เปิดโปงช่องโหว ซื้อ-ขาย ผ่าน L/C โดนกับตัว เจ็บจนไม่ลืม

สวัสดีคะ ดิฉันมีประสบการณ์ มาเล่าให้ฟังคะ เกี่ยวกับเรื่องการซื้อขาย เปิด L/C กับ ต่างชาติโดยเฉพาะจีน

L/C คือ ย่อมาจาก Letter of credit เป็นสัญญาซื้อขายผ่าน bank ของผู้ซื้อและผู้ขาย  
โดยบริษัทผู้ซื้อ เปิดสัญญา L/C     กับ บริษัทที่ขายโดยให้ธนาคารเป็นตัวกลางเช่น
บริษัท A ต้องการซื้อสินค้ากับบริษัท B ก็จะทำการเปิด สัญญา L/C กับแบงค์ ของตนเอง
เมื่อบริษัท B ส่งสินค้ามาถึงท่าเรือ บริษัท A ก็จะทำการปลดเงินจาก แบงค์ตนเอง เพื่อให้เงินเข้าใน บัญชี บริษัท B
แล้วทางแบงค์ก็จะส่งเอกสารเบิกของ เพื่อที่ บริษัท A จะได้รับสินค้าออกจากท่าเรือได้.
……..
ปัญหาของดิฉันอยู่ตรงที่ ดิฉันได้ซื้อ โลหะจากประเทศจีนจำนวน 6 ตัน กับ บริษัท Hangzhou Enhong Chemical
มูลค่าสินค้าทั้งหมดประมาณ 6.5 แสนบาท และได้มีการตกลงไว้ว่า
จะ มัดจำ 10 % เป็นเงินโอนเข้าบัญชีเค้าโดยตรง และ 90 % เป็นการเปิด L/C
เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีการพูดคุยกับบริษัทนี้ผ่าน อีเมล ล้วนๆ ย้ำ ว่าเป็นอีเมลนะคะ
คือบริษัทเค้าทักทายเข้ามาในอีเมลเรา มีการคุยโต้ตอบกัน เราก็ตกลงซื้อขาย เพราะเห็นว่าบริษัทที่เราซื้อมี เว็บไซต์เป็นหลักแหล่ง มีรูปภาพโรงงาน สินค้าต่างๆ
เวปคนขาย    http://www.enhong-chem.com/
เมื่อดิฉันได้โอนเงินมัดจำ ก็ได้ขอดูรูปสินค้าว่าเป็นอย่างไร ฝ่ายนั้นเค้าก็ส่งรูปมา
และได้ระบุไว้ว่าเค้าจะทำการตอกลังไม้เอาสินค้า Pack ให้เป็นอย่างดี  

ทางเราก็โอเค โดยไม่ได้เอะใจอะไร ได้ทำการปลดเงินจากบัญชีเราไปจีน และเมื่อของมาส่งถึงโกดังเรา
เราก็เอะใจว่าทำไมลังถึงได้ Seal ปิดมิดชิดไว้อย่างดีขนาดไม่สามารถมองเห็นสินค้าข้างในได้
และเมื่อเปิดลังออกมาก็พบว่า ข้างในไม่ใช่สินค้าที่เราสั่งมาแม้แต่น้อยเลย!!!
มันคือก้อนปูน จำนวน 6 ตัน!!! ย่ำว่า ก้อนปูนล้วนๆ ไม่มีโลหะเลยแม้แต่ก้อนเดียว
จึงได้โทรหาบริษัท shipping และ บริษัท ประกัน  ต่างก็มาและถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน พร้อมเป็นพยานเปิดลังที่เหลือ 4 ลัง
ตอนนั้นเราก็ได้ อีเมล พร้อมโทรไปหาบริษัทที่เราซื้อที่ประเทศจีน  คนขายก็อ้ำๆอึ้งๆ พร้อมกับพูดมาว่า..
I can’t speak English...  
ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นมันพูดปรื๋อเลย ...สุดท้ายเราก็อีเมลล์ไป และคนที่เราติดต่อคนนั้นเค้าชื่อ Slina นะคะ เค้าก็บอกในอีเมลว่า
เค้า Surprise มาก และให้เรารอไปอีก อาทิตย์หน้าเพราะอาทิตย์นี้เค้าไม่เข้า officeเค้าลาพักร้อน !!!
เราก็เคืองเลยเพราะจะมาลาอารายกันตอนนี้  
(ซึ่งเรามาทราบทีหลังว่าเหตุที่ให้รอเพราะทางคนขายประเทศจีนยังไม่ได้รับเงินจำนวนดังกล่าว)
เราก็ตอบกับไปว่าเราจะไม่รอ เย็นวันนั้นก็ได้ไปแจ้ง ตำรวจที่สน. และ ตำรวจเศรษฐกิจ
ตอนนั้นเรากลุ้มใจมากแบบว่าไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น ก็ได้ไปปรึกษากับ  
ธนาคารกรุงเทพ  ที่เราเปิด L/C ไว้  และปรึกษาโดยตรงกับธนาคารกรุงเทพสำนักงานใหญ่
ซึ่งทั้งหมดได้ปัดความรับผิดชอบและอ้างว่า เอกสารทุกอย่างถูกต้องซึ่งทางธนาคารกรุงเทพเองทำอะไรไม่ได้แล้วเพราะเงินได้อยู่ที่จีนแล้ว

