เรื่องกรรมของนายโคฆาต ใครก็ได้หาที่มาในพระไตรปิฎกให้ที

มีเรื่องเล่าไว้ในพระไตรปิฎก ตั้งแต่ครั้งพุทธกาลว่า ในสมัยนั้นมีชายผู้หนึ่งเป็นนักเลงสุราใจเหี้ยม เลี้ยงชีพด้วยการฆ่าโคเพื่อเอาเนื้อไปขายชาวบ้านต่างให้ฉายาว่า นายโคฆาต อันหมายถึง นักฆ่าวัวนั่นเอง นายโคฆาตผู้นี้ ฆ่าวัวทุกๆ วัน ติดต่อกันมาหลายสิบปี จนเห็นเป็นเรื่องธรรมดา และชินชากับการฆ่าเสียแล้ว เขาพอใจกับเงินทองที่ได้จากการขายเนื้อวัว ไม่เคยคิดถึงบาปกรรมใดๆ ทั้งสิ้น

นักฆ่าวัวผู้นี้ มีนิสัยประจำอยู่อย่างหนึ่งก็คือ เมื่อฆ่าวัวแล่เนื้อไปขาย เขาจะเก็บเนื้อวัวก้อนหนึ่งเอาไว้ให้ภรรยาย่างเป็นของแกล้มสุรา ในตอนเย็นทุกวันไม่เคยขาด ในเย็นวันหนึ่งขณะที่นายโคฆาตยังหลับไม่ถึงบ้าน ได้มีเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียง มาขอซื่อเนื้อวัวกับภรรยาของเขาด้วยความชอบพอสนิทสนมกันนางจึงเอาเนื้อวัวของสามีที่เก็บไว้ให้เพื่อนบ้านไป ครั้นนายโคฆาตกลับมาถึงบ้านพร้อมด้วยสุราไหใหญ่ ก็ตะโกนเรียกให้ภรรยารีบเอาเนื้อวัวย่างมาให้ตนกินแกล้มเหล้าแต่เมื่อรู้ว่านางเอาไปขายเสียแล้ว ก็เกิดโทสะ กระทืบเท้าตรงเข้าทุบตีภรรยาด้วยความโมโหและแล้วนักฆ่าวัวผู้หิวกระหาย จึงคว้ามีดตรงไปยังคอกวัวทันที แต่ครั้นจะฆ่าวัวในเวลาค่ำเช่นนี้เนื้อที่เหลือก็ไม่สามารถนำไปขายที่ตลาดได้

ด้วยจิตใจที่เหี้ยมโหดไร้ความเมตตากรุณา นายโคฆาตจึงกระชากลิ้นของแม่วัวออกมา ใช้มีดเฉือนจนขาดติดมือ เมื่อได้เนื้อที่ต้องการแล้ว ก็รีบเดินกลับเข้าบ้านไม่สนใจกับเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บป่วย ทุกข์ทรมานแสนสาหัสของแม่วัวผู้น่าสงสารแม้แต่น้อย นายโคฆาตโยนลิ้นวัวที่เพิ่งตัดมาใหม่ๆ สดๆ สั่งให้ภรรยารีบนำไปย่างมาให้ตนเป็นการด่วน ระหว่างที่รออยู่ด้วยความหิวกระหาย ก็ดื่มเหล้าไปพลางปากก็ตะโกนด่าเร่งให้เสร็จไวๆ สักครู่ใหญ่ ๆ ภรรยาของเขาก็รีบนำลิ้นวัวย่างที่หอมฉุยมาให้สามี อย่างไม่ต้องรีรอนายโคฆาตคว้าลิ้นวัวที่เพิ่งเสร็จใหม่ กำลังร้อนๆ เข้าปากเคี้ยวอย่างแรง หวังจะกินให้หนำใจ
ทันทีทันใด นักฆ่าวัวก็ต้องร้องตะโกน ด้วยความเจ็บปวดอนิจจา! เพราะความหิวจัดจนตาลายแถมมึนเมาด้วยฤทธิ์สุรา นายโคฆาตเคี้ยวอย่างรีบร้อนเหลือเกิน ได้กัดถูกลิ้นตัวเองอย่างแรงจนขาดกระเด็นแกมา กับลิ้นวัวย่างที่ไม่ทันเคี้ยวให้ละเอียด เพชรฆาต ผู้ใจเหี้ยมนอนทุรนทุรายเลือดท่วมปาก ตะโกนร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดทรมาน เสียงร้องของนายโคฆาตดังไปไกล จนชาวบ้านใกล้เคียงพากันวิ่งมาดู บ้างก็นึกฉงนในใจว่า เหตุใดวันนี้นายโคฆาตจึงฆ่าวัวในเวลาเย็นอีก แต่เมื่อมาดูต้นเสียง กลับกลายเป็นนักฆ่าวัวกำลังดิ้นรนอย่างรุนแรงมีเลือดไหลออกจากปากไม่ยอมหยุดชาวบ้านที่มามุงดูก็ได้แต่ยืนมองภาพ ที่น่าสังเวชอเนจอนาถใจ โดยที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย จนกระทั้งขาดใจตายในที่สุด

