สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 22
จริง ๆ แล้วเครื่องชงกาแฟไม่มีอะไรซับซ้อนหรอกครับ ราคาก็ไม่น่าจะแพงอย่างที่คิดเหมือนกัน ผมเองก็เคยคิดและมองเห็นแบบนี้มานาน จนกระทั่งมารู้ตัวอีกที เครื่องชงราคา เกือบห้าแสนก็มาอยู่ในมือ เครื่องบดกาแฟราคาสามแสนกว่าก็ซื้อไปแล้ว เครื่องคั่วกาแฟนี่ยิ่งหนัก มีตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลายร้อยล้าน ( ที่ใช้ในอุตสหกรรมใหญ่ )
จริง ๆ เครื่องหลัก สอง ถึง สามหมื่นจะชงกาแฟให้ดี ผมก็เชื่อว่าทำได้ครับ แรงดันที่ใช้แค่ 9 Bar ก็พอ ไม่ต้อไปถึง 15 Bar เลยครับ เพราะเครื่องชงระดับหลายแสน แรงดัน 99 % ใช้ที่ 9 bar เท่านั้น จะมีบ้างที่มีระบบแรงดันแปรผันอย่างที่หลาย ๆ ท่านด้านบนว่าเอาไว้ อุณหภูมิที่ใช้ก็ แค่ช่วง 93-95 หรือ อาจจะต่างจากตัวเลขที่ว่ามาก็นิดหน่อยเท่านั้นเอง ยิ่งแบบนี้ยิ่งไม่น่าจะแพงนะครับ แต่ประเด็นมันดันไปอยู่ที่ว่า เครื่องชงใหญ่ ๆ ราคาแพง ๆ นั้นจำเป็นจะต้อง " เชื่อใจได้" นั่นหมายถึง จะชงเมื่อไหร่ อุณหภูมิต้องเป๊ะ แรงดันคุมได้ ระหว่างกำลังชง อุณหภูมิไม่ควรแกว่ง และ สำคัญที่สุด จะใช้เมื่อไหร่ต้องตอบสนองได้ดังใจ เพราะในร้านกาแฟเอาเข้าจริง ลูกค้าจะมาเมื่อไหร่ไม่เคยรู้ ที่เคยมาประจำ จะไม่มาก็ไม่บอก ยิ่งแล้วใหญ่ถ้ามาแล้วรสชาติขึ้น ๆ ลง ๆ คงจะได้เจอกันไม่กี่ครั้งเป็นแน่ ด้วยเหตุต่าง ๆ ที่บอกมาเครื่องชงกาแฟเลยทำให้ราคาสูงเอา สูงเอาครับ ลองคิดเล่น ๆ นะครับ สมุมติ เราอยากได้เครื่องปรับอากาศซักตัว ที่ปรับอุณหภูมิห้องให้ได้ 24 องศาเป๊ะ บวกลบได้ไม่เกิน 1 องศา ไม่ว่าเราจะเปิดประตูเข้าออกกี่รอบ แดดตอนเย็นจะแรงแค่ไหน หรือช่วงไหนฝนตก หิมะจะตก ก็ต้องให้ได้ 24 องศา บวกลบไม่เกิน 1 องศา เครื่องปรับอากาศเครื่องนี้ราคาคงเป็นล้านแน่เลยครับ .... แต่ถ้าทุกบ้านอยากได้แบบนี้เหมือนกันหมด รับรองไม่นานครับ เครื่องปรับอากาศรุ่นนี้ราคาจะค่อย ๆ ลงมาหลักแสน และ เหลือหลักหมื่นในที่สุด ...... เครื่องชงกาแฟก็เหมือนกันครับ แบบที่หลักแสน หรือ หลาย ๆ แสน ถ้าทุกบ้านอยากได้เหมือนกันหมด เผลอแป๊ปเดียว ผมเชื่อว่าเหลือแค่ไม่กี่หมื่นแน่นอน เมื่อไม่เป็นอย่างนั้น ทำไงดีครับ สำหรับผมถ้ารับได้ ไม่ซีเรียสมาก ก็เครื่องชงอะไรก็ได้ไว้ชงกินที่บ้าน หรือถ้าอยากกินของดีหน่อย สนับสนุนร้านกาแฟหลาย ๆ ร้านที่เค้าตั้งใจทำกันเถอะครับ หลาย ๆ คนลงทุนหลายล้าน มาขายกาแฟแก้วละ 35 บาท เพราะใจรัก และ อยากให้ลูกค้าประทับใจแบบที่เค้าพยายามนำเสนอ ผมกล้าพูดได้เลยว่า ประเทศไทยเรานี้โชคดีครับ มีร้านกาแฟดี ๆ อยู่มากมาย และ ยังขายถูกกว่าหลาย ๆ ประเทศอีกด้วยครับ .
