราะมันไม่ใช่ดินแดนของไทย ซึ่งต่างจากกัมพูชา ไทยเป็นผู้บำรุงรักษาสะพาน ประตู สำนักงานขายตัว ซึ่งกัมพูชาไม่เคยอ้างมาก่อนเลย ทั้งหมดนี้อยู่ห่างเพียง 200 เมตรจากตัวปราสาท ป้ายทุกอย่างก็เป็นภาษาไทย แต่ภายหลังกัมพูชากลับเปลี่ยนจุดยืนและไม่ให้ประเทศไทยมาส่วนร่วมกับปราสาท และปลดรมต.ของตนที่ทำงานร่วมกับไทย หลังจากนั้นจึงสร้างวัดและชุมชุนรุกล้ำพื้นที่ของไทย จนกลายเป็นข้อพิพาทด้านเขตแดน แต่กัมพูชาต้องการลากเส้นหักเหออกจากสนธิสัญญาและแผนที่ ต่อมาไทยได้ถ่ายทอดเส้นเขตแดนตามแผนที่ลงมาในภูมิประเทศ และกัมพูชาก็ไม่เคยคัดค้าน
กัมพูชากล่าวหาว่าไทยไม่เคยโต้แย้ง ซึ่งไม่จริง เพราะไทยประท้วงต่อเนื่องแต่กัมพูชาไม่เคยสนใจ แต่กัมพูชากลับเบี่ยงประเด็นและพยายามให้ศาลพิพากษาเรื่องเขตแดน ซึ่งเป็นสิ่งที่ศาลปฏิเสธที่จะพูดเมื่อปี 2505 เนื่องจาก กัมพูชาต้องการใช้พื้นที่ไทยในการขึ้นทะเบียนมรดกโลก ซึ่งไทยก็ประท้วงจนกัมพูชาต้องยอมขึ้นทะเบียนเฉพาะปราสาท
ตอนที่กรมพระยาดำรงค์ไปเยี่ยมปราสาท ก็พยายามโต้แย้งการมีทหารฝรั่งเศสแล้วแต่ศาลกลับมองว่าไม่เพียงพอ การเลี้ยงรับรองหรือการเป่าแซ็กโซโฟนของฝรั่งเศสคงไม่สามารถมาแบ่งเขตแดนได้ แต่น่าเสียดายที่ศาลไม่รับฟัง และไทยเคยแจ้งต่อศาลว่าไม่เคยยอมรับเส้นเขตแดนในแผนที่ 1:200000 ต่อมาไทยได้ถ่ายทอดเส้นเขตแดนตามแผนที่ลงมาในภูมิประเทศ และกัมพูชาก็ไม่เคยคัดค้าน แต่ทนายของกัมพูชาเลี่ยงที่จะพูด เพราะนั่นอาจชี้ให้เห็นว่าไทยมีอธิปไตยเหนือพื้นที่ทับซ้อน
การให้การของไทยในรอบที่ 1
สำหรับท่านที่สนใจ ThaiArmedForce.com ได้สรุปการให้การของไทยทั้งหมดในวันแรกไว้
ไทยชี้ว่ากัมพูชาซ่อนการอุทธรณ์คดีเอาไว้ในการตีความ ไทยกับกัมพูชาไม่มีข้อพิพาทกัน ไทยได้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลทั้งหมดแล้ว แต่กัมพูชาพยายามใช้เล่ห์กลเพื่อซ่อนเจตนาที่จะอ้างสิทธิในพื้นที่ทับซ้อนไปเป็นของกัมพูชา สร้างข้อมูลเท็จเพื่อทำให้ศาลเข้าใจผิด เป็นการกระทำที่ไม่ชอบ ทั้ง ๆ ที่แผนที่ 1:200000 มีความผิดพลาดเยอะมาก ไม่สามารถวางลงในภูมิประเทศจริงได้ กัมพูชาขีดเส้นดินแดนอย่างผิดพลาดและคลาดเคลื่อนมาก และไม่มีหลักฐานว่าคำพิพากษาได้เอ่ยถึงพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม. อย่างที่กัมพูชากล่าวอ้างเลย