แต่โชคยังเข้าข้างเราอยู่บ้าง!!!!!!!!!

ธนาคารที่จีนพอได้รับ L/C ฉบับนี้ ได้เห็นความผิดผลาดของเลข reference number
ที่ธนาคารกรุงเทพพิมพ์ผิดโดยเป็นตัวเลขสลับกันนิดนึง
ทางธนาคารที่จีน (CHINA MERCHANT BANK) เลยถามกลับมาให้ธนาคารกรุงเทพแก้ไขและส่งไปให้เค้าใหม่
ซึ่งภายหลังธนาคารกรุงเทพได้รู้ถึงปัญหาของดิฉัน จึงช่วยเหลือให้การไม่ตอบกลับและไม่แก้ไข ตัวเลข กับธนาคาร china merchant bank (ซึ่งท้ายที่สุด การไม่ตอบเป็นเพียงการประวิงเวลาในช่วงสั้นๆเท่านั้น)
และธนาคารกรุงเทพให้บริษัทเราไป ขอหมายศาลมาเพื่อการละงับเงินก้อนนี้
(ดิฉันก็รีบเลย เพราะใครแนะนำอะไรมาดิฉันก็ทำหมดทุกอย่าง หวังเพียงแค่ไอ้คนขาย(คนโกง) ไม่ได้รับเงินไปเท่านั้น)
ฉันจึงรีบจัดหาทนายรวบรวมหลักฐานทั้งหมดไปที่ศาลมีเวลาเตรียมตัวเพียงวันเดียว
ขอให้ไต่สวนฉุกเฉิน  เริ่ม 18/3/56  ครั้งที่หนึงโดนยกฟ้อง  (โดยให้เหตุผลว่า ไม่มีเหตุฉุกเฉิน)
ดิฉันไม่ย่อท้อ โดยวันที่ 22 และ 23 มีนาคม ไปขอหมายศาล ซึ่งสุดท้ายศาลก็ยกอีก
สรุปยื่นเรื่องทั้งหมด 3 ครั้ง และโดนยกทั้งหมด 3 ครั้ง โดยศาลไม่คุ้มครองชั่วคราวเราเลย......
พอเย็นวันที่ 23 ดิฉันเลยไปคุยกับอาจารย์ฝ่ายกฎหมายธนาคารกรุงเทพ ว่า ดิฉันจะทำอย่างไรดี เพราะศาลไม่คุ้มครองเงินก้อนนี้เลย
ซึ่งอาจารย์ฝ่ายกฎหมายได้เห็นว่า ไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องขอหมายศาลนี้ เพราะเงินไม่ได้อยู่ที่ไทย เลยอำนาจศาลไทยไปแล้ว
(อ่าวแล้วทำไมธนาคารกรุงเทพอีกคนถึงแนะนำให้ไปขอหมายศาล???       ซึ่งภายหลังมาเข้าใจว่า ธนาคารกรุงเทพต้องการหมายเพื่อมาคุ้มครองธนาคารด้วยเท่านั้นเอง)

เราก็ได้ขอร้องทางแบงค์กรุงเทพว่าให้หยุดไว้ก่อนอย่าเพิ่ง  confirm เลข  อะไรไปทั้งนั้น
ทางแบงค์ก็ดีที่ช่วยชะลอเรื่องนี้ ถึงแม้ว่าทางแบงค์จะระงับไม่ได้เลยเพราะทางแบงค์ถือว่าเป็นการซื้อขายผ่านสัญญา
แบงค์ไม่ได้เป็นคนดูของ  เมื่อเอกสารถูกต้อง ซึ่งทางบริษัทที่ขายสินค้านี้ได้อ้างเสมอว่าจะฟ้องธนาคารกรุงเทพและฟ้องบริษัท
ดิฉัน (ซึ่งในความเป็นจริงเค้าไม่กล้าทำหรอ เพราะเค้าเป็นฝ่ายผิด) แต่ธนาคารเองเป็นองค์กรที่ใหญ่เค้าไม่กล้าเสี่ยงกับเราด้วย
ซึ่งข้อนี้เราไม่เข้าใจว่า ธนาคารกลัวอะไรในต่อเมื่อเราก็มีหลักฐานชัดเจนว่าฝ่ายเค้าผิด

วันที่ 25 ดิฉันตัดสินใจจะไปจีน แต่ปัญหาก็ได้เกิดขึ้นที่ว่า จะต้องไปเมืองไหน?

