วันหยุดยาวใครซื้อทองไว้ นี้คงจะเที่ยวกันไม่สนุกแน่เลยนะคะ ก็ลงแรงซะขนาดนี้ @_@ วันนี้มีมุมมองราคาทองคำทางเทคนิคมาฝากค่ะ
.............................................................................................................................................................................
ช่วงนี้ทองคำกำลังฮิต มาดูกันหน่อยดีกว่าว่าสถานการณ์เป็นไงบ้าง
มาดูภาพรวมระยะเวลา 15 ปีกันก่อน (1998-2013) ทองคำเป็นขาขึ้นมาตลอดโดยพักฐานครั้งใหญ่ช่วงปี 2008 โดยลงมาบริเวณแนวรับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) 200 วัน และสามารถทะลุแนวต้านทำ New high กลับไปได้ในช่วงปี 2009 ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นแนวโน้มขาขึ้นรอบใหญ่อีกครั้ง
คืนวันศุกร์ตลาด Goldspot ร่วงลงเกือบ 70 $/Oz. !! มาปิดที่ประมาณ 1,480 $ หลุดแนวรับ 1,530 $ ที่เคยวิเคราะห์เอาไว้ในบทความก่อนๆ ซึ่งแนวนี้รับเอาไว้ 3-4 รอบแล้วเอาอยู่ตลอดระยะเกือบ 2 ปี
และต่อมาในวันนี้ 15/3/56 ราคาทองคำก็ได้ร่วงหลุดแนวรับเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน (1,440 $) ไปแล้ว (ภาพจะช้าไป 1 วัน เพราะ ใช้ราคา EOD ) ซึ่งเส้นค่าเฉลี่ยนี้เป็นเส้นที่มีนัยสำคัญเพราะบ่งบอกถึงแนวโน้มในระยะยาว และถ้าสังเกตให้ดี นั้นจะเห็นว่า แนวโน้มราคาทองคำได้เข้าสู้ภาวะหมีแล้วในวันศุกร์ที่ 12/4/56 เพราะ ได้หลุดแนวรับ 1,530 $ ลงมาซึ่งหากว่าตามทฤษฎีดาวแล้วถือว่าการหลุดแนวรับในครั้งนี้ถือว่าเป็นว่าเข้าสู่ภาวะหมี (กลายเป็นขาลง) แล้ว หรือจะมองเป็น Tripple Top ก็ได้
คำถามคือ ยังมีโอกาสที่ราคาทองจะกลับขึ้นมาไหม บอกได้ว่ายังพอมี คือ การเกิด Bear Trap หรือ False Signal ขึ้น (หมายเลข 1) ราคาจะกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าราคากลับขึ้นมาบริเวณแนวต้าน (แนวรับเดิม) แล้วราคายังคงร่วงลงต่อไปอีกตลาดจะกลายเป็นขาลงอย่างเต็มตัว (หมายเลข 2) เอาเป็นว่าในอนาคตคงไม่มีใครทราบจริงๆ ว่าทิศทางราคาทองคำจะไปทางไหน แต่จะดีกว่าถ้าเราสามารถเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น (ทั้งคาดถึงและคาดไม่ถึง) ได้ด้วยความมีวินัยนั้นผมเชื่อว่า หากลงทุนผิดทางจะสามารถผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ เพราะ คงเห็นกันแล้วใครที่ลงทุนสวนทางกับทิศทางที่เราไม่สามารถควบคุมได้คงจะเจ็บหนักไปตามๆ กันไม่ใช่น้อย
Credit :
www.investmentory.com
..........................................................................................................................................................................
ร่วมพูดคุยกันได้ที่ Facebook :
http://www.facebook.com/I2invest
มองทองทางเทคนิค
.............................................................................................................................................................................
ช่วงนี้ทองคำกำลังฮิต มาดูกันหน่อยดีกว่าว่าสถานการณ์เป็นไงบ้าง
มาดูภาพรวมระยะเวลา 15 ปีกันก่อน (1998-2013) ทองคำเป็นขาขึ้นมาตลอดโดยพักฐานครั้งใหญ่ช่วงปี 2008 โดยลงมาบริเวณแนวรับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) 200 วัน และสามารถทะลุแนวต้านทำ New high กลับไปได้ในช่วงปี 2009 ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นแนวโน้มขาขึ้นรอบใหญ่อีกครั้ง
คืนวันศุกร์ตลาด Goldspot ร่วงลงเกือบ 70 $/Oz. !! มาปิดที่ประมาณ 1,480 $ หลุดแนวรับ 1,530 $ ที่เคยวิเคราะห์เอาไว้ในบทความก่อนๆ ซึ่งแนวนี้รับเอาไว้ 3-4 รอบแล้วเอาอยู่ตลอดระยะเกือบ 2 ปี
และต่อมาในวันนี้ 15/3/56 ราคาทองคำก็ได้ร่วงหลุดแนวรับเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน (1,440 $) ไปแล้ว (ภาพจะช้าไป 1 วัน เพราะ ใช้ราคา EOD ) ซึ่งเส้นค่าเฉลี่ยนี้เป็นเส้นที่มีนัยสำคัญเพราะบ่งบอกถึงแนวโน้มในระยะยาว และถ้าสังเกตให้ดี นั้นจะเห็นว่า แนวโน้มราคาทองคำได้เข้าสู้ภาวะหมีแล้วในวันศุกร์ที่ 12/4/56 เพราะ ได้หลุดแนวรับ 1,530 $ ลงมาซึ่งหากว่าตามทฤษฎีดาวแล้วถือว่าการหลุดแนวรับในครั้งนี้ถือว่าเป็นว่าเข้าสู่ภาวะหมี (กลายเป็นขาลง) แล้ว หรือจะมองเป็น Tripple Top ก็ได้
คำถามคือ ยังมีโอกาสที่ราคาทองจะกลับขึ้นมาไหม บอกได้ว่ายังพอมี คือ การเกิด Bear Trap หรือ False Signal ขึ้น (หมายเลข 1) ราคาจะกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าราคากลับขึ้นมาบริเวณแนวต้าน (แนวรับเดิม) แล้วราคายังคงร่วงลงต่อไปอีกตลาดจะกลายเป็นขาลงอย่างเต็มตัว (หมายเลข 2) เอาเป็นว่าในอนาคตคงไม่มีใครทราบจริงๆ ว่าทิศทางราคาทองคำจะไปทางไหน แต่จะดีกว่าถ้าเราสามารถเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น (ทั้งคาดถึงและคาดไม่ถึง) ได้ด้วยความมีวินัยนั้นผมเชื่อว่า หากลงทุนผิดทางจะสามารถผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ เพราะ คงเห็นกันแล้วใครที่ลงทุนสวนทางกับทิศทางที่เราไม่สามารถควบคุมได้คงจะเจ็บหนักไปตามๆ กันไม่ใช่น้อย
Credit : www.investmentory.com
..........................................................................................................................................................................
ร่วมพูดคุยกันได้ที่ Facebook : http://www.facebook.com/I2invest