พื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม. ไม่เกี่ยวข้องกับคำพิพากษาเมื่อปี 2505 ก่อนหน้านั้น กัมพูชาไม่เคยประท้วงและยอมรับการดำเนินการของไทยในพื้นที่่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม. แต่ต่อมากลับรุกล้ำพื้นที่ของไทยโดยการสร้างวัดและชุมชน ซึ่งไทยประท้วงมาโดยตลอด กัมพูชาพยายามรุกรานไทยด้วยเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อการขึ้นทะเบียนมรดกโลกของกัมพูชา และยั่วยุให้ไทยต้องหาทางป้องกันตนเอง ข้อพิพาทนี้เป็นการกระทำของกัมพูชาฝ่ายเดียว คำพิพากษาเมื่อปี 2505ของศาลโลกไม่ได้พิจารณาในเรื่องเขตแดนดังกล่าว และฝ่ายกัมพูชาไม่เคยขอให้ศาลพิจารณาเขตแดน
ไทยชี้ว่าแผนที่ 1:200000 มีความคลาดเคลื่อนสูงมาก คำพิพากษาของศาลไม่ได้พูดถึงเลยว่ารับรองแผนที่ 1:200000 แผนที่ 1:200000 ไม่น่าเชื่อถือ เพราะเราต้องมีวิธีที่เหมาะสมในการถ่ายทอดแผนที่มาในยุคปัจจุบัน แต่กัมพูชาไม่มีข้อเสนอใดในการกำหนดเขตแดนในภูมิประเทศจริงเลย IBRU บอกว่ากัมพูชาไม่สามารถให้คำอธิบายที่มีเหตุผลได้ในการขีดเส้นแดน มีความคลาดเคลื่อนถึง 500 ม. และดูเหมือนเส้นเขตแดนของกัมพูชาจะเคลื่อนไหวได้ บางเส้นลากมาที่ตีนบันได้ปราสาท ถ้าเป็นอย่างนี้ กัมพูชาจะเอาแผนที่นี้มากำหนดเขตแดนได้อย่างไร การทำเช่นนี้ทำให้กัมพูชาอ้างสิทธิในพื้นที่ทับซ้อนได้โดยไม่สนใจความถูกต้องของแผนที่เลย เพราะแผนที่ของกัมพูชาเองยังขัดกันเอง ซึ่งศาลได้กำหนขอบเขตของปราสาทพระวิหารไว้แล้วในแผนที่ 85D ที่ศาลหามาเอง แต่ทนายกัมพูชากลับให้ค่ากับแผนที่ 1:200000 เยอะเกินไป ทั้งๆที่มีแผนที่มากมายที่ต้องพิจารณา
หลักฐานที่ IBRU คำนวณให้เห็นว่าแผนที่ 1:200000 มีความผิดพลาดและคลาดเคลื่อนสูงมาก เขตแดนจะบิดเบี้ยวเหมือนคนเมา ไม่สามารถพล็อตลงในภูมิประเทศจริงได้ นำไปใช้จริงไม่ได้ แม้แต่กัมพูชาเองก็ยังไม่รู้เลยว่าจะเอาเส้นไหนดี และไม่รู้ว่าจะถ่ายทอดเส้นนี้ลงในภูมิประเทศจริงได้อย่างไร แต่กลับพยายามขอร้องให้ใช้แผนที่ 1:200000 