คุณอลงกรณ์ครับ คุณคิดของคุณแบบนี้ มันไม่ใจร้ายไปหน่อยหรือครับ

กระทู้สนทนา
พูดมาได้อย่างไรครับที่ว่า ปชป.แพ้พรรคเพื่อไทย ไม่ใช่แพ้เพราะเงิน ป๊าดโธ่ พูดแบบไม่รับผิดชอบแบบนี้ ไม่ได้คิดถึงหัวอกเหล่ากองเชียร์เลยสักนิด ใช้ไม่ได้จริงๆนะครับคุณอลงกรณ์

สิ่งที่จะปลอบใจเหล่ากองเชียร์ทั้งหลาย ก็คือปัจจัยเรื่องนี้แหละครับ คุณทักษิณเป็นคนรวย คนเลือกเพราะเห็นแก่เงิน คนจนซื้อได้อะไรเทือกนั้น มันเป็นสิ่งเดียวที่จะปลอบประโลมเหล่ากองเชียร์ได้ภูมิใจในความเป็นคนคุณภาพที่เงินซื้อไม่ได้ พอคุณอลงกรณ์มาพูดเสียแบบนี้ มันก็หมดกันสิครับ เฮ่อ จ้อนนะจ้อน ไม่น่าเลย

แค่นี้ยังไม่หนำ คุณอลงกรณ์ยังมีพูดถึงเรื่องแพ้เพราะ “คิดไม่ทัน ปรับตัวไม่ทัน” อย่างนี้มันก็ไปเข้ากับฉายา “แมลงสาป”สิครับ แล้วเหล่ากองเชียร์จะทำหน้าอย่างไรล่ะคราวนี้ วันก่อนคุณกรณ์ก็ยอมรับความเป็นแมลงสาปที่อยู่ทนคู่โลก เมียคุณกรณ์ก็ดันมาเห็นดีเห็นงามกับฉายาแมลงสาปที่ไปไหนสาวๆพากันกรี๊ดสนั่น ตอนนี้คุณอลงกรณ์กลับมาใช้คำว่า “ปรับตัวไม่ทัน” ซะงั้น กองเชียร์เซ็งวุ้ย

แทนที่จะหยุดอยู่เพียงเท่านี้ คุณอลงกรณ์ยังมาตอกย้ำให้เหล่ากองเชียร์ชีช้ำกระหล่ำปลีเพิ่มขึ้นไปอีก เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา กองเชียร์เขาก็เชื่อด้วยความบริสุทธิ์ใจ จากวาทกรรมของพรรคคุณอลงกรณ์นั่นแหละคอยปลูกฝังให้เชื่อว่า 30 บาทรักษาทุกโรคหรือกองทุนหมู่บ้าน เป็นประชานิยมที่จะทำให้ประเทศเสียหายล้มละลาย แต่นี่คุณอลงกรณ์กลับไปเห็นดีเห็นงามว่าเป็นนโยบายโดนใจประชาชน อยากให้ทางพรรครู้จัก “คิดใหม่ ทำใหม่” ซะงั้น แบบนี้เหล่ากองเชียร์มิกลืนไม่เข้า คายไม่ออกหรือครับคุณอลงกรณ์

แล้วคุณอลงกรณ์ยังมาสารภาพกันง่ายๆ ที่อีกฝ่ายได้เป็นรัฐบาล ก็ลงมือทำทันทีจนสร้างความเชื่อมั่นว่า “ทำได้อย่างที่พูด” จึงผูกใจประชาชน อย่างนี้จะเหลืออะไรให้เหล่ากองเชียร์ได้ปลอบใจตัวเองล่ะครับคุณอลงก๊รณ์ พวกเขาอุตส่าห์ปิดหู ปิดตา พยายามจะถามหาผลงานรัฐบาลอยู่เป็นเนืองๆ เมื่อสารภาพเสียเองแบบนี้ แล้วกองเชียร์ล่ะครับ จะให้พวกเขาเอาอะไรมาตำหนิรัฐบาลเพื่อปลอบใจตัวเองอีกล่ะ ใจร้ายจริงเชียวนะคุณอลงกรณ์

นอกจากนี้ถ้ามองในมุมกลับ นั่นแสดงว่าคุณอลงกรณ์ยอมรับกับตัวเองแล้วสินะว่า พรรคของคุณอลงกรณ์เอง ไม่ได้ทำอย่างที่พูด จึงไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ดังนั้นจึงต้องพ่ายแพ้ถึง 21 ปี อย่างนี้แล้วเหล่าคุณภาพที่เลือกพรรคคุณอลงกรณ์ล่ะครับ เลือกเพราะอะไรกันครับ เฮ่อ ไม่ไว้หน้ากันบ้างเลยนะครับคุณอลงกรณ์