ผู้ที่พบเห็นก็ต่างวิพากวิจารณ์กันว่าต้องเป็นบาปกรรมที่ตามมาให้ผลจนเห็นทันตาแน่นอน ในพระไตรปิฎกไม่ได้เล่าว่า ชาวบ้านที่พากันมามุงดู และวิพากวิจารณ์เหล่านั้นยังซื้อเนื้อวัวมากินอีกหรือเปล่า แต่มีเล่าต่อไปในตอนท้ายว่า ด้วยอาจิณกรรม ที่ได้กระทำไว้ตลอดเวลาที่ยังมีชีวิตอยู่ ครั้นตายไปวิญญาณของนายโคฆาต จึงตกล่วงลงสู่นรกอเวจีได้รับทุกข์ทรมานอยู่ในขุมนรกนั้นหลายแสนปี เมื่อพ้นจากอเวจีแล้ว ยังต้องกลับมาเกิดเป็นวัวถูกเขาฆ่าตายอีกนับไม่ถ้วน จนกว่าจะหมดสิ้นบาปกรรมที่เคยทำไว้ทั้งหมด

หมายเหตุ อเวจี เป็นนรกขุมใหญ่ที่อยู่ลึกที่สุดในบรรดานรกทั้งหมด มีไฟลุกไหม้อยู่ตลอดกาล ผู้ที่ตกนรกนี้ต้องถูกเหล็กแหลมเสียบแทงร่างกายและถูกเผาไหม้ไปจนสิ้นกัลป์ ในพระไตรปิฎกกล่าวว่า คนที่ต้องตกนรกอเวจีนี้ คือ ผู้ที่ทำบาปหนักไม่สิ้นสุด เป็นบาปอันใหญ่หลวงไม่สามารถให้อภัยได้ที่เรียกว่า อนันตริยกรรม ได้แก่ 1. ฆ่าแม่ 2. ฆ่าพ่อ 3. ฆ่าพระอรหันต์ 4. ทำร้ายพระพุทธเจ้าถึงห้อพระโลหิต 5. ก่อให้เกิดความแตกแยกในหมู่สงฆ์ นอกจากนี้แล้ว บุคคลที่มีสิทธิ์ตกนรกอเวจี ได้เช่นกันได้แก่ คนที่ทำ อาจิณกรรม คือกรรมหนักทีทำเป็นประจำ เช่น พวกที่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเป็นอาจิณ ฆ่าเป็นประจำ ฆ่าอยู่ทุกวันชั่วนาตาปี จนไม่มีความรู้สึกกลัวต่อบาปอีกแล้ว คนพวกนี้เมื่อตายไป ก็ต้องตกนรกอเวจี ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดเช่นกัน          

           ผมอยากทราบที่มาครับว่าเรื่องนายโคฆาตอยู่ในพระไตรปิฎกเล่มไหนอย่างไร
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ลองพิจารณาดูครับ เรื่่องไหน    หาโดย  พิมพ์ว่า โคฆาต 84000
https://www.google.co.th/search?q=%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%86%E0%B8%B2%E0%B8%95+84000&aq=f&oq=%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%86%E0%B8%B2%E0%B8%95+84000&aqs=chrome.0.57j60.5653j0&sourceid=chrome&ie=UTF-8
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่