สวัสดีค่ะ มีคนเคยเล่าให้ฟังว่า ต่อให้เราเป็นคนดีแสนดีแค่ไหน หากไปใช้ชีวิต ไปเสพกามกับคนเลว ชีวิตของเราก็จะพลอยมัวหมองไปด้วย ... อยากทราบว่าคำสอนเรื่องนี้จากที่ไหนคะ จะไปหาอ่านข้อมูล ท่านสอนได้ดีมาก อย

พระพุทธเจ้า บอกว่า การปฏิบัติ ต้องเว้น ส่วนสุด ๒ อย่างคือ ๑. อัตตกิลมถานุโยค อย่าเครียดเกินไป ๒. กามสุขัลลิกานุโยค อย่าอยากเกินไป

ในสมัยพุทธกาล ด้วยความที่พระพุทธองค์ได้ทรงเห็นการดำเนินชีวิตที่สุดโต่ง 2 ทาง คือ กามสุขัลลิกานุโยค การหมกมุ่นอยู่ด้วยกามสุข ดำเนินชีวิตแบบย่อหย่อนเกินไปและอัตตกิลมถานุโยค การประกอบความลำบากให้ตนเองการ

สมัยยังมีแฟน ตอนเค้าเป็นเมนส์เค้าก็ไม่อยากมีอะไรกัน เค้าก็เลยหนีบขา หรือกอดถูไถด้วยกันเสร็จได้ไม่ต้องแก้ผ้า เราก็สนใจว่าผู้หญิงเค้าเสร็จได้แบบไม่ยุกยิก มือไม้ไม่เข้าวงโคจรตรงน

ลัทธิตันตระ ถือว่า การฝึกเพื่อการบรรลุคือการ เสพสุขทางโลกมากๆ เสพกามมากๆ เข้าข่ายสุดโต่งทางสายหย่อนยาน เมื่อเสพกิเลส เสพตัณหามากๆๆๆ ถึงจุดๆหนึ่งจะเกิดความเบื่อหน่าย และปล่อยวางไปเอง ท่านคิดยังไงครับ

พอดีผมเอาเรื่องนี้ไปถามในห้องศาสนาแล้ว มีแต่คนตอบแบบเข้าใจยากๆ ทั้งนั้น บางคนพิมพ์มาซะยาว แต่ก็จับประเด็นแทบไม่ได้เลย ก็เลยจะมาถามในห้องพรหมชาตินี่ละ เผื่อจะได้คำตอบที่เคลียร์และหลากหลายกว่านี้ 

พระพุทธโอวาทของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ท่านทรงเตือนให้เราละความชั่ว ประพฤติความดี เมื่อละความชั่ว ประพฤติความดีแล้ว ที่สุดก็ทรงสอนให้ละสิ่งทั้งสองนี้ไปเสียด้วย ฉะนั้น วันนี้จึงจะขอให้คติในเรื่

อยากทราบข้อมูลความรู้เกี่ยวกับลัทธินี้ครับ คือได้ยินว่าลัทธินี้แสวงหาการหลุดพ้นด้วยการเสพกาม? คำสอนหลักของลัทธินี้เขามีว่าอย่างไรเหรอครับ ลัทธิตันตระเป็นอย่างเดียวกับวัชรยานหรือไม่ครับ และในประเทศไทยม

สำคัญไปว่าเป็นนิพพาน ทั้งที่มีอัตตาอยู่ เบียว1.นิพพานมีพร้อมกามคุณ๕ สำคัญว่าความมีพร้อมกามคุณ๕เป็นนิพพาน เบียว2.นิพพานที่อัตตาสุขฌาน๑จากการสลัดกาม สำคัญว่าฌาน๑เป็นนิพพาน เบียว3.นิพพานที่อัตตาสุขฌาน๒จ