เพื่อผลประโยชน์ตนเอง ซึ่งถ้าเราไม่สามารถวางเส้นเขตแดนได้ เราควรดูเจตนาของผู้เขียนแผนที่ ซึ่งก็คือเขตแดนควรเป็นตามสันปันน้ำ แต่แผนที่ version ที่กัมพูชาชอบที่สุดนั้นกัมพูชาก็ยังไม่มีใช้เอง ศาลก็ไม่มี ไทยก็ไม่มี และกัมพูชาก็ไม่มีความสามารถในการพล็อตเส้นเหล่านี้ลงภูมิประเทศจริงได้
กัมพูชาต้องการขยายอาณาเขตของตนมายังพื้นที่ 4.6 ตร.กม. ทั้งที่กัมพูชาเห็นด้วยกับไทยว่าเส้นเขตแดนระหว่างสองประเทศนั้นต้องแบ่งตามสันปันน้ำ ซึ่งพื้นที่ชายแดนอื่นที่ติดกับไทยนั้นกัมพูชาก็ยอมรับว่าต้องใช้สันปันน้ำ แต่ทำไมในพื้นที่นี้กัมพูชากลับปฏิเสธที่จะใช้สันปันน้ำ
กัมพูชายอมรับแนวรั้วของไทยแล้ว และไม่เคยคัดค้านเลย ป้ายของไทยมีการกำหนดไว้ชัดว่าจะวางไว้ที่ใด นี่เป็นการดำเนินการตามคำพิพากษาว่าบริเวณปราสาทคือจุดนี้ ถ้ากัมพูชาไม่เห็นด้วยก็แค่แจ้งต่อศาล แต่กัมพูชาไม่เคยโต้แย้งเลย เมื่อไทยแปลงเส้นเขตแดนในแผนที่มาลงบนพื้นดินตามแผนที่ 85D ของศาลโลก กัมพูชาก็ไม่เคยโต้แย้ง การฉลองชัยชนะของกัมพูชาก็เฉลิมฉลองในพื้นที่ตามมติครม. 2505 ของไทย ท่านสีหนุยังชื่นชมตำรวจไทยที่มาช่วยดูแลความปลอดภัย และยินดีและยอมรับกับรั้วลวดหนามของไทยแล้ว
ท่านสีหนุบอกแล้วว่ายอมรับแนวรั้วของไทย แต่ตอนนี้กัมพูชากำลังกลับคำพูดของประมุขของตนเอง
สีหนุบอกว่าแนวรั๊วของไทยอาจจะเบี่ยงเบนไปเพียง1-2ม. แต่นั่นทำให้เราต้องมาตีความคำพิพากษาหรือ เหมือนดูถูกศาล ทั้งนี้ ไทยและกัมพูชาลงนามใน MoU 2543 ซึ่งเป็นการปักปันเขตแดน ซึ่ง
MoU ไม่ได้พูดถึงคำพิพากษา แต่เป็นการกำหนดเขตแดนตลอดแนว ซึ่งรวมถึงพื้นที่ทับซ้อนด้วย
เมื่อตอนที่ปราสาทเปิดให้นักท่องเที่ยวเยี่ยมชม ก็เป็นการเปิดร่วมกันของทั้งไทยและกัมพูชา มีป้ายและประตูของไทยที่ห้วยตะขบและห้วยตานี มีด่านของไทยในพื้นที่ทับซ้อน ซึ่งกัมพูชาไม่เคยคัดค้านเลย แต่ไทยลังเลที่จะไปสร้างห้องน้ำบนปราสาทพระวิหาร เพราะมันไม่ใช่ดินแดนของไทย ซึ่งต่างจากกัมพูชา ไทยเป็นผู้บำรุงรักษาสะพาน ประตู สำนักงานขายตัว ซึ่งกัมพูชาไม่เคยอ้างมาก่อนเลย ทั้งหมดนี้อยู่ห่างเพียง 200 เมตรจากตัวปราสาท ป้ายทุกอย่างก็เป็นภาษาไทย แต่ภายหลังกัมพูชากลับเปลี่ยนจุดยืนและไม่ให้ประเทศไทยมาส่วนร่วมกับปราสาท และปลดรมต.