แต่ที่ผมยอมรับคุณอลงกรณ์ก็เรื่องมุมมองการทำงานของรัฐบาล ที่แยกการบริหารกับการเมืองออกจากกัน โดยรัฐบาลบริหารสร้างผลงาน และให้พรรครับงานการเมือง นี่คือการเปลี่ยนกลยุทธทั้งการเลือกตั้งและการบริหารจัดการ นับว่าเป็นวิสัยทัศน์ของนักการเมืองคนหนึ่ง แม้จะอยู่กับพรรคที่ขึ้นชื่อว่า “พรรคแมลงสาป”ก็ตาม ซึ่งหาได้ยากจากนักการเมืองภายในพรรคของคุณอลงกรณ์เอง เพราะพวกนั้นได้แต่ท่องจำเรียกหานายกฯเข้าสภา นายกฯไม่เห็นความสำคัญของสภาอะไรเหล่านั้น ทำให้เหล่ากองเชียร์คอยจำและพูดเป็นนกแก้วนกขุนทองอยู่จนทุกวันนี้ แล้วพอถึงเวลาเลือกตั้งก็แพ้อีกตามเคย สุดท้ายก็สรุปเอาเองว่า พวกเราเป็นพวกมีคุณภาพ 555

ส่วนเรื่องสุดท้ายที่คุณอลงกรณ์ตีแสกหน้าทั้งพรรคทั้งกองเชียร์ก็คงเป็นเรื่องการอิงแอบเผด็จการและปล่อยปละละเลยให้มีการคอรัปชั่นอย่างมากตอนเป็นรัฐบาล สองเรื่องนี้ผมมองว่าเป็นความใจร้ายของคุณอลงกรณ์อย่างมากมายเลยนะครับ

คุณอลงกรณ์ครับ เรื่องการอิงแอบเผด็จการ แม้คุณอลงกรณ์จะไม่ได้สารภาพ แต่ก็เป็นการยอมรับในทีว่า ภาพลักษณ์ที่ออกมา มันส่อให้เห็นเป็นเช่นนั้นจริงๆ มันจึงเป็นการทำลายความเชื่อมั่น ที่เหล่ากองเชียร์พยายามจะมองว่าการเป็นรัฐบาลของคุณอภิสิทธิ์นั้น เป็นการได้มาจากการโหวตในสภาเฉกเช่นเดียวกับรัฐบาลอื่นๆ พยายามจะไม่มองถึงที่มาที่ไป ไม่คิดถึงความสง่างาม และไม่พยายามจะค้นหาเหตุผล เพียงเพื่อให้ตัวเองมั่นใจว่า ได้ใช้ดุลพินิจของคนมีคุณภาพคัดเลือกคนมีคุณภาพมาเป็นรัฐบาล เมื่อคุณอลงกรณ์มาพูดซะแบบนี้ แล้วจะเหลืออะไรให้กองเชียร์ภาคภูมิใจกันล่ะครับคุณอลงกรณ์

ต่อด้วยการคอรัปชั่น ซึ่งก็เป็นอีกความภูมิใจของเหล่ากองเชียร์ที่คิดว่าพยายามไม่เลือกคนโกง และการขับไล่โดยเชื้อเชิญให้มีการทำรัฐประหาร แม้จะทำให้ประเทศสูญเสียมากมายก็ตาม ก็ถือว่าคุ้ม เมื่อได้ขับไล่รัฐบาลที่คอรัปชั่น แต่เมื่อคุณอลงกรณ์ออกมายอมรับเสียเองแบบนี้ มันมิเป็นการทำลายความมั่นใจของเหล่ากองเชียร์จนหมดสิ้นหรือครับ ทำลายความมั่นใจของความรักชาติที่สามารถขับไล่รัฐบาลโกงไปได้ แต่สุดท้ายกลายเป็นพวกกลเลือกนายซะอย่างนี้ ผมจึงบอกว่า คุณอลงกรณ์ใจร้ายมากเลยนะครับ ไม่สงสารกองเชียร์บ้างหรือครับ

สุดท้ายก็อยากบอกคุณอลงกรณ์ว่า คุณพิชัยออกมาพูดหลายครั้งหลายครา แม้จะเป็นเรื่องคล้ายๆกับที่คุณอลงกรณ์คิด ที่คุณอลงกรณ์มอง แต่สถานะมันผิดกัน เพราะคุณพิชัยพูดในฐานะคนแก่ที่ไม่มีตำแหน่งอะไรในพรรคอีกแล้ว ส่วนคุณอลงกรณ์นั้นไม่ใช่นะครับ คุณอลงกรณ์เป็นถึงรองหัวหน้าพรรค น้ำหนักจึงย่อมแตกต่างจากของคุณพิชัย ดังนั้นแม้ผมจะสะใจก็ตาม แต่ส่วนลึกของหัวใจ ผมก็เริ่มหวั่นใจเช่นกัน ไม่อยากเชื่อว่า ในภายในพรรคประชาธิปัตย์ยังมีคน “คิดเป็น”อย่างคุณอลงกรณ์ พรรคเพื่อไทยถ้ายังคิดจะชนะในครั้งต่อๆไป คงต้องทำงานให้หนักมากขึ้นกว่าเดิมแล้วล่ะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่