เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก เผยราคาทองคำปี 2557 มีสิทธิ์ร่วงถึง 1,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 16,000 บาท พร้อมแนะนักลงทุนทั้งระสั้นบริหารจัดการแบบซื้อมาขายไป ส่วนระยะยาวควรถือ 3 ปี
น.พ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการกลุ่ม บริษัทเอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก เผยถึงราคาทองคำว่า มีแนวโน้มทิศทางขาลงต่อเนื่อง หากเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาฟื้นตัวเต็มที่ โดยคาดว่าราคาทองมีโอกาสแตะระดับ 1,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์หรือประมาณ 16,000 บาท ในปี 2557 แต่ไม่น่าต่ำกว่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เนื่องจากเป็นราคาต้นทุนหน้าเหมือง และหากราคาทองลดลงใกล้เคียงระดับดังกล่าวจะส่งผลให้ประเทศจีน เข้ามาซื้อทองเพื่อเก็บสะสมเป็นจำนวนมาก ส่วนในระยะสั้นนี้ราคาทองมีโอกาสหลุดระดับ 1,180 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของปี 2556
เนื่องจาก สหรัฐอเมริกามีแนวโน้มขยายเพดานหนี้ได้สำเร็จ และจะมีการทยอยลดมาตรการผ่อนคลายเชิงประมาณ หรือ QE ซึ่งจะเป็นข่าวเชิงลบต่อราคาทองคำ
ส่วนนักลงทุนทองคำในระยะสั้นควรบริหารจัดการแบบซื้อมาขายไป เพราะขณะนี้มีนักลงทุนกว่าร้อยละ 80 ที่ยังเก็บทองที่ระดับเกินกว่า 21,000 บาท ไว้อยู่ ส่วนนักลงทุนที่ลงทุนระยะยาวควรถือยาวประมาณ 3 ปี เพราะราคาทองยังอยู่ระหว่างการสร้างฐานที่จะกลับขึ้นไป 26,000 บาท หรือ ประมาณ 1,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
ปล. ถ้าขาทองประเมินแบบนี้ สงสัยเตรียมรับต่ำกว่านี้ ส่วนขาหุ้นใครขายหมู ระวังจะได้หมีมาครองนะจ๊ะ อิอิ
แม่ทองสุกคาดราคาทองปีหน้ายังขาลง คาดร่วงแตะบาทละ 16,000
เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก เผยราคาทองคำปี 2557 มีสิทธิ์ร่วงถึง 1,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 16,000 บาท พร้อมแนะนักลงทุนทั้งระสั้นบริหารจัดการแบบซื้อมาขายไป ส่วนระยะยาวควรถือ 3 ปี
น.พ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการกลุ่ม บริษัทเอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก เผยถึงราคาทองคำว่า มีแนวโน้มทิศทางขาลงต่อเนื่อง หากเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาฟื้นตัวเต็มที่ โดยคาดว่าราคาทองมีโอกาสแตะระดับ 1,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์หรือประมาณ 16,000 บาท ในปี 2557 แต่ไม่น่าต่ำกว่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เนื่องจากเป็นราคาต้นทุนหน้าเหมือง และหากราคาทองลดลงใกล้เคียงระดับดังกล่าวจะส่งผลให้ประเทศจีน เข้ามาซื้อทองเพื่อเก็บสะสมเป็นจำนวนมาก ส่วนในระยะสั้นนี้ราคาทองมีโอกาสหลุดระดับ 1,180 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของปี 2556 เนื่องจาก สหรัฐอเมริกามีแนวโน้มขยายเพดานหนี้ได้สำเร็จ และจะมีการทยอยลดมาตรการผ่อนคลายเชิงประมาณ หรือ QE ซึ่งจะเป็นข่าวเชิงลบต่อราคาทองคำ
ส่วนนักลงทุนทองคำในระยะสั้นควรบริหารจัดการแบบซื้อมาขายไป เพราะขณะนี้มีนักลงทุนกว่าร้อยละ 80 ที่ยังเก็บทองที่ระดับเกินกว่า 21,000 บาท ไว้อยู่ ส่วนนักลงทุนที่ลงทุนระยะยาวควรถือยาวประมาณ 3 ปี เพราะราคาทองยังอยู่ระหว่างการสร้างฐานที่จะกลับขึ้นไป 26,000 บาท หรือ ประมาณ 1,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
ปล. ถ้าขาทองประเมินแบบนี้ สงสัยเตรียมรับต่ำกว่านี้ ส่วนขาหุ้นใครขายหมู ระวังจะได้หมีมาครองนะจ๊ะ อิอิ