ของตนที่ทำงานร่วมกับไทย หลังจากนั้นจึงสร้างวัดและชุมชุนรุกล้ำพื้นที่ของไทย จนกลายเป็นข้อพิพาทด้านเขตแดน แต่กัมพูชาต้องการลากเส้นหักเหออกจากสนธิสัญญาและแผนที่ ต่อมาไทยได้ถ่ายทอดเส้นเขตแดนตามแผนที่ลงมาในภูมิประเทศ และกัมพูชาก็ไม่เคยคัดค้าน
กัมพูชากล่าวหาว่าไทยไม่เคยโต้แย้ง ซึ่งไม่จริง เพราะไทยประท้วงต่อเนื่องแต่กัมพูชาไม่เคยสนใจ แต่กัมพูชากลับเบี่ยงประเด็นและพยายามให้ศาลพิพากษาเรื่องเขตแดน ซึ่งเป็นสิ่งที่ศาลปฏิเสธที่จะพูดเมื่อปี 2505 เนื่องจาก กัมพูชาต้องการใช้พื้นที่ไทยในการขึ้นทะเบียนมรดกโลก ซึ่งไทยก็ประท้วงจนกัมพูชาต้องยอมขึ้นทะเบียนเฉพาะปราสาท
ตอนที่กรมพระยาดำรงค์ไปเยี่ยมปราสาท ก็พยายามโต้แย้งการมีทหารฝรั่งเศสแล้วแต่ศาลกลับมองว่าไม่เพียงพอ การเลี้ยงรับรองหรือการเป่าแซ็กโซโฟนของฝรั่งเศสคงไม่สามารถมาแบ่งเขตแดนได้ แต่น่าเสียดายที่ศาลไม่รับฟัง และไทยเคยแจ้งต่อศาลว่าไม่เคยยอมรับเส้นเขตแดนในแผนที่ 1:200000 ต่อมาไทยได้ถ่ายทอดเส้นเขตแดนตามแผนที่ลงมาในภูมิประเทศ และกัมพูชาก็ไม่เคยคัดค้าน แต่ทนายของกัมพูชาเลี่ยงที่จะพูด เพราะนั่นอาจชี้ให้เห็นว่าไทยมีอธิปไตยเหนือพื้นที่ทับซ้อน
ความคิดเห็นที่ 2
เอ่อ คุณรู้รึเปล่าว่าเขากำลังพิจารณาความในเรื่องใดกันเนี่ย
คุณกำลังพูดในสิ่งที่ "เป็นไปไม่ได้" ในทางนิตินัยอยู่นะ
---------------------
ผลการตัดสินไม่มีทางเรื่อง ปราสาท ค่ะ เพราะอันนี้ศาลตัดสินไปแล้วว่าของเขมร
ส่วนเรื่องพื้นที่นั้น ถ้าศาลเข้าข้างเรา มันก็ทับซ้อนต่อไปเท่านั้น
เขาถึงได้บอกว่า เจ๊า กับ เจ๊ง ไงคะ
คือยื่นตีความคำตัดสินเดิมที่ได้ตัดสินว่า ปราสาทเป็นของเขมร เนี่ย หมายรวมถึงพื้นที่ทับซ้อนด้วยรึเปล่า เพราะแผนที่ที่ศาลใช้ตัดสินคือ 1 : 200,000 ซึ่งแผนที่นี้ไทยเสียพื้นที่ค่ะ
ปล.จะรอดูซิ จะมีความเห็นกะเฬวกะฬากของล๊อคอินกาก ๆ มาไหม จะแย้งอะไรก็ขอความกรุณาใช้เซลล์สมองหน่อยนะ
คุณกำลังพูดในสิ่งที่ "เป็นไปไม่ได้" ในทางนิตินัยอยู่นะ
---------------------
ผลการตัดสินไม่มีทางเรื่อง ปราสาท ค่ะ เพราะอันนี้ศาลตัดสินไปแล้วว่าของเขมร