บริษัทคนขายเปิด invoice ,packing list ระบุที่อยู่ที่ Hangzhou   แต่มันไปเปิดบัญชีที่ Shenzhen ห่างกันเป็น1000 กิโลเมตร
มากไปกว่านั้นคือ L/Cฉบับดังกล่าวถูกไปขึ้นเงินที่ Hebei ห่างกันเป็น พันกิโลเมตรจาก Hangzhou. แล้วดิฉันต้องไปที่ไหน ???????

ต่อมาวันจันทร์ที่ 26ดิฉันบินไปที่จีนเลยตัดสินใจไปที่หางโจวเพราะน่าจะเป็นเมืองต้นเหตุทั้งหมด  
คิดว่าจะไปฟ้องที่จีนเพราะเห็นว่าธนาคารประเทศไทยทำอะไรไม่ได้แล้ว
ก่อนไปหางโจวได้แวะที่กงสุลไทยในเซี่ยงไฮ้ก่อน เพื่อให้ทางกงสุลช่วยประสานงานคนที่สามารถติดต่อได้
ซึ่งก็ได้ไปติดต่อคุณ Li ทำงานที่ CCPIT หน่วยงานการค้าระหว่างประเทศของเมืองนี้
ซึ่งเค้าไม่ค่อยว่างเลยแนะนำเพื่อนเค้าที่ทำงานเป็นทนายเอกชนให้
พอเราได้ทนาย เรากับทนายก็ไปที่โรงงานเค้าดู ว่ามีโรงงานนี้อยู่จริงหรือไม่
ไปถึง งง เลย เพราะไม่มีสถานที่นั้นจริงเลยไปที่สถานีตำรวจ เพื่อถามว่ามีโรงงานดังกล่าวอยู่จริงมั้ย
ตำรวจเลยโทรไปที่หมายเลยตามที่คนขายเคยให้ไว้แต่แรก .....
โทรไปมันดันรับสายแฮะ (ซึ่งก่อนกน้านี้โทรจากไทยไปกี่รอบก็ไม่รับ)
ตำรวจเลยถามว่าที่อยู่โรงงานอยู่ไหน มันก็บอกอย่างเดียวว่า ไม่บอก!!  
สักพักมันโทรกลับมาที่สถานีตำรวจ เพื่อเช็คว่าใช่เบอร์สถานีตำรวจจริงหรือไม่
…..มันก็ขอคุยกับทนายและก็บอกทนายว่า โรงงานมันเพิ่งปิดไป (OMG ปิดโคตรเร็วเลย)
เราเลยไปที่สถานีตำรวจใหญ่ของเมืองเพื่อให้ตำรวจไต่สวนและฟ้องเป็นคดีอาญาฉ้อโกง
เราก็เอาหลักฐานทั้งหมดให้เค้าและก็กลับไทย   หวังให้ตำรวจจีนดูแลต่อให้ โดย ติดตามกับทนายเป็นพักๆ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ซึ่งภายหลังรู้อีกว่าคนขายมันไปจดบริษัทที่อังกฤษ และใช้ชื่อบริษัทนี้มาเปิดบัญชีที่จีน***
ค่อนข้างซับซ้อนมาก และไอ้คนโกงนี้มันเป็นมืออาชีพมากๆ
มันคงโกงมาแล้วเยอะเท่าที่ทราบมันมีความรู้มากๆด้วยกฎหมายและการส่งออกระหว่างประเทศ..........