จริง ๆ เครื่องหลัก สอง ถึง สามหมื่นจะชงกาแฟให้ดี ผมก็เชื่อว่าทำได้ครับ แรงดันที่ใช้แค่ 9 Bar ก็พอ ไม่ต้อไปถึง 15 Bar เลยครับ เพราะเครื่องชงระดับหลายแสน แรงดัน 99 % ใช้ที่ 9 bar เท่านั้น จะมีบ้างที่มีระบบแรงดันแปรผันอย่างที่หลาย ๆ ท่านด้านบนว่าเอาไว้ อุณหภูมิที่ใช้ก็ แค่ช่วง 93-95 หรือ อาจจะต่างจากตัวเลขที่ว่ามาก็นิดหน่อยเท่านั้นเอง ยิ่งแบบนี้ยิ่งไม่น่าจะแพงนะครับ แต่ประเด็นมันดันไปอยู่ที่ว่า เครื่องชงใหญ่ ๆ ราคาแพง ๆ นั้นจำเป็นจะต้อง " เชื่อใจได้" นั่นหมายถึง จะชงเมื่อไหร่ อุณหภูมิต้องเป๊ะ แรงดันคุมได้ ระหว่างกำลังชง อุณหภูมิไม่ควรแกว่ง และ สำคัญที่สุด จะใช้เมื่อไหร่ต้องตอบสนองได้ดังใจ เพราะในร้านกาแฟเอาเข้าจริง ลูกค้าจะมาเมื่อไหร่ไม่เคยรู้ ที่เคยมาประจำ จะไม่มาก็ไม่บอก ยิ่งแล้วใหญ่ถ้ามาแล้วรสชาติขึ้น ๆ ลง ๆ คงจะได้เจอกันไม่กี่ครั้งเป็นแน่ ด้วยเหตุต่าง ๆ ที่บอกมาเครื่องชงกาแฟเลยทำให้ราคาสูงเอา สูงเอาครับ ลองคิดเล่น ๆ นะครับ สมุมติ เราอยากได้เครื่องปรับอากาศซักตัว ที่ปรับอุณหภูมิห้องให้ได้ 24 องศาเป๊ะ บวกลบได้ไม่เกิน 1 องศา ไม่ว่าเราจะเปิดประตูเข้าออกกี่รอบ แดดตอนเย็นจะแรงแค่ไหน หรือช่วงไหนฝนตก หิมะจะตก ก็ต้องให้ได้ 24 องศา บวกลบไม่เกิน 1 องศา เครื่องปรับอากาศเครื่องนี้ราคาคงเป็นล้านแน่เลยครับ .... แต่ถ้าทุกบ้านอยากได้แบบนี้เหมือนกันหมด รับรองไม่นานครับ เครื่องปรับอากาศรุ่นนี้ราคาจะค่อย ๆ ลงมาหลักแสน และ เหลือหลักหมื่นในที่สุด ...... เครื่องชงกาแฟก็เหมือนกันครับ แบบที่หลักแสน หรือ หลาย ๆ แสน ถ้าทุกบ้านอยากได้เหมือนกันหมด เผลอแป๊ปเดียว ผมเชื่อว่าเหลือแค่ไม่กี่หมื่นแน่นอน เมื่อไม่เป็นอย่างนั้น ทำไงดีครับ สำหรับผมถ้ารับได้ ไม่ซีเรียสมาก ก็เครื่องชงอะไรก็ได้ไว้ชงกินที่บ้าน หรือถ้าอยากกินของดีหน่อย สนับสนุนร้านกาแฟหลาย ๆ ร้านที่เค้าตั้งใจทำกันเถอะครับ หลาย ๆ คนลงทุนหลายล้าน มาขายกาแฟแก้วละ 35 บาท เพราะใจรัก และ อยากให้ลูกค้าประทับใจแบบที่เค้าพยายามนำเสนอ ผมกล้าพูดได้เลยว่า ประเทศไทยเรานี้โชคดีครับ มีร้านกาแฟดี ๆ อยู่มากมาย และ ยังขายถูกกว่าหลาย ๆ ประเทศอีกด้วยครับ .
แสดงความคิดเห็น
เครื่องทำกาแฟสด มีหลักการทำงานอย่างไร มันซับซ้อนขนาดต้องขายกันแพงๆเลยหรอ รสชาติจะดีขึ้นด้วยรึเปล่าหากเครื่องแพงๆ