ส่วนเรื่องพื้นที่นั้น ถ้าศาลเข้าข้างเรา มันก็ทับซ้อนต่อไปเท่านั้น
เขาถึงได้บอกว่า เจ๊า กับ เจ๊ง ไงคะ
คือยื่นตีความคำตัดสินเดิมที่ได้ตัดสินว่า ปราสาทเป็นของเขมร เนี่ย หมายรวมถึงพื้นที่ทับซ้อนด้วยรึเปล่า เพราะแผนที่ที่ศาลใช้ตัดสินคือ 1 : 200,000 ซึ่งแผนที่นี้ไทยเสียพื้นที่ค่ะ
ปล.จะรอดูซิ จะมีความเห็นกะเฬวกะฬากของล๊อคอินกาก ๆ มาไหม จะแย้งอะไรก็ขอความกรุณาใช้เซลล์สมองหน่อยนะ
ความคิดเห็นที่ 26
ผมกลับเห็นว่ามีคนไทยอีกไม่น้อยเลยที่แกล้งเกรียน(ไม่ก็คงเกรียนจริงๆ)
ไม่ได้สนใจหรอกว่าความเป็นมาที่มาที่ไป มันเป็นยังไงถึงได้มาถึงจุดนี้
และก็ไม่ได้ใส่ใจหรอกว่าผลได้ผลเสีย หรือจะมีผลอะไรตามมา
มาถึงก็จะอ้างรักชาติกันลูกเดียว
แล้วพอประกาศความรักชาติของตัวเองปั๊ป ก็ต้องดิสเครดิตคนอื่นว่าไม่รักชาติเท่าตน(ตามสไตล์)
ขอเถอะครับ ก่อนจะแสดงความรักชาติอย่างสุดซึ้ง
ช่วยไปศึกษารายระเอียดมาให้รอบคอบกันเสียก่อนดีมั๊ย
จะได้ไม่ต้องมารักชาติกันแบบโง่ๆตามอารมณ์ที่แสนจะบอบบาง
หรือหากวิญญาณนักรบโบราณเข้าสิงก็โน่นเลย3จังหวัดภาคใต้
ที่นั่นคุณจะได้รบแสดงความรักชาติกันอย่างเต็มที่
ไปปกป้องชีวิตคน ไปคุ้มครองครู คุ้มครองพระกัน
ดีกว่ามายุให้พิ้นที่ที่มันสงบอยู่กลายมาเป็นสมรภูมิให้เจ็บให้ตายโดยไม่จำเป็น
ไม่ได้สนใจหรอกว่าความเป็นมาที่มาที่ไป มันเป็นยังไงถึงได้มาถึงจุดนี้
และก็ไม่ได้ใส่ใจหรอกว่าผลได้ผลเสีย หรือจะมีผลอะไรตามมา
มาถึงก็จะอ้างรักชาติกันลูกเดียว
แล้วพอประกาศความรักชาติของตัวเองปั๊ป ก็ต้องดิสเครดิตคนอื่นว่าไม่รักชาติเท่าตน(ตามสไตล์)
ขอเถอะครับ ก่อนจะแสดงความรักชาติอย่างสุดซึ้ง
ช่วยไปศึกษารายระเอียดมาให้รอบคอบกันเสียก่อนดีมั๊ย
จะได้ไม่ต้องมารักชาติกันแบบโง่ๆตามอารมณ์ที่แสนจะบอบบาง
หรือหากวิญญาณนักรบโบราณเข้าสิงก็โน่นเลย3จังหวัดภาคใต้
ที่นั่นคุณจะได้รบแสดงความรักชาติกันอย่างเต็มที่
ไปปกป้องชีวิตคน ไปคุ้มครองครู คุ้มครองพระกัน
ดีกว่ามายุให้พิ้นที่ที่มันสงบอยู่กลายมาเป็นสมรภูมิให้เจ็บให้ตายโดยไม่จำเป็น
แสดงความคิดเห็น
ถ้า "ศาลโลก" ตัดสินว่า "ปราสาทเขาพระวิหาร" และพื้นที่โดยรอบเป็นของประเทศไทย เราจะได้ประโยชน์อะไรบ้างจากพื้นที่ตรงนี้