พอดิฉันกลับมาถึงไทย ทางธนาคารกรุงเทพได้โทรมาคุยและบอกว่า
ทางธนาคารจีนยื่นคำขาด ว่า ถ้าทางธนาคารกรุงเทพไม่ตอบกลับภายใน 3 วัน ธนาคารจีนจะโอนเงินจำนวนดังกล่าวไปที่บัญชีคนขายเลย
เราเลยร้อนรนมาก โทรไปที่ธนาคารที่จีนเรื่องนี้ และให้เค้าระงับเงินก้อนนี้
แต่เค้าบอกว่าเค้าไม่ฟังอะไรจากปากของเรา เค้าจะฟังแต่ธนาคารกรุงเทพ เท่านั้น
เราก็ไปคุยกับธนาคารกรุงเทพว่าทำอย่างไรก็ได้ช่วยคุยกับธนาคารchina merchant bank ที ว่าให้ระงับเงินก้อนนี้ไว้ที่ธนาคารกลาง
อย่าไปเข้าบัญชีเค้า    ธนาคารกรุงเทพอ้างว่าเค้าตอบอะไรไม่ได้ เพราะถ้าตอบไปจะเป็นการทำให้ธนาคารกรุงเทพโดนฟ้องได้  
(สรุปว่าเราหมดที่พึ่ง ธนาคารกรุงเทพไม่ช่วยอะไรเราเลย กลัวเป็นอย่างเดียว!!!)
... เราก็รีบติดตามทนายที่จีนเพื่อติดตามประสานงานกับตำรวจจีน สุดท้ายตำรวจก็ได้ดำเนินการอายัดบัญชีคนขายนี้ไว้
(คือเงินเข้าบัญชีคนขายแต่เค้าไม่สามารถเบิกออกมาได้  )  ซึ่งเงินจำนวนนี้เราก็เอากลับมาไม่ได้เช่นกัน .


ณ ตอนนี้ ยังสรุปไม่ได้ว่าผลเป็นอย่างไร เพราะบัญชีเค้าถูกล๊อคอยู่   แต่ก็ไม่รู้ว่าล๊อคไปได้อีกนานเท่าไหร่...
มากไปกว่านั้น คนจีนเก่งเรื่องฮั้วกัน ถ้าคนขายไปติดสินบนหน่วยงานภาครัฐ หรือ ธนาคาร หรือทนายเรา
มันเอาเงินออกมาได้ แล้วมาแบ่งกัน เราก็ทำอะไรมันไม่ได้ เราซึ่งเป็นฝ่ายเสียหายไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างไรเลย จากทุกฝ่าย
.......ซึ่งทุกฝ่ายไม่ว่ารัฐ หรือเอกชน ต่างปัดความรับผิดชอบ  ไม่มีเลยที่จะมีคนมาช่วยอย่างจริงจัง!!!!!!!!

ปัญหานี้ไม่ได้เพิ่งเกิด เพราะหลังจากที่ดิฉันกลับมาจากจีน เห็นว่ามีคนโดนเหมือนกัน เค้าสั่งสารเคมี แต่ได้ก้อนกรวด
รายนี้ก็เสียหายหลายแสน เค้าเองก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเงินเข้าบัญชีคนขายไปแล้ว
นอกจากรายนี้ก็มีอีกหลายๆรายที่โดนคนจีนหลอกเช่นนี้ ดิฉันอยากให้ผู้ที่โดนหลอกเช่นนี้ลุกขึ้นมาต่อสู้กับความยุติธรรม
(มีคนหลายๆคนเพิกเฉย เห็นว่าเป็นเรื่องปกติ บางรายคิดว่าเราไปฟ้องจะไม่คุ้ม  ซึ่งเป็นการคิดที่ผิดนี้เป็นการต่อยอดให้เกิดเหยื่อทางเศษฐกิจ อย่างดิฉันอย่างไม่จบไม่สิ้นค่ะ  )
ดิฉันไม่รู้ว่าจะต้องมีคนเป็นเหยื่ออย่างดิฉันอีกซักกี่ราย ถึงจะมีผู้ที่เข้ามาช่วยเหลืออย่างจริงจังกับปัญหานี้
....ดิฉันได้ข้อมูลมาว่า ไทยโดนหลอกด้านการค้าเช่นนี้ ปีละประมาณ 50ล้านบาท ซึ่งยอดจะเพิ่มขึ้นทุกๆปี
ใกล้เปิด AEC เชื่อเถอะค่ะ  เราจะเจอไอ้คนจีนหลอกลวงอีกเยอะถ้าไม่มีใครเป็นตัวกลางจัดการตรงนี้
ประเทศเราจะโดนหลอกอย่างนี้ต่อไป ....

บทเรียนนี้สอนให้รู้ว่า
-ซื้อขายผ่าน L/C ไม่ได้เป็นการปลอดภัยสำหรับผู้ซื้อเลย มันเป็นเพียงการเอื้ออำนวยให้กับผู้ขายเท่านั้น
-ซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ทต้องระมัดระวัง แม้เคยซื้อกับผู้ค้ารายนี้แล้วก็ตาม สิ่งสำคัญคือจะต้องมี inspector ที่ไว้ใจได้
ตรวจดูสินค้าก่อนปิดตู้ทุกครั้ง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่